จีนเผยยอดค้าปลีกชะลอตัวเดือนมิ.ย. แต่การผลิตอุตสาหกรรมยังแกร่ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 4.8% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5.4% และชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค. ที่ปรับตัวขึ้น 6.4%
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 6.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.7% และดีกว่าในเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 5.8%
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรปรับตัวขึ้น 2.8% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% ขณะที่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงถึง 11.2% ในครึ่งปีแรก เทียบกับช่วง 5 เดือนแรกที่ปรับตัวลง 10.7% ส่วนการลงทุนด้านสาธารณูปโภคและการผลิตชะลอตัวลงเช่นกัน
สำหรับอัตราว่างงานในเขตเมืองทรงตัวที่ระดับ 5% ในเดือนมิ.ย. หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ 5.4% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ NBS ยังเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.1% และสูงกว่าเป้าหมายตลอดปีที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ประมาณ 5% โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของยอดส่งออกไปยังตลาดอื่น ไม่รวมสหรัฐฯ ซึ่งช่วยพยุงภาคการผลิตของจีน
ทั้งนี้ NBS ระบุในแถลงการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยแรงขับเคลื่อนที่ดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงมีความยืดหยุ่น อย่างไรก็ดี NBS เตือนว่าปัจจัยในต่างประเทศยังคงไม่แน่นอนและไม่มีเสถียรภาพ ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงอ่อนแอ
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์