โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พ่อลูกตระกูลชินปัดต้นเหตุสงคราม

ไทยโพสต์

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทักษิณ" ฉลองวันเกิด เดินทางไปเสือกที่อุบลฯ ใจป้ำควักเงินสดแจกชาวบ้านหัวละ 1 พันบาท เป็นตุเป็นตะยืนยันเหตุปะทะไทย-กัมพูชาไม่ได้เกิดจาก 2 ตระกูล โทษ "ฮุน เซน" เป็นต้นเหตุ บ้าอยู่คนเดียว นั่งอยู่กับโซเชียลทั้งวันเป็นซอมบี้ แล้วก็หงุดหงิดมาหาเรื่อง เผยไทม์ไลน์เหตุการณ์รู้หมดราวกับเป็นนายกฯ ตัวจริง "อุ๊งอิ๊ง" วอนคนไทยรักกัน ให้ทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ฟุ้งตระกูลชินวัตรเข้ามาปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อบายมุข ทำให้ "ฮุน เซน" ไม่พอใจ

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยอ้างว่าเพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา พร้อมรับฟังปัญหาและให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่นายทักษิณไม่มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาล

สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า พบว่าที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้มีการติดป้ายไวนิลตั้งแต่บริเวณทางเข้า ข้อความระบุว่า “ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยการสู้รบ” พร้อมโลโก้พรรคเพื่อไทย

ส่วนการลงพื้นที่วันนี้ นายทักษิณได้สวมเสื้อเชิ้ตสีเหลือง สวมกางเกงยีนส์ โดยทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึงได้เข้าไปยังจุดโรงครัวก่อน โดยได้ทำข้าวผัดหมู หลังจากที่ทำข้าวผัดไปได้สักพักนายทักษิณได้ตักขึ้นมาชิม ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า “พอได้อยู่” จากนั้นหลังจากทำข้าวผัดเสร็จได้เดินไปตักข้าวไข่เจียวใส่กล่องเพื่อเตรียมไปให้ประชาชน

จากนั้นนายทักษิณได้เข้าไปพบปะพูดคุยและให้กำลังใจกับประชาชนที่อพยพมาจากต่างอำเภอ ด้านชาวบ้านได้ร้องเพลง Happy Birthday ให้กับนายทักษิณ เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี

นอกจากนี้ นายทักษิณยังได้มอบเงินให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจคนละ 1,000 บาทด้วย โดยมีนายสะอาด วงศ์รักษ์ นายอำเภอเดชอุดม, พ.ต.อ.วีรพันธ์ นาคสุข ผกก.สภ.เดชอุดม และเจ้าหน้าที่ เป็นผู้รับมอบเงิน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อพยพมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายทักษิณได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนนั้น มีชาวบ้านที่อพยพมาจาก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งญาติได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เดินทางมาที่ศูนย์อพยพเพื่อต้องการจะพบกับนายทักษิณ และได้ถามว่า “ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน ทำไมให้เพื่อนของเขามาทำกับคนไทยแบบนี้ ทำไมถึงได้มาสั่งฆ่าคนไทย มาระเบิดคนไทย ทำไมต้องให้ท้ายเพื่อนด้วย บ้านช่องพังเสียหาย ครอบครัว เพื่อน ญาติพี่น้องเดือดร้อน เสียชีวิต”

เมื่อถามว่า อยากจะให้นายทักษิณช่วยเหลืออะไรหรือไม่ ชาวบ้านคนดังกล่าวระบุว่า เขาไม่ช่วย เขาช่วยแต่ครอบครัวเขา พวกเขา ไม่ได้ช่วยคนไทย มีแต่เราช่วยกันเอง เราให้กำลังใจทหารที่ช่วยเหลือประชาชน

