โปรดสถาปนา เลื่อนพระอิสริยยศ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์
ในหลวง ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา เลื่อนพระอิสริยยศ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 11 เป็น ‘สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์’ พระยศสูงสุดสำหรับสมเด็จพระสังฆราชของไทย นับเป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า พระองค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า – มหาเถรสมาคม ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีมติรับทราบพระราชดำริ ดังนี้ ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหนังสือที่ พว. 0202.2/10609 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2568 กราบทูล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเพื่อทรงทราบว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์” นับเป็นสมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า เป็นพระยศสูงสุดสำหรับสมเด็จพระสังฆราชแห่งราชอาณาจักรไทย
สำหรับคำนำพระนาม สมเด็จพระมหาสมณเจ้า นั้นคือคำนำพระนามพระมหาสมณะที่ประสูติในพระบรมราชวงศ์ และเสด็จสถิตในพระอิสริยฐานันดรศักดิ์ชั้นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ คือเป็นพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์ หรือพระราชนัดดาของพระมหากษัตริย์ที่ได้รับสถาปนาเป็นกรณีพิเศษ ส่วนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า โดยหลักจะสถาปนาจากสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระกำเนิดเป็นพระอนุวงศ์ชั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระวรวงศ์เธอ หม่อมเจ้า หรือสามัญชนที่ทรงพระคุณูปการส่วนพระองค์ เช่น เป็นพระราชอุปัธยาจารย์ พระราชกรรมวาจาจารย์ หรือทรงพระราชศรัทธาเป็นพิเศษ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกนานถึง 16 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2464 ในรัชกาลที่ 6 ถึง พ.ศ.2480 ในรัชกาลที่ 8 ทรงพระคุณูปการแก่พระบวรพุทธศาสนาและประเทศชาติอย่างยิ่ง เสด็จสถิตเป็นที่พึ่งแห่งพระบรมราชวงศ์และพุทธศาสนิกชน และทรงเป็นหลักของพุทธศาสนจักรที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตลอดมา
ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระองค์ที่ 2 เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) และในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อครั้งทรงผนวช เป็นที่ทรงเคารพบูชายิ่งของพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ และทรงเป็นพระอุปัชฌายะของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) พระราชอุปัธยาจารย์ในรัชกาลปัจจุบัน นับเนื่องถึงรัชกาลปัจจุบัน จึงทรงเป็นพระบูรพาจารย์ในทางธรรม กล่าวคือเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระราชอุปัธยาจารย์
ในรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสถาปนาเป็น “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” ทรงกรมที่ “กรมหมื่น” เมื่อ พ.ศ.2464 ครั้นถึงรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเลื่อนเป็น “กรมหลวง” เมื่อ พ.ศ.2469
พระกรณียกิจสำคัญคือ ทรงพระอุตสาหะรับเป็นประธานชำระและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ สนองพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กระทั่งสำเร็จบริบูรณ์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งยังทรงพระนิพนธ์พระคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา พจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทยฉบับปฐม ทรงจัดตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยเมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๖ เป็นรากฐานแห่งการศึกษาทางพระพุทธศาสนาในระดับสูงและการบริหารจัดการศาสนสมบัติอย่างเป็นรูปธรรม และทรงพระกรุณาโปรดให้มีการสอบธรรมศึกษาสำหรับคฤหัสถ์ เปิดให้มีการศึกษาพระพุทธศาสนาสู่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
ทั้งนี้ ปรากฏต้นฉบับเอกสารลายพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (พระราชบิดาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7) อนุสนธิพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีพระบรมราชวินิจฉัย ในการเฉลิมพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระที่กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชนิยมให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ ที่ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก มีคำนำพระนามว่า “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า” ทุกพระองค์
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าพระองค์นั้นทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยเสด็จสถิตเป็นที่พึ่งแห่งพระบรมราชวงศ์และพุทธศาสนิกชน นำพาราชอาณาจักรและพุทธจักรให้วัฒนาสถาพรมาได้โดยสวัสดี ตราบกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ.2480 ในรัชกาลที่ 8 ทั้งนี้ ลายพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ที่ทรงรจนาพระนามกรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้เก็บรักษาไว้ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นเวลานานกว่า 90 ปี
มหาเถรสมาคมในการประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาว่า บัดนี้ จะบรรจบอภิลักขิตสมัย 100 ปีนับแต่การพระราชทานเลื่อนเป็น “กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์” และมีมติให้จัดงานเฉลิมพระเกียรติ ด้วยทรงพระคุณูปการทั้งด้านการปกครองคณะสงฆ์ การศึกษา และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงสมควรขอพระราชทานถวายสำเนาเอกสารลายพระหัตถ์เพื่อขอรับพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในโอกาสอันสมควร
อนึ่ง วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน 2568 จะบรรจบอภิลักขิตสมัย 100 ปีนับแต่วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ 100 ปีวันเสด็จขึ้นทรงราชย์แห่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในฐานะวัดประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นอย่างยิ่งมาโดยตลอดรัชสมัย กับทั้งเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารในรัชกาลที่ ๗ จึงเห็นสมควรจัดพิธีบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายทั้งสองพระองค์ การนี้ นับเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้สืบสานพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่ 7 โดยที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงสถิตในที่พระราชกรรมวาจาจารย์ในรัชกาลที่ 6 และในรัชกาลที่ 7 ดังที่ปรากฏในสร้อยพระนามตอนหนึ่งว่า “ไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์” ดังที่กล่าวมาแล้ว และประจวบด้วยอภิลักขิตสมัย 100 ปีแห่งการพระราชทานเลื่อนกรมเป็น “กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์” และได้นำความกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชทราบฝ่าพระบาทแล้ว
บัดนี้ ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหนังสือที่ พว. 0202.2/10609 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2568 กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระราชกรรมวาจาจารย์ในรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 และสกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์” และสร้อยพระนามตามที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ทรงรจนาไว้ เนื่องในโอกาส 100 ปีนับแต่วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ 100 ปีวันเสด็จขึ้นทรงราชย์แห่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ จะมีขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 และประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามจัดถวาย ในวันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม 2568 (อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์) และทรงยกเบญจปฎลเศวตฉัตร ถวายกางกั้นพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้าซึ่งประดิษฐาน ณ ซุ้มคูหาพระเจดีย์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ภายหลังจากการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โปรดสถาปนา เลื่อนพระอิสริยยศ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th