โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

Malwarebytes เตือน ! นับตั้งแต่ต้นปี มีการตรวจพบมัลแวร์บน Android พุ่งสูงขึ้นกว่า 151%

Thaiware

อัพเดต 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sarun_ss777
นอกจากนั้นยังเปิดเผยอีกว่า การโจมตีจาก Spyware พุ่งขึ้นมากกว่า 147% และมัลแวร์ SMS เพิ่มอีกกว่า 692%

มัลแวร์ และ Android นั้น แลดูจะเป็นของคู่กันที่แม้จะมีการปราบปรามหนักแค่ไหน ? ก็ยังคงมีข่าวมาตลอด แต่ครั้งนี้เหมือนสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ได้ดีขึ้นมาเลย

จากรายงานโดยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัทผู้พัฒนาเครื่องมือต่อต้านมัลแวร์ Malwarebytes ได้มีการกล่าวสรุปถึงสถานการณ์ของมัลแวร์บนระบบปฏิบัติการ Android ในช่วงครึ่งปีแรกของ ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) ไว้ว่า สถานการณ์นั้นมีความเลวร้ายลง มีมัลแวร์ที่มุ่งเน้นการโจมตีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนพุ่งสูงมากขึ้น โดยมัลแวร์ที่เข้าโจมตีเครื่องมือที่ใช้ระบบ Android นั้นมีจำนวนพุ่งสูงมากขึ้นถึง 151% นอกจากนั้นแล้ว ยังมีข้อมูลแยกย่อยของจำนวนการเพิ่มขึ้นของมัลแวร์แต่ละชนิดอีกด้วย เช่น

มัลแวร์ประเภทสปายแวร์ (Spyware) โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาในรูปแบบแอปพลิเคชันที่แอบเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีจำนวนพุ่งสูงมากกว่า 147% โดยการติดมัลแวร์ประเภทดังกล่าวนั้นพุ่งสูงสุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคมที่ผ่านมา แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ มัลแวร์ประเภทที่มีความเกี่ยวข้องกับ ระบบรับส่งข้อความสั้น (SMS หรือ Short Message Service) นั้นพุ่งสูงกว่า 692% ระหว่างช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงเวลาที่ปริมาณการโจมตีของมัลแวร์ประเภทนี้พุ่งสูงนั้นเป็นช่วงเวลาของฤดูกาลภาษี (Tax Season) ซึ่งเหยื่อมักมีแรงกดดันทางการเงินที่สูงในช่วงเวลาดังกล่าว

ซึ่งทางทีมวิจัยได้คาดการณ์ว่าปริมาณการโจมตีที่พุ่งขึ้นมากมายขนาดนี้นั้นน่าจะมาจากหลากปัจจัย เช่น แฮกเกอร์มีความเข้าใจในเชิงจิตวิทยามากขึ้นในระดับที่เข้าใจว่า จุดอ่อนใดที่ทำให้เหยื่อนั้นเผลอขาดความระมัดระวังจนนำพาไปสู่การติดตั้งมัลแวร์ลงระบบ จนนำไปสู่การขยายปฏิบัติการ (Scaling) จนเพิ่มปริมาณการติดมัลแวร์ให้มากมายเช่นนี้ได้

นอกจากนั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า ในระยะหลังนั้นมัลแวร์ประเภทมุ่งเน้นในการขโมยเงินจากบัญชีธนาคารของเหยื่อ หรือ Banking Trojan และ สปายแวร์ นั้นมีการเติบโตที่มากกว่ามัลแวร์ประเภทยิงโฆษณาที่ไม่ต้องการใส่เหยื่อ (Adware) โดยแฮกเกอร์นั้นจะแพร่กระจายมัลแวร์เหล่านี้ผ่านทางหลากช่องทาง ทั้งทางแอปสโตร์อย่างเป็นทางการ และผ่านทางเว็บไซต์ภายนอกให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดติดตั้งเอง (Sideloading) โดยมัลแวร์เหล่านี้มักมาในรูปแบบของแอปพลิเคชันด้านการเงิน (ปลอม) และแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ซึ่งทั้งหมดล้วนอาศัยแรงกดดันทางการเงินของเหยื่อเป็นประโยชน์ในการแพร่กระจายมัลแวร์ทั้งสิ้น

