โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘สกสว.’ รุกแผนลงพื้นที่ 4 ภาค ประเมินผลลัพธ์งานวิจัยทั่วประเทศ สร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรม

The Bangkok Insight

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight

สกสว. รุกแผนลงพื้นที่ 4 ภาค ประเมินผลลัพธ์งานวิจัยทั่วประเทศ กำหนดเกณฑ์วัดทุกชิ้นงานใช้ได้จริง ผลักดันใช้นวัตกรรมเข้าถึงการพัฒนาในทุกมิติ ลดปัญหาพัฒนาผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อน ตั้งเป้า 150,000 ครัวเรือน หลุดพ้นความยากจน สร้างผลตอบแทน เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจ

ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยว่า สกสว.มีแผนในการเสริมสร้างบทบาท จากผู้บริหารกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) มาสู่การลงมือกำกับดูแลงานวิจัย

สกสว.

พร้อมสำรวจเพื่อประเมินผลในพื้นที่ทั่วประเทศที่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริง ภายใต้การบริหารงบประมาณการสนับสนุนงานวิจัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับประชาชน โดย สกสว. มีบทบาทภารกิจ ส่งเสริมให้เกิดการคิดค้น นวัตกรรม เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ เพื่อการพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง

โดยการบูรณาการระบบวิจัยของชาติ ลดความซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน และต่อยอดงานวิจัยอย่างเป็นลำดับขั้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถแก้ปัญหา และเพิ่มศักยภาพได้ตรงจุด เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ศ.ดร.สมปอง ระบุว่า สกสว. จำเป็นต้องดำเนินงานในเชิงรุก ไม่รอให้โครงการเดินเข้ามาหา แต่จะลงพื้นที่ไปสำรวจปัญหา และความต้องการด้วยตัวเอง โดยมีแผนที่จะเดินทางไปทุกภูมิภาคของไทย เพื่อให้ทุกบาทที่ลงทุนวัดผลได้ และเกิดการยอมรับงานวิจัย ที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหา และพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง

เป็นที่ยอมรับขององค์กรทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อให้ไทยมีศักยภาพเพียงพอในการทำงานวิจัย และมีการบูรณาการนำไปสู่การปฏิบัติ มากกว่าทำงานวิจัยแบบซ้ำซ้อน ก่อให้เกิดความหลากหลายของผลลัพธ์จากงานวิจัย

สกสว.

โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ที่ควรเน้นต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มในผลผลิตทางการเกษตรมากขึ้น และการแก้ปัญหาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เป็นวิกฤติของประเทศ

ศ.ดร.สมปอง ยังกล่าวถึงตัวอย่างการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งถูกยกระดับให้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ประสบผลสำเร็จ ในการนำเทคโนโลยีนวัตกรรม มาเพื่อบริหารจัดการค่าฝุ่นในพื้นที่ โดยตั้งเป้าให้คนไทยทุกคนได้สิทธิในการหายใจด้วย "อากาศสะอาด" ภายในสิ้นปีนี้

เพราะปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในภาคเหนือคือโจทย์สำคัญที่ สกสว. ใช้เป็นกรณีเร่งด่วน ที่ได้ทำงานเชิงรุก เป็นอีกหนึ่งโครงการของภาคเหนือที่สนับสนุนครอบคลุมตั้งแต่ การพัฒนาเครื่องมือวัดฝุ่นความแม่นยำสูง ซอฟต์แวร์ตรวจจับจุดความร้อน (Hotspot) การใช้ข้อมูลจากดาวเทียม GEO เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวัง การวางแผนดับไฟป่าอย่างเป็นระบบ

ข้อมูลทั้งหมดถูกรวมเป็น แผนยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่ 5 ปี ด้านการบริหารจัดการการเผา ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่สามารถขยายไปยังจังหวัดอื่นได้ และมีการดำเนินการใช้จริงในพื้นที่แล้ว

สกสว.

