ศบ.ทก. ขอบคุณคนไทย อดกลั้นปมนทท. ทำร้ายทหารเขมร ยัน ไม่สนับสนุนความรุนแรง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงประจำว่า ที่ประชุม ศบ.ทก. ขอบคุณประชาชนที่ในวันหยุดที่ผ่านมาใช้เวลาไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวกลุ่มปราสาทตาเมือน ยอดรวม 1 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-12 ก.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.8 หมื่นคน ในขณะที่ปราสาทตาควายมียอดนักท่องเที่ยวไทยกว่า 2,800 คนถือเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของโบราณสถานของไทยในพื้นที่จริง ต้องขอขอบคุณกองกำลังกองทัพบกในพื้นที่ที่มีการประชาสัมพันธ์ จัดกำลังพลนำชมพื้นทีต่างๆ
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า กรณีเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชาชุดประสานงานที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัด สุรินทร์ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย และได้มีการดำเนินการกับผู้ก่อเหตุ โดยส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งศบ.ทก.ไม่สนับสนุนการกระทำความรุนแรงดังกล่าว ไม่ว่าด้วยฝ่ายใด ทั้งนี้ช่วงสถานการณ์ที่มีความตึงเครียดที่อาจเผชิญกับการยั่วยุต่างๆ ศบ.ทก.ขอขอบคุณประชาชน และทุกภาคส่วนที่ใช้ความอดกลั้น และขอให้ทุกคนร่วมสร้างบรรยากาศที่นำไปสู่การพูดคุยเจรจาทั้งสองฝ่าย เพื่อบรรลุข้อตกลงทวิภาคีได้ในที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วทั้งไทยและกัมพูชาก็เป็นประเทศที่มีชายแดนติดกัน คงต้องอยู่ร่วมกันไม่สามารถแยกจากกันได้
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบการเจ้าของไร่ สวนชาวไทยที่กำลังมีพืชผลการเกตษรที่ต้องเก็บเกี่ยวในช่วงนี้ อาทิ อ้อย ลำไย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกที่กำลังมีความต้องการแรงงานเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงแรงงานแจ้งที่ประชุมศบ.ทก.ว่าที่ผ่านมามีการจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว(คบต.) โดยหารือแนวทางผ่อนปรนการนำเข้าแรงงานเพื่อบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน โดยพิจารณาแก้ไขข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นกับคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตามมาตรา 64 แห่งพ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยที่ประชุมคบต.เห็นชอบ ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาผ่อนผันคนต่างด้าวที่มีใบอนุญาติและใบอนุญาตินั้นหมดอายุระหว่างอยู่ในประเทศไทย สามารถอยู่ต่อได้เป็นกรณีพิเศษจนกว่าด่านชายแดนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และภายหลังเปิดด่านปกติแล้วให้ชาวต่างด้าวนั้นเดินทางออกนอกราชอาณาจักรภายใน 7 วัน
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้ออกมาตราการให้คนต่างด้าวยื่นคำขอทำงานพร้อมเอกสารหลักฐานการทำงานต่อนายทะเบียนอนุญาติโดยสามารถทำงานได้ครั้งละ 90 วัน อีกทั้ง คนต่างด้าวที่มีงานทำอยู่แล้วสามารถเปลี่ยนนายจ้าง และสามารถเพิ่มนายจ้างได้ 3 ราย ในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับอนุญาติให้ได้รับทำงาน โดยมาตราการดังกล่าวจะนำเสนอครม.ในวาระเร่งด่วน และถ้ามีการอนุมัติแล้วจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 7มิถุนายน 2568 แต่ในส่วนแรงงานต่างด้าวชาติอื่นๆที่ไม่มีข้อจำกัดในการข้ามแดน ก็ยังคงใช้มาตรการตามปกติ