ทางทีมวิจัยยังตรวจพบอีกว่าการหลอกลวงผ่านทาง SMS หรือ Smishing นั้น ได้กลายมาเป็นอีกเครื่องมือหลักในการแพร่กระจายมัลแวร์ลงสู่เครื่องของเหยื่อ เนื่องจากพัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) นั้น ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างข้อความหลอกลวงที่ดูแนบเนียน มีความน่าเชื่อถือ แต่แฮกเกอร์ไม่เพียงใช้แค่วิธีนี้เท่านั้น ทางทีมวิจัยได้พบอีกว่า การหลอกลวงผ่านทางไฟล์ PDF (PDF Phishing) ซึ่งใช้ไฟล์เอกสาร PDF เป็นพาหะในการแพร่กระจายมัลแวร์นั้น ยังมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งทางทีมวิจัยไม่ได้ให้ตัวเลขการเพิ่มขึ้นของวิธีการทั้ง 2 อย่างไว้ ณ ที่นี้แต่อย่างใด นอกจากการใช้วิธีการหลอกลวงจากระยะไกลดังเช่นกล่าวไว้แล้วนั้น การใช้ของปลอมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มัลแวร์กระจายตัวได้ดี เนื่องจากอุปกรณ์ปลอมที่ลอกเลียนแบบแบรนด์ดังนั้น มักจะถูกฝังมัลแวร์หรือแอปพลิเคชันแฝงมัลแวร์มาจากโรงงาน ทำให้ข้อมูลของเหยื่อที่ใช้งานนั้นต้องถูกขโมย หรือเครื่องของเหยื่อกลายเป็นพาหะในการแพร่กระจายมัลแวร์อย่างไม่รู้ตัว

กระนั้น ปัจจัยภายในอย่างการดูแลเครื่องของเหยื่อเองนั้นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้มัลแวร์สามารถเข้าสู่เครื่องของเหยื่อได้ โดยทางทีมวิจัยได้พบว่า อุปกรณ์ Android มากถึง 30% นั้นยังคงใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าที่ไม่ได้ผ่านการอัปเดต ทำให้ตัวระบบปฏิบัติการนั้นไม่ได้รับการปรับปรุงด้านความปลอดภัย เช่น การปิดช่องโหว่ต่าง ๆ ทำให้ตัวเครื่องนั้นสามารถติดมัลแวร์ได้ง่าย ซึ่งเมื่อรวมกับปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทุกอย่างได้กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวมัลแวร์สามารถแพร่กระจายอย่างว่องไว ขยายเป็นวงกว้าง จนปริมาณการโจมตีนั้นพุ่งสูงมากขึ้นในปีนี้ ทำให้ทางทีมวิจัยต้องเตือนผู้ใช้งานอุปกรณ์ Android ทั้งในเชิงส่วนบุคคลและในระดับองค์กร ว่าจะต้องมีการเอาใจใส่ในด้านความปลอดภัยของตัวอุปกรณ์ รวมทั้งพฤติกรรมการใช้งานอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าที่เคยกระทำมา

➤ Website : https://www.thaiware.com
➤ Facebook : https://www.facebook.com/thaiware
➤ Twitter : https://www.twitter.com/thaiware
➤ YouTube : https://www.youtube.com/thaiwaretv

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thaiware

ไมโครซอฟท์ลั่น ! ช่วงนี้ขอมุ่งเน้นในการทำอัปเดต Windows 11 มากกว่าสนใจทำ Windows 12

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

BullVPN บริการ VPN ที่เข้าถึงทุกเว็บ เล่น LINE เล่น Facebook ได้ทั่วโลก ปลอดภัย ราคาดี

19 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

Honor เปิดตัว X70 : แบตฯ ใหญ่ 8,300 mAh, ทนทานระดับสูง, เริ่มต้นเพียง 6,400 บาท

BT Beartai

ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลก ไตรมาส 2 (2025) เติบโตเพียง 1% : Samsung ยังครองแชมป์ตลาดโลก

BT Beartai

เช็กด่วน! รายชื่อสมาร์ตโฟน 'ไม่รองรับอัปเดต' ระบบ Android 16

BT Beartai

“การ์ทเนอร์” เผยปี 70 โครงการ Agentic AI มากกว่า 40% จะถูกยกเลิก

เดลินิวส์

โทรศัพท์ชาร์จเข้า แต่แบตฯ ไม่เพิ่ม เกิดจากอะไร แล้วจะแก้ไขอย่างไร ?

BT Beartai

ไมโครซอฟท์ลั่น ! ช่วงนี้ขอมุ่งเน้นในการทำอัปเดต Windows 11 มากกว่าสนใจทำ Windows 12

Thaiware

ชิปใหม่ AR1+ Gen 1 รองรับ AI เน้นใช้กับแว่นอัจฉริยะ

Techhub

ให้ใช้ฟรี รถ Tesla รุ่นใหม่ มาพร้อมผู้ช่วย Grok AI

Techhub

ข่าวและบทความยอดนิยม

ตรวจพบมัลแวร์ SparkKitty แฝงตัวบน Google Play และ App Store

Thaiware

ระวัง คลิป TikTok แนะนำซอฟต์แวร์เถื่อน ลวงเหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์

Thaiware

META เพิ่มระบบล็อกอินแบบ Passkey บนแอป Facebook ให้ทั้งเวอร์ชัน iOS และ Android

Thaiware
ดูเพิ่ม
Loading...