การทำงานของ สกสว . ในระยะต่อไป จะมุ่งขับเคลื่อนด้วยแนวคิด "SRI for ALL" ที่เป็นหัวใจของการทำงาน เพื่อให้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เชื่อมกับปัญหาและความต้องการจริงของชุมชน สร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ สังคม และนโยบายอย่างชัดเจน

สกสว. ตั้งเป้าให้การวิจัยไทยไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางวิชาการ แต่เป็นพลังขับเคลื่อนให้ประชาชนอย่างมีเป้าหมายให้ “กินดี อยู่ดี อย่างยั่งยืน” และ ต้องทำให้นวัตกรรมกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

ทางด้าน ศ.ดร.วิษณุ มีอยู่ รองผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว. ไม่ใช่หน่วยงานให้ทุนโดยตรง แต่เป็น "ผู้บูรณาการระบบ" (System Integrator) ทำงานเหมือน "สำนักงบประมาณบวกสภาพัฒน์ฯ"

โดยได้จัดทำตัวชี้วัดว่า เงิน 1 บาท ในระบบวิจัย สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 3.9–4 บาท และทำให้ 150,000 ครัวเรือนพ้นจากความยากจน

แม้ว่ายังมีหลายโครงการ ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ แต่ยังไม่สามารถวัดเป็นมูลค่าได้ แต่มีส่วนสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิต และชื่อเสียงของประเทศในเวทีโลกได้

สกสว

ศ.ดร.วิษณุ ย้ำว่า สกสว. มีบทบาทสำคัญในการผลักดันงานวิจัยสู่การใช้งานจริง และเชิงพาณิชย์ โดยมีหน่วยบ่มเพาะธุรกิจ (Business Incubator) ที่จะช่วยให้นักวิจัยกลายเป็นเจ้าของกิจการได้

ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมหลายกรณี เช่น การพัฒนามิเตอร์ไฟฟ้าดิจิทัล ที่ผลิตในประเทศ ซึ่ง สกสว. ช่วยผลักดันจนได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. หรือกรณีผลิตภัณฑ์เซรามิกของไทยที่มีคุณภาพสูง แต่ยังขาดการสร้างเรื่องราว (Storytelling) และการสื่อสารเพื่อเพิ่มมูลค่าเหมือนกับสินค้าจากต่างประเทศ

ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ เช่น กรณีคนญี่ปุ่นได้นำเรื่องราวเข้าไป ถ้วยชาเขียวใบหนึ่งขายได้ 5,000 บาท ขณะที่เซรามิกไทยคุณภาพดีกว่า แต่ยังขาดการสื่อสารที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็น สิ่ง สกสว.ต้องเข้าไปช่วย

หรือมีหลายหน่วยงานวิจัยเรื่องสมุนไพร ต่างคนต่างทำ ควรจะมีการรวมพลังกันที่จะปั้น เพื่อชูสมุนไพรไทยให้เป็น Product Champion ของประเทศ เช่น ยาดม ขวดพลาสติก ราคา 30 บาท ต้องระดมสมองรวมพลัง นำนวตกรรมมาต่อยอด ปรับปรุงแพคเกจจิ้ง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล

ดังนั้นเห็นว่า เป้าหมายการวิจัยเพื่อส่งเสริมรายได้ชุมชน มีหลายผลิตภัณฑ์ที่มีความซ้ำซ้อน จนไม่สามารถสร้างอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์แต่ละชุมชนได้อย่างแท้จริง อาทิ ยาหม่อง ยาสระผม สบู่ ซึ่งจะพบอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในการเป็นสินค้าประจำชุมชน

ซึ่งหากนำแนวคิดในเชิงการตลาดมาวิเคราะห์ เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่ออกมาซ้ำ ๆ เป็นจำนวนมาก ย่อมส่งผลต่อราคาจำหน่าย และยอดขายก็จะลดลงในที่สุด

สกสว.

ทั้งนี้ สกสว. ได้จัดกิจกรรม "RU CONNEXT: สานพลัง วิจัยไทย ใช้งานจริง" ขึ้นมา นับเป็นครั้งแรกในการเดินหน้า มองหางานวิจัยที่มีศักยภาพ เริ่มจากในภาคเหนือ เมื่อวันที่ 7-8 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โดยดึงเครือข่ายมหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่ง ร่วมนำผลงานเด่น เช่น โรงงานต้นแบบสารสกัดสมุนไพร ศูนย์นวัตกรรมสมุนไพร ระบบตรวจวัด PM แบบเรียลไทม์ และนวัตกรรมจัดการน้ำเสียเป็นศูนย์ มาช่วยยกระดับเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตท้องถิ่น

