รีวิว OPPO Reno14 5G มือถือฝาหลังดีไซน์หางปลา ถ่ายพอร์ตเทรตสุดชิคด้วย AI แฟลช

“OPPO Reno14 5G” มาถึงมือเรียบร้อย! และหลังจากได้ทดลองใช้งานตัวเครื่องมาสักพักใหญ่ ตอนนี้ก็พร้อมที่จะบอกเล่าประสบการณ์จริงที่ได้สัมผัสผ่านบทความรีวิวให้แฟนคลับ OPPO และ OPPO Reno Series ได้ฟังกันแล้ว มาร่วมต้อนรับน้องใหม่ OPPO Reno14 5G ด้วยกันทางนี้เลยครับ!

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. Specification / รายละเอียดสเปก
2. Design / งานออกแบบ
3. Camera / กล้องถ่ายรูป
4. Performance / ประสิทธิภาพ
5. Battery / แยตเตอรี่
6. Operating System / ระบบปฏิบัติการ
7. Wrap-up / บทสรุป
8. Price & Availability / ราคาและการวางจำหน่าย

/ Specification รายละเอียดสเปก OPPO Reno14 5G

• จอแสดงผล OLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2,760 x 1,256 พิกเซล (FHD+)
  — Refresh Rate 120Hz (Adaptive 120Hz)
  — PWM 3840Hz
  — HDR10+
  — Peak Brightness 1200ntis
  — True Color : 1TB Colors
  — Splash Touch
• ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8350
  — TSMC 4nm.
  — Octa-core Processor 3.35GHz
• GPU Mali G615 M6
• RAM 12GB LPDDR5x (ขยายเพิ่มสูงสุด 12GB)
• ROM 256GB UFS 3.1
• กล้องถ่ายรูป Triple Camera
  — กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (F1.8)
  — กล้องเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8MP (F2.2)
  — กล้อง Telephoto ความละเอียด 50MP (F2.8)
  — ไฟแฟลช 3 ดวง สว่างขึ้นจากรุ่นก่อน 100%
• กล้องหน้า ความละเอียด 50MP (F2.0)
• ColorOS 15 (Base on Android 15)
• WiFi 802.11 : a/b/g/n/ac/6
• รองรับเครือข่าย 4G / 5G
• รองรับการใช้งานซิมการ์ด : Dual nano SIM
• Bluetooth 5.4
• USB-C : 2.0
• ทนน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68/69
• แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh พร้อมชาร์จไว Super VOOC 80W

อุปกรณ์ภายในกล่อง OPPO Reno14 5G

• ตัวเครื่อง OPPO Reno14 5G
• คู่มือใช้งานและรับประกัน
• สายชาร์จ USB-C
• อแดปเตอร์ Super VOOC 80W
• เคสซิลิโคน
• ฟิลม์กันรอย (ติดตั้งมาจากโรงงาน)

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Design ‘Fish Tail’ หางปลาพลิ้วไหวแสนอิสระ

OPPO Reno14 5G ยังคงสานต่องานออกแบบลวดลายฝาหลังจาก OPPO Reno13 Series 5G ที่เลือกใช้แรงบันดาลใจจาก ‘Animalia Kingdom’ มาออกแบบ ซึ่งตอน Reno13 Series 5G ถ้าใครยังจำได้ (ย้อนอ่านรีวิว) ตอนนั้น OPPO เลือกออกแบบลวดลายฝาหลังให้เป็นปีกผีเสื้อแสนสวย ที่แปลกใหม่และแปลกตามาก ๆ สำหรับงานออกแบบฝาหลังสมาร์ตโฟนในตอนนี้

มาครั้งนี้ OPPO Reno14 5G มากับงานออกแบบฝาหลังลวดลายใหม่เป็นลาย ‘หางปลา’ (Fish Tail) ที่ทาง OPPO ต้องการสื่อความหมายถึง ‘ความพลิ้วไหว’ เต็มไปด้วยอิสระของความหลากหลายที่สะท้อนถึงสีสันของลวดลาย ที่เมื่อโดนแสงก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามมุมตกกระทบได้อย่างอิสระ รวมทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนหางปลา ซึ่งลายหางปลานี้ก็จะมีเฉพาะตัวเครื่องสีฟ้า Opal Blue ในรุ่น OPPO Reno14 F และสีขาว Opal White ในรุ่น OPPO Reno14 ที่อยู่ในบทความนี้ครับ

นอกจากลวดลายที่สื่อความหมายที่ดีแล้ว ฝาหลังของ OPPO Reno14 5G ยังมีความพิเศษตรงเป็นแบรนด์และรุ่นแรกในอุตสาหกรรม ที่ใช้กระบวนการผลิตด้วย ‘Iridescent Glow Process’ เป็นกระบวนการผลิตที่ทำให้ลวดลายของฝาหลังสามารถเรืองแสงหรือเหลือบสะท้อนแสงได้เหมือนหอยมุก โดยที่พื้นผิวของฝาหลังไม่ได้นูนหรือเป็นคนละเลเยอร์กับวัสดุหลัก จึงทำให้เวลาเราสัมผัสพื้นผิวก็เป็นผิวสัมผัสเดียวกันทั้งหมด

รวมทั้ง OPPO ยังเลือกใช้วัสดุคลุมฝาหลังทั้งหมดด้วยกระจก Velvet ซึ่งเป็นกระจกที่ตกแต่งหรือหุ้มด้วยกำมะหยี่ ให้มุมมองที่รู้สึกหรูหราและมีผิวสัมผัสที่นุ่มนวล พร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเฉียบ 7.42 มิลลิเมตร ดีไซน์ตัวเครื่องขอบเหลี่ยมมน และเฟรมบอดี้ตัวเครื่องเป็นโลหะผสมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอากาศยาน จึงทำให้ภาพรวมของงานออกแบบตัวเครื่อง OPPO Reno14 5G "เบา แข็งแกร่ง มีสไตล์"

พลิกกลับมาที่ด้านหน้า รอบนี้ OPPO Reno14 5G มากับจอแสดงผล OLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (120Hz) ซึ่งจะครอบทับด้วยกระจกกันกระแทก Crystal Shield Glass ทำให้ทนทานยิ่งขึ้น มีขอบหน้าจอที่บางลงจากรุ่นก่อนพอสมควร จึงทำให้เวลาใช้งานรู้สึกเต็มตามากขึ้น และตัวหน้าจอยังรองรับการแตะสัมผัสขณะที่นิ้วมือเปียกด้วย

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Camera กล้องถ่ายรูปที่ยังไว้ใจได้ รู้ใจขึ้น และทันสมัยเข้ากับยุคสมัยใหม่

จุดเด่นโดยรวมในด้านการถ่ายรูปของ OPPO Reno14 5G ก็คือการที่ครั้งนี้มากับกล้อง Triple Camera ที่มีการเพิ่มกล้อง Telephoto ความละเอียด 50MP เข้ามาใหม่ จากรุ่นก่อนหน้าที่จะมีเฉพาะในรุ่น Pro เท่านั้น ทำให้การถ่ายภาพทำได้สนุกและหลากหลายขึ้น เพราะเราจะสามารถถ่ายพอร์ตเทรตซูมในระยะ 3.5x ได้ ซึ่งระยะถ่ายภาพนี้ ก็จะเหมาะกับการถ่ายสไตล์สตรีทพอร์ตเทรตที่เรามักจะถ่ายกันเวลาไปเที่ยวนั่นเอง

อินเทอร์เฟซกล้องถ่ายรูปของ OPPO Reno14 5G

นอกจากนี้ OPPO Reno14 5G ยังเป็นสมาร์ตโฟนเพียงรุ่นเดียวในช่วงราคานี้ ณ ตอนนี้ ที่ใส่กล้องพอร์ตเทรตซูมระยะ 3.5x มาให้ด้วยนะ! ส่วนอีกจุดที่แปลกใหม่จากคู่แข่งก็คือ การนำเสนอประสบการณ์การถ่ายพอร์ตเทรตที่ทันสมัย และรู้ใจน้อง ๆ เจน Z เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบการถ่ายให้ชิคขึ้นด้วย 'AI แฟลช'

— AI Flash Photography

เป็นคีย์ฟีเจอร์หลักของ OPPO Reno14 5G ในครั้งนี้ ที่ตั้งใจนำเสนอการถ่ายภาพในมุมมองภาพสไตล์ Y2K หรือแนว Vintage ของเหล่าชาว Gen Y กับการใช้ไฟแฟลชในการถ่ายภาพให้ตัวแบบเด่นกว่าพื้นหลัง ได้ฟีลการถ่ายและความรู้สึกของภาพคล้ายกับการใช้กล้อง Digital ก็ว่าได้ครับ

โดยไฟแฟลชของ OPPO Reno14 5G จะมีจุดเด่นอยู่ที่ทาง OPPO ได้เพิ่มดวงไฟ LED แฟลชเข้ามาถึง 3 ดวง จึงทำให้ไฟแฟลชบน OPPO Reno 14 5G มีความสว่างที่สว่างเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 100% และสว่างที่สุดในมือถือช่วงราคาเดียวกันด้วย ซึ่งไฟแฟลชจะทำงานร่วมกับโมดูลและซอฟต์แวร์กล้องใหม่ของ OPPO เลยทำให้ภาพถ่ายออกมาคมชัดและมีความชิคในตัวแม้ในที่แสงน้อย

วิธีการใช้งาน AI Flash Photography

วิธีการ : เข้ากล้องถ่ายรูป > เปิดไฟแฟลชก่อนถ่ายที่มุมซ้ายด้านบน > เลือกปรับบิ้วตี้โหมดและฟิลเตอร์การถ่ายภาพที่ชอบตรงไอคอนวงกลมด้านขวาเหนือเมนูการถ่ายรูป

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Flash Photography

— AI Editor 2.0

ฟีเจอร์แก้ไขภาพถ่ายถ่ายด้วย OPPO AI ซึ่งจะเป็นการนำความเก่งและฉลาดของ AI เข้ามาช่วยปรับ-แก้ไขภาพหลังถ่ายให้ลงตัวและสวยตรงใจขึ้น โดย OPPO Reno14 5G จะมีฟีเจอร์ OPPO AI ในกลุ่ม AI Editor ของเดิมทั้งหมด 4 ฟีเจอร์ และมีการเพิ่มเข้ามาใหม่อีก 2 ฟีเจอร์ รวมทั้งหมด 6 ฟีเจอร์ AI เลยทีเดียว พอ ๆ กับ OPPO Find X8 Series ที่เป็นมือถือเรือธงของแบรนด์

2 ฟีเจอร์ OPPO AI Editor 2.0 ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา

AI Recompose: ใช้ AI ช่วยปรับมุมมองของภาพให้เหมาะสมและสวย ด้วย Compose ใหม่ ซึ่ง AI นอกจากปรับมุมให้ใหม่แล้ว ยังนำเสนออัตราส่วนของภาพ รวมถึงปรับฟิลเตอร์โทนสีของภาพใหม่ได้ด้วย

วิธีใช้งาน AI Recompose

วิธีการ : เลือกรูปถ่ายที่ต้องการ > กดเลือก AI Editor > เลือก AI Recompose > รอ AI ประมวลผล เสร็จแล้วเลือกรูปแบบ (Composition) ที่ต้องการ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ปรับแก้ด้วย AI Recompose

AI Perfect Shot : ใช้ AI ปรับเปลี่ยนรายละเอียดบนใบหน้า เช่น ดวงตา ปาก คิ้ว ใหม่ โดยที่ความยอดเยี่ยมของฟีเจอร์นี้ก็คือ AI จะเลือกใช้ฐานข้อมูลใบหน้าจากภาพที่อยู่ในคลังภาพ (Gallery) บนตัวเครื่องในการปรับแก้ไข ดังนั้นเราจึงได้รายละเอียดใบหน้าเป็นของเราจริง ๆ ไม่ใช่ไปเอาของคนอื่นมาแปะแก้ให้

*หมายเหตุ : ตอนเริ่มต้นใช้งานใหม่ หรือเราพึ่งถ่ายภาพบุคคลอื่น เช่น เพื่อน หรือ ญาติ ครอบครัว ครั้งแรกบนเครื่อง ตอนใช้ฟีเจอร์นี้อาจจะพบว่าไม่สามารถทำงานได้ เพราะ AI จำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลใบหน้าของบุคคลที่เราต้องการปรับแก้ในคลังภาพ จึงจำเป็นต้องให้มีภาพถ่ายของบุคคลนั้นจำนวนมากประมาณหนึ่งก่อน

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ปรับแก้ AI Perfect Shot

4 ฟีเจอร์ OPPO AI Editor 2.0 เดิม

• AI Eraser : ใช้ AI ช่วยลบวัตถุหรือบุคคลที่ไม่ต้องการในภาพออก
• Enhance Clarity : ใช้ AI ช่วยเพิ่มความละเอียดและความคมชัดของภาพถ่ายในระดับความละเอียด 4K
  
• Unblur : แก้ไขภาพเบลอด้วย AI
• Remove Reflection : ลบเงาสะท้อนบนกระจกในภาพถ่ายออกด้วย AI

— พอร์ตเทรตซูมได้ 3.5X

ครั้งนี้ OPPO Reno14 5G สามารถเลือกปรับระยะการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในระยะ 3.5X ได้แล้ว! จึงทำให้มิติการถ่ายภาพพอร์ตเทรตมีความหลากหลายและสนุกมากยิ่งขึ้น เพราะระยะ 3.5X จะเป็นระยะถ่ายภาพที่เราสามารถขยับเข้าใกล้แบบได้มากขึ้นและเหลือพื้นที่ด้านหลังน้อยลง ทำให้ภาพถ่ายของเราสื่ออารมณ์ของบุคคลหรือนางแบบได้ดีและมากขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Tele Portrait 3.5X

ตัวอย่างภาพถ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Performance ชิป Dimensity 8350 ทำงานร่วมกับ OPPO AI Gaming

OPPO Reno14 5G ยังคงใช้ขุมพลัง MediaTek Dimensity 8350 เหมือนตอน OPPO Reno13 5G โดยเป็นชิปประมวลผลแบบ Octa-core เทคโนโลยีการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร ความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.35GHz จับคู่กับชิปประมวลผลกราฟิก ARM Turse G615

พร้อมหน่วยความจำ RAM 12GB แบบ LPDDR5x รองรับ RAM Expansion สูงสุด 12GB และ ROM 256GB / 512GB แบบ UFS 3.1 ใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิ "Nano Dual-Drive Cooling Architecture" ที่จะมีแผ่นกราไฟต์เกรดอากาศยานขนาดใหญ่ 4,700 ตารางมิลลิเมตร ทำงานร่วมกับ OPPO AI ที่ช่วยบริหารทรัพยากรด้านซอฟต์แวร์ให้ขณะเล่นเกม

หรือจะเป็น AI LinkBoost 3.0 ที่จะใช้ AI เข้ามาบริหารจัดด้านการรับส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายโทรศัพท์ให้นิ่งและต่อเนื่อง ดังนั้นประสบการณ์และประสิทธิภาพการเล่นเกม จึงทำได้ดี เล่นได้ต่อเนื่อง สามารถเล่นเกมยอดนิยมอย่าง ROV, PUBG หรือเกมอื่น ๆ ได้สบาย ถึงจะปรับกราฟฟิกบางเกมได้ไม่สุด แต่ประสบการณ์เล่นเกม OPPO Reno14 5G สามารถให้ได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุดแน่นอนครับ

ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Battery แบตเตอรี่ 6000mAh | 80W SuperVOOC

OPPO Reno14 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 6000mAh รองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC ซึ่งเป็นแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน จึงทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น และยังรองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC ด้วย สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ภายในเวลาประมาณ 47 นาที เท่านั้น โดยชาร์จ 10 นาที สามารถสตรีม Youtube ได้ต่อถึง 4 ชั่วโมง

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Operating System ระบบปฏิบัติการ ColorOS with OPPO AI

OPPO Reno14 5G ทำงานบน ColorOS เวอร์ชั่น 15 บนพื้นฐานของ Android OS 15 โดยทาง OPPO ได้นำ Trinity Engine และ Luminous Rendering Engine มาใช้งานบน ColorOS ซึ่งทั้งสอง Engine นี้ จะเข้ามาช่วยยกระดับการประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เฟซของ OPPO ให้ลื่นไหล ตอบสนองไว ถ้าใครได้ลองมาแตะหรือปัดหน้าจอมือถือ OPPO ผมยืนยันเลยว่าจะอุทาน เฮ้ย! ลื่นและติดนิ้วมากแน่นอนครับ ส่วนแอปพลิเคชันที่เคยเป็นข่าวดังในเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ทาง OPPO ได้ถอดออกไปหมดแล้ว ดังนั้นปลอดภัยใช้งานได้อุ่นใจแน่นอน

ลูกเล่นที่น่าสนใจของ ColorOS 15

— OPPO AI Phone with Google Gemeni

ด้วยพื้นฐานเป็น Android 15 ดังนั้น OPPO Reno14 5G จึงสามารถใช้งานฟีเจอร์ AI จาก Google Gemeni ที่เป็นฟีเจอร์ AI พื้นฐานของ Android OS ได้ทั้งหมดครับ เช่น AI Call Translator, AI VoiceScribe, Ai Call Summary เป็นต้น รวมทั้งทาง OPPO ยังให้เจ้าของ OPPO Reno14 5G สามารถใช้งาน Gemini Pro Version ได้ฟรี 3 เดือนด้วย ใครที่ชอบคุยกับน้อง Gemini น่าจะชอบกัน เพราะเวอร์ชัน Pro บอกเลยว่า น้องเก่งและแสบมากกว่าตัวฟรีเยอะเลย

— OPPO O+ Connect

สำหรับใครที่พกอุปกรณ์ของ Apple สลับใช้งานกับสมาร์ตโฟน OPPO แบบผม ผมบอกเลยว่า OPPO O+ Connect คือคำตอบมาก ๆ ครับ เพราะทำให้การทำงานของทั้งสอง OS เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ สำหรับผมที่ใช้ iPad Air สำหรับการทำงานคอนเทนต์ต่าง ๆ และมี OPPO Reno14 5G เครื่องนี้ที่เป็นเครื่องรีวิว แน่นอนว่าต้องมีการถ่ายโอนไฟล์รูปภาพจากเครื่องออกมา เพื่อนำมาลงบทความนี้ การใช้แอปพลิเคชัน O+ Connect จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้ไม่ต้องเสียบสายหรือมีขั้นตอนในการโอนย้ายไฟล์หลาย ๆ ขั้นตอน เพียงแค่โหลดแอปพลิเคชัน "O+ Connect" ไว้บนอุปกรณ์ทั้งสองเครื่อง แล้วก็เลือกส่งหากันได้เลย ส่งได้เร็ว และเสถียรมาก ๆ

— BeaconLink 2.0

เป็นฟีเจอร์ที่มีมาหลายปีบนสมาร์ตโฟน OPPO แล้วล่ะครับ แต่หยิบมาเล่าให้ฟังว่า ข้อดีของ BeaconLink 2.0 ที่มากับ ColorOS คือ การช่วยให้เราสามารถส่งข้อความหรือไฟล์ภาพ รวมถึงไฟล์เสียงหาสมาร์ตโฟน OPPO ด้วยกันได้โดยที่ไม่ต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตใด ๆ เลย

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Wrap-up บทสรุป

มาถึงบทสรุปส่งท้ายกับ OPPO Reno14 5G เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟน OPPO Reno Series ที่มีการเติบโตขึ้น ถ้าหากมองในภาพรวมสำหรับผมคือ "Minor Change" จาก OPPO Reno13 5G มีความลงตัวและทันสมัยขึ้น ตัวเครื่องเมื่อแรกสัมผัสรู้สึกได้ถึงความพรีเมียม น้ำหนักเบา และสัมผัสที่ชวนให้นึกถึงตอนจับ OPPO Find X8 เลย ในขณะที่กล้องถ่ายรูปมีการอัปเกรดกล้อง Telephoto ความละเอียด 50MP เข้ามา ทำให้สามารถถ่ายซูมได้สนุกขึ้น รวมถึงมีลูกเล่นใหม่อย่าง AI แฟลช เป็นฟีเจอร์ที่ตอนนี้น่าจะตอบโจทย์การถ่ายภาพที่ทันเทรนด์ของน้อง ๆ Gen Z ได้ดีเลยครับ

ภาพรวมก็ต้องบอกว่า OPPO Reno 14 5G ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนระดับ Mid-range ที่มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านของดีไซน์ตัวเครื่องที่ไม่เหมือนใคร และอัปเกรดกล้องให้ครบเครื่อง ใช้งาน Daily Use ได้ลงตัวขึ้นจากรุ่นก่อน โดยเฉพาะ AI Editor ที่ส่วนตัวผมมองว่ายังไม่มีคู่แข่งไหนที่ให้ฟีเจอร์ AI ปรับแก้ไขภาพหลังถ่ายได้เก่งเหมือน OPPO นะ และถ้าทั้งหมดที่ผมเล่ามาตรงกับความต้องการของคุณ ก็นั่นแหละครับ ไปสู่ขอมาเป็นมือถือคู่กายคู่ใจได้เลย!

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

/ Price & Availability ราคา การวางจำหน่าย และโปรโมชัน

OPPO Reno14 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์สุดชิค ลวดลายหางปลาแสนอิสระ สวยล้ำนำเทรนด์ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Opal White และสีเขียว Luminous Green พร้อมตัวเลือกความจุ 2 รุ่น

• OPPO Reno14 5G รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB วางจำหน่ายในราคา 16,999 บาท
• OPPO Reno14 5G รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB วางจำหน่ายในราคา 18,999 บาท

และสำหรับรุ่นน้องเล็ก OPPO Reno14 F 5G มาพร้อมตัวเลือก 3 สี 3 สไตล์ ได้แก่ สีฟ้า Opal Blue, สีชมพู Glossy Pink และสีเขียว Luminous Green โดยมีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ RAM 8GB + ROM 256GB วางจำหน่ายในราคา 11,999 บาท (เฉพาะช่องทางอีคอมเมิร์ซและ OPPO Brand Shop), RAM 12GB + ROM 256GB วางจำหน่ายในราคา 12,999 บาท และ RAM 12GB + ROM 512GB วางจำหน่ายในราคา 14,999 บาท

ในขณะที่พี่ใหญ่สุด OPPO Reno14 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Opal White และสีเทา Titanium Grey มาพร้อมความจุ RAM 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 24,999 บาท

นอกจากนี้ ยังมีเปิดตัวอีก 3 ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ทั้งแท็บเล็ต OPPO Pad SE รุ่น LTE วางจำหน่ายในราคา 6,999 บาท และ OPPO Pad SE รุ่น Wi-Fi วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท พร้อมด้วยสมาร์ตวอตช์ OPPO Watch X2 Mini วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาทและหูฟัง OPPO Enco Buds3 วางจำหน่ายในราคา 799 บาท

โปรโมชัน เมื่อซื้อในช่วงวันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2568 และกดรับสิทธิ์ ผ่าน MY OPPO ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เท่านั้น จะได้รับ E-VIP Plus ประกันจอแตกภายใน 1 ปี (1 ครั้งต่อปี), ประกันความเสียหายจากนํ้าภายใน 1 ปี (1 ครั้งต่อปี) และรับประกันในพื้นที่เอเชีย-แปซิฟิก (นับจากวันที่ซื้อสินค้า ผลบังคับใช้ 1 ปี)

• OPPO Reno14 F 5G ประกัน E-VIP Plus มูลค่า 7,000 บาท
• OPPO Reno14 5G ประกัน E-VIP Plus มูลค่า 9,000 บาท
• OPPO Reno14 Pro 5G ประกัน E-VIP Plus มูลค่า 15,000 บาท

พิเศษ! เมื่อซื้อ OPPO Reno14 5G หรือ OPPO Reno14 Pro 5G ในช่วงวันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2568 และกดรับสิทธิ์ผ่าน Google One หรือ Gemini App ภายใน 30 วันเท่านั้น นับจากวันที่ซื้อสินค้า จะได้รับสิทธิ์ Google AI Pro ฟรี 3 เดือน มูลค่า 2,250 บาทพร้อมรับ Reno Chill Backpack มูลค่า 2,999 บาท* (ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด ขอสงวนสิทธิ์จนกว่าของจะหมด โปรโมชันดังกล่าวเฉพาะร้านค้าที่เข้าร่วมเท่านั้น)

ร่วมสัมผัสกับที่สุดของประสบการณ์การถ่ายภาพแบบ The AI Portrait Expert ด้วย OPPO Reno14 Series 5G สมาร์ตโฟน AI คู่ใจสายชิค & ชิลล์ ได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, Tiktok Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

#Reno14SeriesTH
#ดีไซน์หางปลาแสนอิสระ
#ถ่ายพอร์ตเทรตสุดชิคด้วยAIแฟลช
#ไปชิลล์กัน #OPPOAIPhone

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!