โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชัวร์ก่อนแชร์: สหรัฐฯ ตัดงบพัฒนาวัคซีน mRNA เพราะไม่ปลอดภัย จริงหรือ?

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 2 กันยายน 2568 เวลา 10.57 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

02 กันยายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ข้อมูลน่าสงสัย :

มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน mRNA เผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา ในเดือนสิงหาคม 2025 โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ (HHS) ของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีน mRNA จำนวน 22 โครงการ มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอ้างอิงงานวิจัยที่พบว่า

1.วัคซีน mRNA ล้มเหลวในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน
2.วัคซีน mRNA ล้มเหลวในการรับมือไวรัสกลายพันธุ์
3.วัคซีน mRNA กระตุ้นให้ไวรัสกลายพันธุ์มากขึ้น
4.เทคโนโลยีวัคซีนแบบเดิมรับมือไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีกว่า โดยย้ำว่าจะไม่สนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA อีกต่อไป

บทสรุป :

1.หน้าที่ของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA คือการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง
2.วัคซีน mRNA รับมือการกลายพันธุ์ของไวรัสได้ดี
3.วัคซีน mRNA ไม่ใช่สาเหตุการกลายพันธุ์ของไวรัส
4.วัคซีนแบบดั้งเดิม รับมือไวรัสกลายพันธุ์ได้ด้อยกว่า
5.สหรัฐฯ เสี่ยงสมองไหลจากการขัดขวางวัคซีน mRNA

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

HHS อ้างงานวิจัยไร้มาตรฐานและมีอคติ

ในวันที่ 11 สิงหาคม 2025 เว็บไซต์ของกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ (HHS) เผยแพร่งานวิจัยที่ใช้เพื่อการตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีน mRNA ซึ่งการตรวจสอบพบว่าเป็นงานวิจัยที่ยังไม่ผ่านการ Peer-Reviewed หรือการตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ และทีมงานวิจัยหลายคนยังมีประวัติเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน mRNA บ่อยครั้ง

เนื้อหาหลักในงานวิจัยเน้นโจมตีส่วนประกอบของวัคซีนและอาการข้างเคียงจากวัคซีน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาที่วงการแพทย์ให้ความกังวล เนื่องจากอาการข้างเคียงสามารถพบจากวัคซีนชนิดอื่น และการติดเชื้อไวรัสยังมีอาการรุนแรงยิ่งกว่า

ส่วนข้ออ้างที่ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ นำมายืนยันการตัดสินใจตัดงบประมาณสนับสนุนวัคซีน mRNA ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์

1.หน้าที่ของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA คือการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง

ดร.เจค สก็อตต์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ รองศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชี้แจงว่า หน้าที่ของวัคซีนไม่ใช่การยับยั้งการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน การป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนไม่เคยถูกใช้เป็นมาตรฐานวัดประสิทธิผลของวัคซีน ข้ออ้างเรื่องการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนไม่สะท้อนความเป็นจริง และทำให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจผิด

เจฟ คอลเลอร์ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยา RNA มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอฟกินส์ ย้ำว่า วัคซีนไม่ได้มีหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ แต่ป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิต ถือเป็นหน้าที่หลักที่ใช้วัดศักยภาพของวัคซีนแต่ละชนิด

2.วัคซีน mRNA รับมือการกลายพันธุ์ของไวรัสได้ดี

โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ พยายามด้อยค่าวัคซีน mRNA ด้วยการพูดเกินจริงว่า เมื่อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์เพียงแค่ตำแหน่งเดียว ประสิทธิผลของวัคซีน mRNA ก็จะหมดไป

ดร.ปีเตอร์ โฮเตซ ผู้อำนวยการร่วมของศูนย์วิจัยวัคซีน โรงพยาบาล Texas Children’s Hospital กล่าวว่า ข้ออ้างของ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ผิดหลักทางการแพทย์อย่างชัดเจน เพราะการกลายพันธุ์ของไวรัสแค่ตำแหน่งเดียว ไม่ทำให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลงแต่อย่างใด

ประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA จะลดลงอย่างมาก หากไวรัสมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง แต่หน้าที่ป้องกันของวัคซีนไม่ได้หมดไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการป้องกันการป่วยหนัก

นอกจากนี้ จุดเด่นของวัคซีน mRNA คือการดัดแปลงเพื่อรับมือกับไวรัสที่กลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากจะทำให้วัคซีนป้องกันไวรัสได้ดีขึ้น ยังช่วยลดอาการข้างเคียงให้น้อยลงได้อีกด้วย

3.วัคซีน mRNA ไม่ใช่สาเหตุการกลายพันธุ์ของไวรัส

ดร.พอล ออฟฟิต ผู้อำนวยการศูนย์วัคซีนศึกษา โรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia โต้แย้งความเห็นของ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ที่กล่าวหาว่า วัคซีน mRNA กระตุ้นให้ไวรัสกลายพันธุ์และทำให้การแพร่ระบาดยาวนานขึ้น โดยชี้ว่าไวรัสมีการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวัคซีน ซึ่งไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่ระบาดในปี 2021 ก็เกิดจากการกลายพันธุ์ตั้งแต่ก่อนการผลิตวัคซีน

เห็นได้จากการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่องของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีน mRNA ออกมาใช้

4.วัคซีนแบบดั้งเดิม รับมือไวรัสกลายพันธุ์ได้ด้อยกว่า

โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ประกาศว่ากระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ จะหันไปลงทุนผลิตวัคซีนที่ปลอดภัยกว่า อย่างเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนเชื้อตาย ที่อ้างว่าประสิทธิผลจะไม่ลดลงเมื่อไวรัสกลายพันธุ์

แต่โครงการดังกล่าวสร้างความกังขาในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน

ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัยมินเนโซตา ชี้แจงว่า เทคโนโลยีวัคซีนแบบเดิมอาจไม่มีประสิทธิผลหรือปลอดภัยมากกว่าเทคโนโลยีวัคซีนแบบใหม่ เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่อุทิศเวลาทั้งชีวิตเพื่อผลิตวัคซีนไวรัสไข้หวัดใหญ่ต่างรู้ดีว่าการผลิตวัคซีนรูปแบบเก่าที่ HHS ให้การสนับสนุนเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมาก เพราะวัคซีนที่ผลิตจากเทคโนโลยีเดิม ๆ ได้รับการประเมินประสิทธิผลมานานหลายปีแล้วว่ารับมือกับการแพร่ระบาดไม่ดีเท่าเทคโนโลยีวัคซีนสมัยใหม่

ดร.ปีเตอร์ โฮเตซ จากโรงพยาบาล Texas Children’s Hospital เปรียบเทียบว่า ในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด สาธารณรัฐประชาชนจีนก็พัฒนาวัคซีนโดยการเพาะเลี้ยงไวรัส ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าเหมือนที่ HHS ให้การสนับสนุน ซึ่งประสิทธิผลของวัคซีนเชื้อตายของทางการจีนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น และหากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งใหญ่อีกครั้ง การพึ่งพาเทคโนโลยีเก่าจะนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนวัคซีน เนื่องจากวัคซีนที่ผลิตจากไวรัสที่ต้องนำไปเพาะเลี้ยงในเซลล์หรือในไข่ไก่ ไม่สามารถผลิตออกมาในปริมาณที่พอเพียงในเวลาอันจำกัดได้

สหรัฐฯ เสี่ยงสมองไหลจากการขัดขวางวัคซีน mRNA

ดร.ดรูว์ ไวส์แมน ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรม RNA มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ร่วมกับ คาทาลิน คาริโก ในปี 2023 จากการพัฒนาเทคโนโลยี mRNA ในปี 2005 กล่าวว่า การตัดงบสนับสนุนวัคซีน mRNA ถือเป็นการบ่อนทำลายวงการวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกหลายทศวรรษ

ดร.ดรูว์ ไวส์แมน ย้ำว่า เทคโนโลยี mRNA มีศักยภาพอย่างสูงในการพัฒนาวงการแพทย์ และเงินสนับสนุนของรัฐบาลคือท่อน้ำเลี้ยงสำคัญให้นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้นโครงการวิจัย การยกเลิกแผนพัฒนาเทคโนโลยี mRNA ซึ่งถือกำเนิดในสหรัฐฯ จะทำให้วงการวิทยาศาสตร์สูญเสียบุคลากรหนุ่มสาวที่อาจเลือกไปทำงานยังต่างประเทศ ส่งผลให้ชาติอื่น ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเทคโนโลยี mRNA แทนที่สหรัฐฯ ในที่สุด

ผลงานจากแต่งตั้ง Anti Vaxxer เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพ

นับตั้งแต่ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ มีการนำแนวคิดต่อต้านวัคซีนมาเปลี่ยนแปลงนโยบายวัคซีนของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง

ช่วงเดือนพฤษภาคม 2025 มีการถอนวัคซีนโควิด-19 จากรายชื่อวัคซีนแนะนำสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ที่มีสุขภาพแข็งแรง

