ส.ส.ปชน. ข้องใจงบ กอ.รมน. 368 ล้าน ไร้รายละเอียด รุมซักจนรู้ มียอดซื้อระบบสอดแนม ล้ำยิ่งกว่าเพกาซัส

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ส.ส.ปชน. ข้องใจงบกอ.รมน. 368 ล้าน ไร้รายละเอียด รุมซักจนรู้ มียอดซื้อระบบสอดแนมข่าวสาร จากอิสราเอล เทคโนโลยีล้ำยิ่งกว่าเพกาซัส

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568จอจาน เอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ได้เผยผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง[ Pegasus Phase 2 มาในรูปแบบของ Sherlock Spyware! ] โดยมีเนื้อหาดังนี้
วันนี้ผม คุณจิรัฐ คุณภัณฑิล ประชุมคณะอนุกรรมาธิการงบ 69 ห้องอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ICT และทุนหมุนเวียน ในการพิจารณางบประมาณของ กอ.รมน. พบพิรุจ เอกสารชี้แจงใน
‘โครงการการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้’
ซึ่งเป็นการจัดหายุทโธปกรณ์ทั้งหมด 368 ล้านบาท โดยไม่มีเอกสารชี้แจงรายละเอียดอะโรเลย!
กอ.รมน. แจ้งต่อที่ประชุมว่าที่ไม่มีเอกสารเพราะ ‘เป็นความลับ!
สุดท้ายอนุกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรคประชาชน ไม่ยอม! ต้องได้เอกสาร! จะปล่อยผ่าน โครงการดังกล่าวไปได้ยังไงถ้าไม่รู้ว่าเอาไป ซื้ออะไรเท่าไหร่?
สุดท้าย กอ.รมน. ยอมให้เอกสาร แต่! ให้ดูในห้องพิจารณาเท่านั้น เสร็จขอเอากลับ
พอมาดูในรายละเอียดพบรายการต้องสงสัย
รายการซื้อ ‘ระบบรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลข้าวสารจากแหล่งข่าวเปิด ในงบประมาณ 35 ล้านบาท’ สืบไปสืบมาพบว่าเป็นการซื้อโปรแกรมที่เรียกว่า ‘Sherlock Spyware
ระบบนี้คือเทคโนโลยีสอดแนมขั้นสูงที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทสัญชาติอิสราเอล ล้ำหน้ากว่า Pegasus มาก! ความแตกต่างคือ Pegasus ใช้การหลอกให้คลิกลิงก์
แต่ Sherlock ไม่ต้องคลิก ไม่ต้องเปิดลิงก์ ไม่ ต้องติดตั้งแอป เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ที่มีโฆษณาก็เสียงถูกเจาะทันที!
หรือรัฐจะกลายเป็นอาชญากรไซเบอร์อีกรอบ?
คำถามสำคัญคือ แล้วใครจะเป็นเป้าหมายของ Sherlock?
เราผ่านบทเรียนจาก Pegasus มาแล้ว และรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้มีแค่อาชญากรหรือผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ความมั่นคง แต่ยังรวมถึงนักสิทธิมนุษยชน สื่อมวลชน นักศึกษา และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
ผมไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยีด้านความมั่นคง แต่ต้องตั้งคำถามจริง ๆ ถึงเรื่องความ โปร่งใสและการคุ้มครองสิทธิของประชาชน ในสังคมประชาธิปไตย
ซึ่งทาง กอ.รมน. ก็ตอบชี้แจงในที่ประชุมไม่ได้ ให้คำมั่นไม่ได้ ว่าจะไม่เอามาใช้กับประชาชนหรือผู้เห็นต่างกับรัฐบาล
พวกเราอนุกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรคประชาชนจึงเห็นตรงกันว่าควรตัดรายการนี้ออกไป อย่างไรก็ตามเสียงของเราไม่พอที่จะตัด จึงขอสงวนไว้ แล้วไปรายงานในที่ประชุมสภาใหญ่ ถึงความจำเป็นที่จะต้องตัดรายการนี้ออก ฝากพ่อแม่พีน้องประชาชน และสือมวลชน ติดตามเรืองนี้ อย่าปล่อย ให้รัฐกลายเป็นอาชญากรไซเบอร์เสียเอง!