ส่วนอยากส่งเสียงสะท้อนอย่างไรให้นายทักษิณได้ยินหรือไม่นั้น ชาวบ้านคนดังกล่าวบอกว่า ทำได้แค่นี้ แค่เสียงเดียวเขายังไม่ฟังหรอก หลังจากนั้นก็ได้เดินออกจากศูนย์อพยพไป

ต่อมานายทักษิณได้เดินทางมาเยี่ยม ประชาชนที่ศูนย์อพยพอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน โดยเมื่อไปถึงได้เข้าไปให้กำลังใจผู้ป่วยออทิสติกที่นอนอยู่ พร้อมกับให้เงินสด 1,000 บาท หลังจากนั้นได้เจอกับแม่ลูกอ่อนพร้อมกับลูกชายที่เพิ่งคลอดลูกได้เพียงแค่ 26 วันเท่านั้น นายทักษิณได้สอบถามถึงเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ ก่อนจะควักเงินจากกระเป๋าสตางค์โดยที่ไม่ได้นับ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญถุง พร้อมบอกให้ “อดทนนิดนึง เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว”

'ทักษิณ' เล่นบทนายกฯ

นอกจากนี้ นายทักษิณยังได้เหมาร้านโตเกียว 2,000 บาท, ร้านไส้กรอกอีสาน 2,000 บาท, ร้านน้ำดื่มและปลาหมึกเป็นเงิน 6,000 บาท โดยย้ำว่า ให้ทำอาหารแล้วนำมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อยู่ภายในศูนย์อพยพแห่งนี้ด้วย พร้อมกับบอกสั้นๆ ว่า เราอุดหนุนชาวบ้าน และได้นำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย ก็ได้ 2 ต่อ

นายทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อมีการใช้อาวุธหนักก็ต้องมีการสูญเสีย แต่เขาต้องการปกป้องอธิปไตย ถือเป็นผู้ที่เสียสละ เราก็ต้องดูแลครอบครัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่กัมพูชาใช้อาวุธโจมตีมายังบ้านเรือนประชาชนและโรงพยาบาลโดยไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม อดีตนายกฯ ผู้นี้ตอบว่า ใช้ไม่ได้ ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน ถูกประณามจากทั่วโลก ของเราขนาดใช้ F-16 เรายังระวัง ใช้เฉพาะพื้นที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น

เมื่อถามถึงกรณีได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการสื่อสารไปยังต่างประเทศอย่างไรนั้น นายทักษิณกล่าวว่า มีหลายประเทศอยากเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย แต่เราถือว่าเป็นเรื่องของสองประเทศต้องคุยกัน หากว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง ใครมาไกล่เกลี่ยก็เหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จะทำอะไรก็ทำ ส่วนสาเหตุเริ่มต้นเกิดจากการปลุกกระแสนิยมภายในประเทศของเขามากเกินไป แต่ภายหลังก็กระทบกับผลประโยชน์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น

ถามถึงกรณีที่ได้โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X ว่าหลายประเทศห่วงสถานการณ์สู้รบ เสนอตัวช่วยไกล่เกลี่ย นายทักษิณชี้แจงว่า วันนี้คนไม่เข้าใจ เพราะถ้าเข้าใจภาพรวมจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากเขาบ้าอยู่คนเดียว นั่งอยู่กับโซเชียลทั้งวันเป็นซอมบี้ แล้วก็หงุดหงิดมาหาเรื่อง ทั้งที่เราไม่มีอะไรเลย

"ผมก็ยังคิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ เกิดเหตุการณ์นี้ได้ มันไม่ใช่เป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว ไม่มีเลย ไม่ได้เกี่ยวเลย ผมไม่เคยมีความขัดแย้ง เขาเป็นคนที่เริ่มต้นด้วยความระแวง และสร้างกระแสชาตินิยมภายในประเทศให้มากขึ้น" นายทักษิณกล่าว และยืนยันว่า ไม่จริง ไม่ได้เป็นความขัดแย้งของสองตระกูลเลย ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่าเขาไม่พอใจประเทศเรา

“เอาอย่างนี้ดีกว่า เริ่มต้นตั้งแต่ ผมจำวันที่ไม่ได้ มีอยู่วันหนึ่ง วันศุกร์ เขาเคลื่อนกำลังมาที่ชายแดนเรา 12,000 คน ผมก็เลยโมโหโทร.ไปต่อว่าทำไมทำอย่างนี้ ในเมื่อลูกเราเป็นผู้นำสองประเทศเราจะทำสงครามกันหรือ เขาก็ถามว่าจะทำอย่างไร ผมจึงบอกว่าต้องเปิดการเจรจา เราคุยกันแบบเพื่อนบ้าน ในที่สุดเขาก็เปิดให้มีการพูดคุยกันตั้งแต่ระดับชายแดนจนถึงเจบีซี วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ที่เขาถอนกำลังโดยที่ไม่บอกกล่าว อยู่ๆ ก็ถอนเลย ทีนี้ทหารไทยเราประชุมกันเรียบร้อยแล้วว่าจะปิดด่าน เป็นมาตรการไม่ได้รุนแรง แต่บังเอิญว่าสั่งการเมื่อวันศุกร์ พอวันอาทิตย์เขาถอนกำลัง เพราะฉะนั้นคำสั่งออกไปแล้ววันจันทร์ก็เลยมีการปิดด่าน เขาก็เลยมีความรู้สึกว่าทำไมเขาถอนกำลังแล้วจึงยังปิดด่าน จึงโกรธและพูดจาไม่ดี นายกฯ เราก็เลยใช้คำว่าไม่โปรเฟสชันแนล เขาก็เลยวางแผนอัดเทป ตรงนั้นแหละคือปัญหา ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเราไปสร้างปัญหา แต่เป็นเพราะว่าเขาระแวง เขาต้องการทำในสิ่งที่วางแผนไว้ เพราะเวลาปิดด่านไปขัดผลประโยชน์ เรื่องคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นผลประโยชน์ที่คนไทยต้องปกป้อง จำได้หรือไม่ตนพูดเรื่องตึก 25 ชั้น ตอนหลังมาจึงรู้ว่าคนเหล่านั้นคือคนใกล้ชิดกับเขา ซึ่งก็โดนออกหมายจับที่ประเทศไทย” นายทักษิณกล่าว

รัฐบาลปล่อยทหารนำ

นายทักษิณยังยืนยันว่า เดิมไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ ตนยังคิดว่าเป็นเรื่องอารมณ์ส่วนตัว วันนี้เชื่อว่าทั้งประเทศเขาก็หงุดหงิดกัน ไม่มีใครพูดกับเขาได้ แต่ของเราใช้ทหาร ทำงานแบบมืออาชีพ ที่ตนพูดอย่างนั้นเพราะยุทธการทหารต้องเดิน อย่าไปห้ามเขา และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีการแทรกแซงทหาร ปล่อยให้เขาทำงานในแนวที่คิดว่าเป็นยุทธการที่ถูกต้อง ก็ทำไป เราก็มีหน้าที่สนับสนุนเรื่องส่งกำลังบำรุง รัฐบาลก็มีหน้าที่สนับสนุน และไม่ได้หยุดยั้งอะไรเขา ขนาดมีคนมาขอให้หยุดยิงเราก็ยังถือว่ายุทธการทหารของเรายังไม่เสร็จสิ้น จะไปเบรกทหารเขาอย่างไร ก็ให้เขาทำไปให้เสร็จสิ้น

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ใครเป็นคนขอให้หยุดยิง นายทักษิณกล่าวว่า มีหลายประเทศ ชาติมหาอำนาจอย่างจีนได้ร้องขอ การร้องขอจากทางฝ่ายตรงข้ามเรามากกว่า มาคุยกับเรา แต่เราคิดว่าอะไรควรหรือไม่ควร ก็ไปตกลงกันที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ไม่ใช่ตน พร้อมปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ผู้ที่ไปล็อบบี้ การเจรจาหยุดยิงเพื่อสันติภาพ และย้ำว่า ไม่เป็นความจริง วันนี้จะทำอะไรต้องถามยุทธการทหารก่อน เพราะต้องไปประชุมกันที่ สมช. ว่ายุทธการทหารจะเป็นอย่างไร และรัฐบาลการต่างประเทศควรเข้ามาตอนไหน เราไม่ได้เข้าซี้ซั้ว เราต้องเข้ามาในจังหวะที่เหมาะสม

เมื่อถามถึงศักยภาพยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย นายทักษิณกล่าวว่า ศักยภาพเราตนว่าไม่น้อยหน้า เราก็ดีอยู่ เพียงแต่ว่าเราเป็นขั้นเป็นตอน อย่างวันพรุ่งนี้จะมีโดรน ตนสั่งโดรนมา ออกเงินส่วนตัวไป และโดรนสามารถลาดตระเวนเข้าไปมองที่พื้นเห็นหมดว่ามีกับระเบิดอยู่ตรงจุดใดบ้าง โดยจะพล็อตแผนที่กับระเบิด ซึ่งคาดว่าน่าจะส่งมาในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุด และผู้เชี่ยวชาญจะมาช่วยกันดูว่าเราจะเห็น เพราะต้องป้องกันชีวิตคน ทหารของเรา เพราะทหารของเราขาหักไปแล้วสองนาย

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์นี้ตนสนับสนุนให้คนไทยมีความสามัคคีกันในชาติ วันนี้เราทะเลาะกันในประเทศถึงระดับหนึ่ง แต่วันนี้เราต้องรักกันและทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ถ้าเหตุการณ์สงบสุขเมื่อไหร่ความขัดแย้งภายในประเทศยังรอได้ แต่วันนี้รอไม่ได้แล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมมือกันจากทุกฝ่ายและทุกภาคส่วนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยรักกันเองมาก

'ชินวัตร' เข้ามาปราบอบายมุข

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในส่วนคำครหามากมายที่วิถีทางการเมืองพยายามใช้การปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความเกลียดชัง มีการเชื่อมโยงว่าสองตระกูลทะเลาะกัน แต่จำกันได้หรือไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่แล้วตนได้มีการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง โดยได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้ตัดน้ำตัดไฟตั้งแต่ชายแดนลาวกับพม่า และทำให้ได้ผลจริงๆ คอลเซ็นเตอร์ที่โทร.หาประชาชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และมูลค่าความเสียหายที่ประเมินตัวเลขได้เยอะมาก ประชาชนที่ถูกหลอกจนต้องจบชีวิตตัวเอง หรือเงินหายไปจากบัญชีอย่างรวดเร็ว

"ประเทศไทย ลาวและพม่าได้ทำภาคีร่วมกัน เพื่อจะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ดิฉันก็เกิดความสับสน เพราะตอนนั้นดิฉันก็ยังติดต่อกับทางกัมพูชาในเรื่องสัมพันธ์ส่วนตัว และได้รับแจ้งจากคนที่แปลว่าเขาโกรธที่ไม่ปรึกษาเรื่องนี้กับทางกัมพูชา ดิฉันจึงโทร.ไปคุยส่วนตัว ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ถูกอัดเสียง ดิฉันไม่ทราบว่าเป็นการเสียผลประโยชน์หรือไม่ เพราะเรื่องแก้ปัญหายาเสพติดและปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์ เป็นหน้าที่รัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อได้คุยกันแล้วก็ทราบว่ากัมพูชาไม่พอใจที่ไม่เชิญไปร่วมด้วย ดิฉันก็เลยตอบกลับไปว่าจะบวกกัมพูชาร่วมไปด้วย แต่ทางกัมพูชากลับบอกว่าไม่ต้องบวก ให้มาทำกันแค่สองประเทศพอ ดิฉันจึงให้ดำเนินการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี"

น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ดังนั้นเมื่อพอกลับมานึกย้อนก็รู้ว่าเป็นการแสดงความไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ไม่คิดว่าความไม่พอใจนี้ เป็นความไม่พอใจในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เพราะตนไม่เคยทราบเลยว่าจะมีประเทศใดไม่พอใจ เมื่อประชาชนถูกหลอกและเอารัฐบาลมาช่วย ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ จึงทำให้รู้สึกว่าเราคงไปขัดผลประโยชน์บางอย่างหรือไม่ จึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตนก็ไม่แน่ใจ ซึ่งตนก็มั่นใจว่ารัฐบาลที่เข้ามาไม่ว่าจะใช่ตระกูลชินวัตรหรือไม่ก็ต้องปราบเรื่องนี้ เพราะเป็นผลกระทบต่อคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปราบเช่นเดียวกับยาเสพติด ไม่ทำก็ไม่ได้

"เขาก็มีฉายาอยู่แล้ว Cambodia มีฉายา ซึ่งทั่วโลกก็ตั้งให้ ดิฉันไม่ได้ตั้งให้ ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแบบนั้น จึงคิดว่าเราต้องมั่นใจ อย่าคิดว่าต้องใช้อารมณ์ว่าเพราะต้องคนนั้นคนนี้ มันเกิดขึ้นเพราะกัมพูชา และเกิดขึ้นเพราะเราปราบคอลเซ็นเตอร์ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เราอย่าทำให้ขมุกขมัว มันก็อยู่ที่เรา มั่นใจเป็นอย่างยิ่งถ้าไม่ใช่ตระกูลชินวัตรเข้ามาทำ ก็ต้องปราบคอลเซ็นเตอร์ ก็ต้องปราบยาเสพติด ปราบอบายมุขเช่นกัน เพราะนี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ" น.ส.แพทองธารกล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘จิรายุ’ วอนปิดเว็บพิกัดศูนย์พักพิงเสี่ยงถูกล็อคเป้า

26 นาทีที่แล้ว

เดือด! เตือนรัฐบาล ห้ามขายชาติแลกภาษีทรัมป์-ฐานทัพต่างชาติ

31 นาทีที่แล้ว

ฮุนมาเนต ตอบรับทรัมป์ เตรียมพร้อมหยุดยิง

41 นาทีที่แล้ว

สว.วีระพันธ์ จี้ ‘นายกฯ-ครม.’ ยกเลิก MOU 2543-44 กลับใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ทันที

49 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ทภ.2 ชี้แจงแล้ว! หลังมีข่าวลือ เตรียมเรียกระดมพลกำลังสำรอง

News In Thailand

รัฐบาลไทยยืนยันนโยบาย ปฏิบัติการสุภาพบุรุษทางการทหาร

สำนักข่าวไทย Online

โฆษก ทบ.ลั่นหยุดยิงไม่ได้ เหตุกัมพูชาเปิดฉากแต่เช้าตรู่

ฐานเศรษฐกิจ

กังฟู หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง เผยทุกคนรู้ดีตลาดช่องอานม้าฝั่งเขมรยึด เป็นของเรามาตั้งนาน เชื่อชาวน้ำยืนรอคอยวันนี้

News In Thailand

ทหารไทยยึดคืน "ช่องอานม้า" ธงไตรรงค์โบกสะบัด ร้องเพลงชาติไทยกึกก้อง

คมชัดลึกออนไลน์

กสทช.แจงเสาสัญญาณบนภูมะเขือเป็นเครือข่ายของกัมพูชา

ไทยโพสต์

“กริพเพนไทย” ดียังไง หลังประวัติศาสตร์กองทัพส่งรบจริง ครั้งแรกของโลก

Thaiger

ตร. ตีแผ่ 5 พฤติกรรมสายลับ โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...