สัญญาณบวก VS ข่าวลือแรง ศึก 29 ส.ค. ตัดสินชะตานายกฯแพทองธาร
ศึกชี้ชะตานายกฯ 29 ส.ค. : รัฐบาลมั่นใจ "รอด" แต่ข่าวลือยังแรง
ปลายเดือนสิงหาคมนี้ สายตาทั้งประเทศจับจ้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 15.00 น. ซึ่งจะเป็นจังหวะชี้ชะตาอนาคตนายกรัฐมนตรี แต่ท่ามกลางความกดดันที่ถาโถม รัฐบาลกลับส่งสัญญาณเชิงบวกออกมาอย่างต่อเนื่อง
รอยยิ้มและเสียงปรบมือ
ในการประชุม ครม. ล่าสุด บรรยากาศไม่ได้เคร่งเครียดดังที่หลายฝ่ายคาด นายกรัฐมนตรีปรากฏตัวผ่านจอซูมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่บรรดารัฐมนตรีพร้อมใจกันปรบมือให้กำลังใจ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณรวมพลังยืนหยัด
โฆษกรัฐบาลและแกนนำพรรคเพื่อไทย อย่างนายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการนายกฯ และ นพ.พรหมมินทร์ ต่างย้ำเสียงแข็งว่า “ไม่มีแผนสำรอง” เพราะเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะรอดจากคดีและกลับมาทำหน้าที่ต่อได้
เกมการเมืองข้ามพรมแดน
ท่ามกลางความเชื่อมั่นนี้ มีการมองว่า ข่าวลือเรื่อง “เทปเสียงฮุนเซน” และความเคลื่อนไหวจากกัมพูชา เป็นเพียงเกมการเมืองจากภายนอกที่หวังให้ไทยสั่นคลอน หากมีการเปลี่ยนตัวผู้นำก็จะเป็นไปตามแผนของฝ่ายตรงข้าม
ฟ้าใส–ฟ้าครึ้ม : กระแสที่วิ่งคู่กัน
แต่ในอีกด้าน ข่าวลือยังคงหนาหู
- “ฟ้าใส” เล่ากันว่านายกฯ จะรอดพ้น มี “แบ็คอัพสีน้ำเงิน” สนับสนุน และพร้อมสงบศึกชั่วคราว
- “ฟ้าครึ้ม” กลับชี้ว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
ศาลรัฐธรรมนูญเองต้องออกแถลงการณ์เตือน ห้ามใครสร้างกระแสกดดันหรือบิดเบือน เพื่อป้องกันไม่ให้คดีถูกชี้นำโดยบรรยากาศการเมือง
วันตัดสิน
29 สิงหาคมนี้ มีข่าวลือว่านายกฯ อาจเลือกไม่ไปศาล แต่เข้าทำเนียบรัฐบาลแทน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างคุณวราวุธ ศิลปอาชา และคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยืนยันตรงกันว่ายังไม่ได้รับสัญญาณเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใด ๆ
พลเอกสวัสดิ์ ในฐานะ ส.ว. ที่ยื่นคำร้อง ยืนยันจะไปนั่งฟังคำวินิจฉัยในศาลด้วยตนเอง
หลังศาลตัดสิน ยังไม่จบ
แม้ศาลจะชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค. แต่เส้นทางการเมืองยังไม่สิ้นสุด หากนายกฯ รอดพ้นจากคดี ฝ่ายค้านยังเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 และ 152 รออยู่ ซึ่งจะเป็นอีกสมรภูมิทางการเมืองที่นายกรัฐมนตรีต้องเผชิญ
สรุป: รัฐบาลเดินหน้าแสดงความมั่นใจเต็มที่ แต่บนท้องฟ้าแห่งการเมืองยังคงมีทั้งแสงแดดและเมฆครึ้ม ข่าวลือ “ฟ้าใส–ฟ้าครึ้ม” กำลังวิ่งคู่กันไปจนถึงนาทีศาลตัดสิน