ส่วนเดือนมิถุนายน 2025 มีการสั่งปลดสมาชิกคณะกรรมการให้คำแนะนำด้านวัคซีนของรัฐบาลทั้งหมด 17 คน และแทนที่ด้วยบุคลากรที่มีประวัติวิจารณ์ประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีน

เจฟ คอลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยา RNA มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอฟกินส์ ย้ำว่า ความสำเร็จของวัคซีน mRNA เกิดจากโครงการ Operation Warp Speed ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กระตุ้นการผลิตวัคซีนโควิด-19 อย่างรวดเร็วในปี 2020 จนช่วยชีวิตผู้คนได้นับล้าน เป็นเรื่องน่าสงสัยอย่างยิ่งว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมให้ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ มาทำลายมรดกความสำเร็จทางการแพทย์ของเขา รวมถึงทำลายโอกาสการเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนายาของสหรัฐฯ เช่นนี้ได้อย่างไร

ประโยชน์ที่ชัดเจนของวัคซีน mRNA

ดร.ดรูว์ ไวส์แมน ย้ำว่า วัคซีน RNA คือวัคซีนที่มีการตรวจสอบมากที่สุด และได้รับการยืนยันว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยี RNA จึงได้รับความสนใจไปทั่วโลก

ข้อมูลการสำรวจปี 2024 ขององค์การอนามัยโลก พบว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ลดการเสียชีวิตในทวีปยุโรปได้ถึง 57% และช่วยชีวิตผู้คนได้กว่า 1.4 ล้านครั้งนับตั้งแต่เริ่มนำมาใช้ในเดือนธันวาคม 2020

งานวิจัยของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล พบว่าในช่วง 2 ปีแรกของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA วัคซีนป้องกันการเสียชีวิตของชาวอเมริกันได้ 3 ล้านครั้ง

งานวิจัยปี 2022 ที่เผยแพร่ทางวารสาร Lancet Infectious Diseases พบว่า ในช่วงปีแรกของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA วัคซีนป้องกันการเสียชีวิตของประชากรโลกได้ 20 ล้านครั้งใน 185 ประเทศ โดยช่วยชีวิตได้ 4.2 ล้านครั้งในอินเดีย 1.9 ล้านครั้งในสหรัฐฯ 1 ล้านครั้งในบราซิล 6 แสนครั้งในฝรั่งเศส และ 5 แสนครั้งในสหราชอาณาจักร

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2025/08/rfk-jr-justifies-cuts-to-mrna-vaccine-projects-with-falsehoods/
https://apnews.com/article/fact-check-rfk-mrna-vaccines-effective-76633aadedfad3bec9a77e524c7ce6f7
https://www.bbc.com/news/articles/c74dzdddvmjo

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

แข้ง “ช้างศึก” ถึงกาญจนบุรี เตรียมลุยศึกฟุตบอลคิงส์คัพ

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

9 ทันโลก : จีนจัดประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO)

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ หนุ่มกัมพูชา วัย 33 ปีเสียชีวิต จ.ชลบุรี

สวพ.FM91

เดลินิวส์ 2 ก.ย. เท้งเดินเกมไม่เลือกใคร หวั่นถูกหักหลัง-จี้ ‘ยุบสภา’

เดลินิวส์

พยากรณ์อากาศ 2ก.ย.68 รับมือฝนถล่ม ตาก-จันทบุรี-ตราด-ระนอง-พังงา

PostToday
วิดีโอ

ถ้ามึ_คุยกันไม่รู้เรื่องมาแน่! มัลลิกา จัด ครม.ชุดใหม่ มาหมด บิ๊กปู บิ๊กกุ้ง แล้วจัดการเขมรต่อได้อีก

BRIGHTTV.CO.TH

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ชูกลยุทธ์ EPR อย่างยั่งยืน

ฐานเศรษฐกิจ

ใครแข็งขืนโดน!ทรัมป์แฉอินเดียตี2หน้าจับมือจีน-รัสเซีย ลับหลังเสนอลดภาษีสหรัฐฯเหลือ0%

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ชัวร์ก่อนแชร์: สหรัฐฯ ตัดงบวัคซีน mRNA ไข้หวัดนกเพราะผลทดสอบไม่เพียงพอ จริงหรือ?

สำนักข่าวไทย Online

ชัวร์ก่อนแชร์ : วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ญี่ปุ่นไม่บังคับประชาชนฉีดแล้ว จริงหรือ ?

สำนักข่าวไทย Online

รมว. สาธารณสุขสหรัฐปลดคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีน

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...