เป็นการนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์และสร้างเป็นนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้จริงในภูมิภาคต่างๆของไทย

ส่วน ในปลายเดือนสิงหาคม จนถึงต้นกันยายนนี้ จะเตรียมลงไปค้นหางานวิจัยในภาคใต้ ที่มีคุณค่า และสร้างประโยชน์ โดยมีเป้าหมายจะไปครบทุกภูมิภาค เพื่อไปร่วมหารือกับนักวิจัย กำหนดแนวทางในการทำงานวิจัยสู่การปฏิบัติจริง

พร้อมนำผลงานที่โดดเด่น และมีศักยภาพสูง สู่เวที Venture Rise (VR) Thailand 2025 และต่อยอดความร่วมมือผ่านโครงการ INNOGLOBE เพื่อยกระดับการใช้ประโยชน์งานวิจัยในระดับนานาชาติ

สกสว.

จับมือกับพันธมิตรจากจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐ และสิงคโปร์ ในอุตสาหกรรมฐานวิจัย เช่น AI พลังงานสะอาด เทคโนโลยีอาหาร และชีวเภสัชภัณฑ์ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและดึงการลงทุนเข้าสู่ไทย

สกสว. พร้อมเปิดรับความคิดเห็น นำงานวิจัยต่าง ๆ เผยแพร่ผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ซึ่งประชาชน ผู้ประกอบการทุกขนาด สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ทั้งในเชิงนโยบายและกลไกการขับเคลื่อนได้ทาง Facebook เว็บไซต์ ยูทูบ ติ๊กต๊อก และเอ็กซ์ ของ สกสว.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X :https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Bangkok Insight

‘หนูดี อรปรียา’ ขึ้นแท่นนางเอกป้ายแดง จากเวทีนางงาม สู่เส้นทางการแสดง

7 นาทีที่แล้ว

‘ดานอน’ ย้ำสร้างวัฒนธรรมองค์กรระดับสากล ดึงศักยภาพพนักงาน เพิ่มทักษะเสริมแกร่ง

21 นาทีที่แล้ว

นานทีได้เห็น นุ่น วรนุช หวานปนแซ่บ ใส่เกาะอกโพสท่าริมชายหาด

24 นาทีที่แล้ว

ครม. เคาะไฟเขียวโยกงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.6 หมื่นล้าน ใส่งบสำรองฉุกเฉินจำเป็น

27 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

Govt. apologises for delaying ฿20 Bangkok-wide train fares until November

Thai PBS World

“ESG DNA” สร้างความรู้ ทักษะความยั่งยืนสู่พนักงาน 1.9 แสนคน

สำนักข่าวไทย Online

โคเรียน แอร์ ทุ่ม 5 หมื่นล้านดอลล์ ซื้อเครื่องบินโบอิง 103 ลำ บวกเครื่องยนต์ GE

Xinhua

ตร.ท่องเที่ยวโชว์ผลงานกล้อง AI ด้านความปลอดภัย 10 วันจับผู้ต้องหาได้ 71 ราย

สยามรัฐ

ทนไม่ไหว จนลบโพสต์แล้ว ร้านอาหารกัมพูชา ที่ห้ามคนไทยกับหนูเข้า

NATIONTV

เสธ.เบิร์ด ขีดเส้น 6 เดือน! สั่งเขมรย้ายคนพ้น หนองจาน ก่อนรั้วลวดหนาม เป็นรั้วถาวร

Thaiger
วิดีโอ

เดือดชายแดน ชาวบ้านเขมรบุกรื้อลวดหนาม อ้างนี่คือแผ่นดินกัมพูชา

สยามนิวส์

🛑LIVE ปากกล้าขาสั่น | ห้องข่าวไทยโพสต์

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Dow เปิดตัว ‘ซิลิโคนแว็กซ์’ คุณภาพเยี่ยม ตอบโจทย์เครื่องสำอางยุคใหม่

The Bangkok Insight

สพด.ร้อยเอ็ด ร่วมฝึกอบรม ‘นักบริหารยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ดิน’ รุ่นที่ 1

The Bangkok Insight

เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล Techsauce Awards 2025

The Bangkok Insight
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...