พปชร.จี้ใช้โอกาสยกเลิก MOU43-44 ยันแผนที่ 1/50,000 หลายปราสาทเป็นของไทย ไล่รบ.ยุบสภา-เลื่อนคุยภาษีทรัมป์
"สุรเดช" จี้ ใช้โอกาสนี้ยกเลิก MOU43-44 ยันแผนที่ 1/50,000 พื้นที่หลายปราสาทเป็นของไทยเขมรต้องคืนมา บอกรบ.หมดความชอบธรรมปชช.ไม่ศรัทธา จี้เสียสละยุบสภาบอกมันจบแล้ว วอนพรรคร่วมถอนตัว ไม่เช่นนั้นประเทศไม่สงบ แนะคุย "ทรัมป์" เลื่อนเดดไลน์ภาษี ย้ำอธิปไตยความมั่นคงต้องมาก่อนการค้า
วันที่ (27 ก.ค.) นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องว่า ในนามส่วนตัวตนเห็นว่า เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ รัฐบาลก็ควรจะใช้โอกาสนี้ยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 นอกจากนี้จะต้องยืนยันแผนที่ 1/ 50,000 ไม่ใช่ 1/ 200,000 ตามที่กัมพูชายืนยัน ซึ่งการที่กัมพูชาต้องการจะใช้แผนที่ 1/ 200,000 ก็เพราะว่าเราจะมองไม่ออกว่าเขตแนวชายแดนของเราในอดีตอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ถ้าเป็นแผนที่ 1/ 50,000 เราจะเห็นพื้นที่ของเราชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประสาทเขาพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม ประสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย หรือแม้แต่เสียมเรียบ พระตะบอง เป็นพื้นที่เก่าของประเทศไทย ถ้าพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าใช่ทางกัมพูชาก็ต้องคืนกลับมาเป็นของไทย
นายสุรเดช กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรัฐบาลเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้แล้วส่วนตัวตนคิดว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปได้แล้ว เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย จึงขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลเสียสละถ้าไม่ยุบสภาก็ต้องเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แต่ต้องไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากพรรคปัจจุบันนี้ แต่ถ้ายังยื้อต่อไป ตนก็ขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เพราะถ้าพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทุกอย่างก็จบรัฐบาลไปต่อไม่ได้ เพราะปัจจุบันรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำมาก ถ้ารัฐบาลไปไม่ได้ สเต็ปต่อไปก็ต้องยุบสภาหรืออาจจะเปลี่ยนขั้วอำนาจเลยก็ว่ากันไป
“แต่ก่อนอื่นรัฐบาลต้องเสียสละก่อน ไม่เสียสละไม่ได้ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองเราจะวุ่นวายทันที เพราะตอนนี้เป็นวิกฤติศรัทธาที่รุนแรงมากประชาชนไม่ศรัทธารัฐบาลชุดนี้แล้ว ดังนั้นก็ขอเรียกร้องไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆที่ไม่มีพรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย ควรจะประชุมหารือกัน หรือจะตัดสินใจเฉพาะในส่วนของพรรคตัวเองก็ว่ากันไป ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองเราจะไม่สงบ ส่วนตัวผมเชื่อว่าถ้ามีการเปลี่ยนรัฐบาล ปัญหาการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจะจบในเร็ววัน”
นายสุรเดช กล่าวต่อว่า รัฐบาลไม่ต้องเป็นห่วงว่ายุบสภาในช่วงที่ประเทศกำลังมีสงครามจะไม่เป็นผลดี เพราะต่อให้รัฐบาลยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่ โดยที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการเพราะกระทรวงกลาโหมได้ใช้พรบ.บริหารจัดการด้านการทหารโดยมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)ดำเนินการแล้ว ดังนั้น ทหารก็ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของเขาไป ส่วนรัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศก็มีหน้าที่ในการเจรจาเพื่อให้สถานการณ์สู้รบสงบโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา 2 ประเทศเพื่อให้มีการหยุดยิงโดยมีการนำเรื่องของการเจรจาเรื่องของภาษีมาเป็นเงื่อนไขที่จะลดภาษีนำเข้าให้นั้น นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า เรื่องการสู้รบในขณะนี้มีผลกระทบทางด้านอธิปไตยของประเทศด้วย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้บอกไปแล้วว่า เราอยากหยุดอยู่แล้วและพร้อมที่จะเจรจาทวิภาคี แต่ฝ่ายกัมพูชาต้องหยุดรุกรานเราก่อน เพราะกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ดังนั้นก็ต้องหยุดก่อน
“ส่วนตัวผมเห็นว่า อธิปไตยและความมั่นคงของประเทศต้องมาก่อน ส่วนเรื่องการค้าตามมาทีหลัง การที่สหรัฐต้องการที่จะเป็นคนช่วยไกล่เกลี่ยเราก็ต้องมีจุดยืนและต้องยืนยันไปว่า เราไม่เคยไปล่วงละเมิดอธิปไตยของใคร แต่เราถูกรังแกก่อน เราจึงต้องปกป้องเพราะฉะนั้นถ้าจะยุติการสู้รบ ก็ต้องมาตกลงกันใหม่ระหว่าง 2 ประเทศ แต่ถ้ากัมพูชาไม่ยอม เราก็คงยอมไม่ได้เพราะความสูญเสียอย่างมหาศาลเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งถ้าประธานาธิบดีจะใช้เงื่อนไขของภาษีตรงนี้มาเจรจา เราก็ต้องขอให้ทางสหรัฐยืดเวลาออกไปก่อนเพราะขณะนี้ เรายังมีการสู้รบกันอยู่ สงครามยังไม่จบ อาจจะขอเลื่อนเดดไลน์จากวันที่ 1 สิงหาคมออกไปก่อน”
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO