8 หุ้นแบงก์ร่วง BBL นำกลุ่มลบ 3.11% กังวล ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ 'โบรก'ชี้ กระทบแค่เซนติเมนต์
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 15 ก.ค.2568 เวลา 10.20 น.หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวร่วงยกแผง นำโดย
- หุ้น BBL ร่วง 3.11% ลดลง 4.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 140.00 บาท
- หุ้น KBANK ร่วง 2.52% ลดลง 4.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 154.50 บาท
- หุ้น KTB ร่วง 2.30% ลดลง 0.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 21.20 บาท
- หุ้น LHFG ร่วง 1.28% ลดลง 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.77 บาท
- หุ้น SCB ร่วง 1.26% ลดลง 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 117.50 บาท
- หุ้น TTB ร่วง 1.59% ลดลง 0.03 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.86 บาท
- หุ้น KKP ร่วง 0.52% ลดลง 0.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 47.50 บาท
- หุ้น BAY ร่วง 0.46% ลดลง 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 21.80 บาท
วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นในกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงโดยปัจจัยสำคัญที่เข้ามาจากความกังวลต่อการคาดการณ์แต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีกำหนดพิจารณาในวันนี้
โดยคาดการณ์ผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ที่หลายสื่อเผยแพร่ชื่อออกไป คาดว่าผู้ที่น่าจะได้รับตำแหน่งคือ นายวิทัย รัตนากร ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินนโยบายการเงินค่อนข้างผ่อนคลาย หรืออาจมีการลดอัตราดอกเบี้ย ตลาดจึงคาดหวังกับประเด็นดังกล่าวอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน แต่ทว่าหุ้นในกลุ่ม Non-Bank เช่น MTC TIDLOR และ SAWAD กลับปรับตัวขึ้นได้ดีและ outperform ตลาด แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังคาดหวังกับประเด็นการลดดอกเบี้ยนี้อย่างชัดเจน
นอกจากประเด็นผู้ว่าฯ ธปท. แล้ว กลุ่มแบงก์ยังกำลังเข้าสู่ช่วงของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/68 ซึ่งอาจมีแรงขายออกมาล่วงหน้าก่อนที่จะทราบผลที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจัยทั้งหมดนี้เป็นเพียงsentiment เท่านั้น
"กลุ่มแบงก์ยังแกร่ง ไม่น่ากังวล แม้จะมีความกังวลในระยะสั้น แต่ในแง่ของพื้นฐานแล้ว กลุ่มแบงก์ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่น่ากลัว สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดการณ์กำไรโดยรวมของกลุ่มแบงก์จะอยู่ที่ประมาณ 5.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังถือว่าเติบโตได้ 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาหุ้นยังไม่แพง value ยังต่ำ และมีอัตราการจ่ายปันผลที่ดี มองจังหวะที่ย่อลงมาเป็นจังหวะทยอยสะสมเข้าซื้อได้"