อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลกาซาซ้ำสองครั้ง เรารู้อะไรบ้าง โลกมีท่าทีอย่างไร

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co

กองกำลังอิสราเอลโจมตีพื้นที่บริเวณโรงพยาบาลในฉนวนกาซาซ้ำถึงสองครั้ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 4 คน และนักข่าวภาคสนาม 5 คนที่ทำงานให้กับสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง AP, Reuters, Al Jazeera และ Middle East Eye รวมอยู่ด้วย ทำให้อิสราเอลได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงประณามอย่างมาก

เหตุโจมตีเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนัสเซอร์ในฉนวนกาซา กล่าวว่า การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นประมาณ 10:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงทำให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายพยายามรีบอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล แต่กลับถูกโจมตีซ้ำเป็นครั้งที่สองในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า แผนกฉุกเฉิน ห้องผู้ป่วยใน และห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่บันไดหนีไฟฉุกเฉินก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นเดียวกัน

สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า ภาพเหตุโจมตีระลอกสองได้โจมตีหน่วยกู้ภัยที่เดินทางมาช่วยผู้ที่ตกเป็นเป้าโจมตีครั้งแรก ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากลระหว่างประเทศ

รายชื่อนักข่าวที่เสียชีวิตได้รับการยืนยันแล้ว ได้แก่ ฮูซัม อัล-มัสรี ช่างภาพวิดีโอของ Reuters, มาเรียม ดักกา นักข่าวอิสระที่ทำงานให้ AP, โมฮัมหมัด ซาลามา ผู้สื่อข่าวของ Al Jazeera, อาห์เหม็ด อาบู อาซิซ นักข่าวอิสระของ Middle East Eye และ โมอาซ อาบู ทาฮา ช่างภาพ ขณะที่ข้อมูลผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก

เหตุโจมตีครั้งนี้ ทำให้จำนวนนักข่าวที่เสียชีวิตในฉนวนกาซา นับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาส เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2023 เพิ่มขึ้นเกือบถึง 200 คนแล้ว โดยสื่อต่างประเทศมักพึ่งพานักข่าวท้องถิ่น ในการรายงานข่าวหรือรายงานสถานการณ์ส่วนใหญ่ในกาซา เนื่องจากอิสราเอลสั่งห้ามนักข่าวต่างประเทศเดินทางเข้าฉนวนกาซาโดยลำพัง ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสงคราม

ท่าทีอิสราเอลเป็นอย่างไร

เบื้องต้น กองทัพอิสราเอลยืนยันว่า ได้โจมตีใส่พื้นที่โรงพยาบาลนัสเซอร์ในฉนวนกาซา โดยมีการออกแถลงการณ์หลายครั้งตลอดทั้งวัน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการโจมตีมากนัก อีกทั้ง แถลงการณ์เหล่านี้ไม่ได้กล่าวถึงการโจมตี ‘สองระลอก’ อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้คนเสียชีวิตจากเหตุโจมตีซ้ำครั้งที่สองตรงจุดเดิมที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุโจมตีครั้งแรกประมาณ 10 นาที ซึ่งดูมีเจตนาเป็นพิเศษ

‘การโจมตีสองระลอก’ เป็นยุทธศาสตร์ทางทหารที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากมุ่งหวังเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิต โดยโจมตีซ้ำที่จุดเกิดเหตุครั้งแรก โดยองค์กรสื่อหลายแห่ง รวมถึงสมาคมนักข่าวต่างประเทศในอิสราเอลและปาเลสไตน์กล่าวโจมตีกองทัพอิสราเอลว่า มีรูปแบบการรบที่ตั้งใจโจมตีนักข่าวอย่างต่อเนื่อง ตลอดการสู้รบ

ขณะที่โฆษกกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า นักข่าวที่ถูกสังหารจากเหตุโจมตีโรงพยาบาลในกาซา ไม่ได้เป็น ‘เป้าหมายของการโจมตี’

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุว่า เป็น ‘อุบัติเหตุที่น่าเศร้า’ พร้อมย้ำว่า อิสราเอล “ให้ความสำคัญกับการทำงานของนักข่าว เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และพลเรือนทุกคน” และกองทัพกำลัง ‘ดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียด’

ทั่วโลกมีท่าทีอย่างไร ต่อเหตุโจมตีนี้

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ประณามอย่างรุนแรงต่อ ‘การสังหารอันโหดร้าย’ ที่โรงพยาบาลนัสเซอร์ และกล่าวว่า สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และนักข่าวต้องเผชิญ ขณะปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความขัดแย้ง” พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

รัฐบาลสหราชอาณาจักรชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้ “น่าสะเทือนใจ” และ “ยากที่จะแก้ตัวได้” ทางด้านโฆษกของเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า นักข่าวควรได้รับการคุ้มครองเสมอ และเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการหยุดยิง

ขณะที่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า การโจมตีนี้เป็นสิ่งที่ ‘ยอมรับไม่ได้’ และเน้นย้ำว่าสิทธิของพลเรือนและนักข่าวต้องได้รับการคุ้มครอง พร้อมเรียกร้องให้เปิดทางเพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา และให้อิสราเอล ‘เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ’

ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ ‘ไม่พอใจ’ กับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

ทางด้าน คณะกรรมการคุ้มครองนักข่าว (Committee to Protect Journalists: CPJ) ระบุว่า การสู้รบในฉนวนกาซาเป็นความขัดแย้งที่ ‘ร้ายแรงที่สุด’ เท่าที่เคยมีการบันทึกมาสำหรับนักข่าว พร้อมชี้ว่า มีนักข่าวเสียชีวิตในฉนวนกาซาในช่วงสองปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่สงครามเปิดฉาก ‘มากกว่า’ จำนวนนักข่าวที่เสียชีวิตทั่วโลกในช่วงสามปีที่ผ่านมา

ขณะที่ ฟิลิปเป ลาซซารินี หัวหน้าสำนักงานบรรเทาทุกข์และงานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (UNRWA) แสดงความไม่พอใจต่อการสังหารนักข่าวที่เพิ่มมากขึ้น โดยเขากล่าวว่า การโจมตีนี้เป็น “การปิดปากเสียงสุดท้ายที่รายงานข่าวเกี่ยวกับเด็กๆ ที่เสียชีวิตอย่างเงียบๆ ท่ามกลางความอดอยาก” ในฉนวนกาซา

ส่วน คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) ออกแถลงการณ์ระบุว่า การที่โรงพยาบาลนัสเซอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายที่ยังคงเปิดทำการอยู่ทางตอนใต้ของกาซา และให้การรักษาพยาบาลที่สำคัญและเฉพาะทางแก่ผู้ป่วยนับจำนวนมาก แต่กลับถูกโจมตีและได้รับความเสียหาย จนทำให้บุคลากรทางการแพทย์ นักข่าว ผู้ป่วย และผู้ช่วยเหลือเบื้องต้นถูกสังหารหรือได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นสิ่งที่ ‘ไม่อาจยอมรับได้’

สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การรับประกันให้โรงพยาบาลแห่งนี้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ และยังคงเข้าถึงได้สำหรับทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย โดย ICRC เน้นย้ำว่า ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ สถานพยาบาล พลเรือน และผู้ช่วยเหลือเบื้องต้น ต้องได้รับการเคารพและคุ้มครอง ต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อสนับสนุนการทำงานของพวกเขาและรับประกันความปลอดภัย พร้อมเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้มีการเคารพและคุ้มครองผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีของมนุษย์ท่ามกลางความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ

ภาพ: Abed Rahim Khatib / Anadolu via Getty Images

อ้างอิง: