"มนพร" ลุยตรวจสนามบินอุบลฯ คุมเข้มบินโดรน-ความปลอดภัยชายแดน
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (11 สิงหาคม 2568) ได้ลงพื้นที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)
พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ควบคุมการบินอุบลราชธานี และรับฟังบรรยายสรุปการติดตามมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับให้ท่าอากาศยานอุบลราชธานีเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ
โดยสั่งการให้ ทย. ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารให้สามารถรองรับได้ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดสรรพื้นที่สำหรับจุดตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความพร้อมและดึงดูดให้สายการบินเปิดเส้นทางบินใหม่มายังจังหวัดอุบลราชธานี สนับสนุนการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการบินของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในส่วนของ บวท. ได้มอบหมายให้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากร เพื่อสนับสนุนมาตรการส่งเสริมเส้นทางบินมายังจังหวัดอุบลราชธานี และบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ มุ่งสู่การเป็นฮับการบินตามนโยบายรัฐบาล พร้อมทั้งให้สนับสนุนภารกิจการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดสิ่งของและเงินบริจาคช่วยเหลือทั้งในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ ทย. และ บวท. ดำเนินมาตรการด้านความมั่นคงอย่างเข้มงวด ทั้งการเฝ้าระวังและควบคุมการใช้โดรนในเขตท่าอากาศยาน เพิ่มความถี่การตรวจการณ์พื้นที่การบิน บูรณการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ รวมถึเตรียมแผนตอบสนองฉุกเฉินและซ้อมปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับผู้โดยสาร สายการบิน และท่าอากาศยาน
ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าอากาศยานอุบลราชธานีมีระบบ VDO Conference เชื่อมต่อกับส่วนกลางติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ทำให้สามารถรองรับการให้ความช่วยเหลือทั้งทหารและผู้อพยพได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันท่าอากาศยานฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,050 คน/ชั่วโมง หรือ 3 ล้านคน/ปี ทางวิ่งยาว 3,000 เมตร รองรับ 6 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ลานจอดอากาศยานรองรับอากาศยานขนาด 180-350 ที่นั่งได้ 5 ลำ ลานจอดรถรองรับได้ 230 คัน ให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศจากดอนเมือง ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย 4 เที่ยว/วัน, นกแอร์ 2–3 เที่ยว/วัน, ไทยไลอ้อนแอร์ 2 เที่ยว/วัน และจากสุวรรณภูมิ ได้แก่ การบินไทย 2 เที่ยว/วัน, ไทยเวียตเจ็ท 2 เที่ยว/วัน
นอกจากนี้ ยังมีระบบขนส่งสาธารณะครบวงจร ได้แก่ รถเช่าจากผู้ประกอบการ 7 ราย รถแท็กซี่มิเตอร์ และรถซิตี้บัสเส้นทาง บขส.–สนามบิน–เซ็นทรัลอุบลฯ โดยมีจุดจอดบริเวณอาคารศูนย์ขนส่งสาธารณะ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึงเที่ยวบินสุดท้ายของวัน
สำหรับแผนพัฒนาท่าอากาศยานฯ งบประมาณปี 2568 ทย. ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย อาทิ การจัดหาเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ Dual View X-Ray ระบบไฟส่องสว่างแนวรั้วเขตการบิน
กล้องตรวจการแบบ Panorama เครื่องตรวจสารวัตถุระเบิด (ETD) เครื่องตรวจแบบ Walkthrough และยานพาหนะตรวจจับสิ่งแปลกปลอมบนทางวิ่ง (FOD Vehicle) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและบุคลากรทุกฝ่าย
ทั้งนี้ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายประภูศักดิ์ จินตะเวช ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม และคณะ ลงพื้นที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานีและศูนย์ควบคุมการบินอุบลราชธานี
โดยมีนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน นางวรรณา ไกรกมล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอุบลราชธานี และนายนายเถลิงศักดิ์ ผาทอง ผู้อำนวยการใหญ่ (บริการการเดินอากาศส่วนภูมิภาค) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568.