รวบ 2 คนไทยรับจ้างแก๊งจีน ตระเวนส่ง SMS ปลอมทั่วกรุงเทพฯ
ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ OPERATION KHAO SAN รวบ 2 คนไทยรับจ้างแก๊งจีนขับรถติดตั้งเครื่องกระจายสัญญาณ ตระเวนส่ง SMS ปลอมทั่วกรุงเทพฯ พร้อมเตือนประชาชนอย่ากดลิงก์ต้องสงสัยในข้อความ
วันนี้ (16 ส.ค.68) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลปฏิบัติการ OPERATION KHAO SAN รวบ 2 โจ๋ชาวไทยรับจ้างจีนเทาขับรถซ่อนเครื่องจำลองสถานีฐาน (FBS) ตระเวนส่ง SMS ปลอมทั่วกรุงเทพฯ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับ SMS ต้องสงสัย จึงได้ร่วมกับวิศวกรผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ(AIS) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค้นหาคนร้าย กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยขับอยู่ในซอยสุขุมวิท 3 มุ่งหน้า สน. ชนะสงคราม จึงได้สะกดรอยตาม โดยระหว่างนั้นก็มีข้อความ SMS ลิงก์เข้าเว็บไซต์ปลอมส่งเข้าโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเนื่อง ตำรวจไซเบอร์จึงได้ประสานตำรวจ สน.ชนะสงคราม ช่วยติดตามรถคันดังกล่าว กระทั่งสกัดจับได้ที่ลานจอดรถกองสลากเก่า
จากการตรวจค้นพบ นายนพรัตน์อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่และนายมังกร อายุ 23 ปี นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ บริเวณห้องโดยสารด้านหลังมีเครื่องFBS และกล่องรับส่งสัญญาณ Wi-Fi กำลังทำงานอยู่ โดยเชื่อมต่อกับเครื่องจ่ายไฟเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์กระจายสัญญาณซึ่งติดอยู่บนหลังคารถดัดเป็นรูปครีบฉลาม เพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนพรัตน์ให้การว่าตนได้รับการแนะนำให้รู้จักบอสชาวจีนผ่านเพื่อนพนักงานเสิร์ฟชาวกัมพูชา ที่เคยทำงานด้วยกันในสถานบันเทิงย่านถนนข้าวสาร โดยต่อมาบอสชาวจีนได้ส่งพัสดุมาให้ เป็นแบตเตอรี่ เครื่อง FBS เราเตอร์ Wi-Fi เสาอากาศ และปลั๊ก พร้อมโอนเงินให้ 2,000 บาทเป็นค่าฝากเครื่อง ก่อนสอนวิธีติดตั้งภายในรถยนต์และวิธีใช้งาน จากนั้นก็ให้ตระเวนขับรถตนเองกระจายสัญญาณส่ง SMS เข้าลิงก์ปลอมให้ได้วันละ 5,000-10,000 ข้อความ โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 3,300-3,500 บาท แต่ภายหลังผู้ว่าจ้างชาวจีนได้เปลี่ยนเป็นเช่ารถให้และให้ค่าจ้าง
ภายหลังผู้ว่าจ้างชาวจีนได้เปลี่ยนเป็นเช่ารถให้และให้ค่าจ้างวันละ 1,350 บาท แต่ทำได้เพียงไม่นานก็ถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ บอกว่าเครื่อง FBS สามาถดึงข้อความที่ผู้เสียหายเคยได้รับจากบริษัทต่างๆ เพื่อเลียนแบบข้อความและใช้ชื่อของบริษัทนั้นๆ ในการส่งข้อความให้ผู้เสียหายได้เหมือนข้อความจริง พร้อมแนะนำวิธีการสังเกตว่าหากเป็นข้อความที่มีการแนบลิ้งค์มาด้วย ให้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นข้อความจากมิจฉาชีพ และห้ามกด เพื่อไม่ให้ถูกหลอกจนสูญเสียทรัพย์สิน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังบอสชาวจีนรายดังกล่าวและหาความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เคยจับได้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews