ดีลภาษีแลกฐานทัพ?
ลือกันหนักมาก…
ดีลภาษีทรัมป์ ไทยจะตกรางวัลก้อนโตให้อเมริกาด้วย การตั้งฐานทัพ
ถ้ารัฐบาลไทยยอมตามนั้นจริงๆ คงเรียกว่ารัฐบาลขายชาติได้เต็มปาก
แต่ต้องหยุดลือทันทีเมื่้อ "สหายใหญ่-ภูมิธรรม เวชยชัย" พูดเรื่องนี้
"…ยังไม่ทราบในรายละเอียด เรื่องนี้มันอยู่ในงานของเขาอยู่แล้ว เรื่องของทรัมป์ ก็อยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว ไม่มีอะไร…"
งงมั้ยล่ะครับ
แล้วจะตีความอย่างไร
"สนธิ ลิ้มทองกุล" พูดเอาไว้ในงานเสวนา “ความจริงมีหนึ่งเดียว” ครั้งที่ ๓ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า ดีลภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ นั้น เท่าที่ได้ข่าวมา "ทรัมป์" เรียกร้องมา ๔ ข้อ
ข้อแรกคือ การปล่อยตัวอาจารย์ฝรั่ง นายพอล แชมเบอร์ส ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งถือว่าบอกช้า เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว
ข้อ ๒ ให้ประชาชนคนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ในทุกๆ เรื่อง นั่นหมายความว่า ต้องเปิดฟรีเรื่องมาตรา ๑๑๒
ข้อ ๓ คือ ห้ามส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีน เพื่อที่จะกั๊กจีนเรื่องซินเจียง
และเรื่องที่ ๔ ขอใช้ฐานทัพที่จังหวัดพังงา เพื่อเลื่อนกองทัพเรือของสหรัฐฯ มาเพื่อบล็อกช่องแคบมะละกาเส้นทางขนส่งน้ำมันไปจีนด้วย
เท็จจริงประการใดมิทราบได้ แต่หาก ๔ เรื่องนี้อยู่บนโต๊ะเจรจาจริงๆ ก็ต้องจับตาท่าทีของ "ทักษิณ ชินวัตร" อย่างใกล้ชิด เพราะมีแต่เรื่องร้อนๆ ทั้งนั้น
กะพริบตาเมื่อไหร่ ได้เห็นหายนะแน่!
โดยเฉพาะการกลับมาตั้งฐานทัพในไทย
ทำไมต้องใช้คำว่ากลับมา เพราะในอดีตอเมริกาเคยใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการฆ่าประชาชนในอินโดจีน
ตายเป็นเบือ!
จนนำไปสู่การต่อต้านอเมริกา
ปี ๒๕๑๘ มีการเดินขบวนใหญ่ของนักศึกษาประชาชนนับแสนคน จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปยังสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ
เพื่อกดดันให้อเมริกาถอนทหารและฐานทัพออกจากประเทศไทย
กรณีนี้ได้กลายเป็นเหตุรุนแรงเมื่อคนร้ายโยนระเบิดใส่ขบวนแถวของประชาชน เมื่อเคลื่อนไปถึงหน้าบริเวณโรงภาพยนตร์สยาม ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๔ คน แต่ขบวนของนักศึกษาก็ยังเคลื่อนต่อไปจนถึงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ
เหตุการณ์นี้ เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเมืองไทยและทิศทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองของขบวนการนักศึกษาหลังกรณี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
หลัง ๑๔ ตุลา ทิศทางการเคลื่อนไหวของขบวนการนักศึกษา คือเรื่องปัญหาเอกราช
เริ่มต่อต้านอิทธิพลต่างๆ ของอเมริกาที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งถูกมองว่าเป็นมรดกบาปจากสมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร ที่ได้ตกลงทำสัญญาร่วมมือเป็นพันธมิตรกับอเมริกาในการทำสงครามเวียดนาม
รัฐบาลขณะนั้นยอมให้อเมริกาใช้ดินแดนประเทศไทยเป็นฐานทัพในการโจมตีเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์และเงินช่วยเหลือที่ฝ่ายอเมริกาเสนอให้
ในปี ๒๕๑๖ มีฐานทัพอเมริกาในไทยถึง ๑๒ แห่ง
คือ ที่อู่ตะเภา ตาคลี อุบลราชธานี อุดรธานี นครพนม น้ำพอง สัตหีบ ลพบุรี เขื่อนน้ำพุง โคราช และกาญจนบุรี โดยมีศูนย์บัญชาการใหญ่ และหน่วยจัสแม็ก ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ
มีเครื่องบินสหรัฐฯ ประจำในไทยถึง ๕๕๐ ลำ เพื่อใช้ในการทิ้งระเบิดในลาว เขมร และเวียดนาม
มีทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ในไทยนับแสนนาย
สำหรับหน่วยจัสแม็กในไทยก็มีหน้าที่โดยตรงในการส่งกำลังบำรุงให้ทหารอเมริกันในเวียดนาม
นอกจากนี้ ขบวนการนักศึกษายังเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินนโยบายเป็นอิสระด้านการต่างประเทศ แทนที่จะใช้นโยบายตามหลังอเมริกาแต่เพียงอย่างเดียว
รวมทั้งขอให้เลิกสิทธิพิเศษต่างๆ แก่ฝ่ายอเมริกา
สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีความพยายามจะตั้งฐานทัพในไทยเช่นกัน แต่มาในรูปแบบอื่นแทน คือ "โครงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ" หรือเอชเอดีอาร์ (HADR-Humanitarian Assistance and Disaster Relief) ที่ดำเนินการโดยกองทัพสหรัฐฯ
และการตั้งสถานีวิจัยและเก็บตัวอย่างอากาศ ภายใต้โครงการเอสอีเอซี 4 อาร์เอส (Southeast Asia Composition, Cloud and Climate Coupling Regional Study) ของสำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาซา
แต่เกิดการต่อต้านจนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องถอย
เพราะโครงการเอสอีเอซี 4 อาร์เอส ที่เครื่องบิน ER2 ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องบินจารกรรม U2 มีภารกิจการบินที่ครอบคลุมในทะเลจีนใต้ อาจทำให้ไทยมีปัญหากับจีนได้
ทำไมถึงต้องกลัวการตั้งฐานทัพของอเมริกาในไทย
ในอดีตเคยมีกรณี "มายาเกวซ"
ได้เห็นสันดานอเมริกา!
กรณีนี้เกิดจากเรือสินค้าชื่อ "มายาเกวซ" ของอเมริกาถูกรัฐบาลเขมรแดงยึด ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๘ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ลอบส่งนาวิกโยธิน ประมาณ ๑ พันนาย เข้ามาที่ฐานทัพอู่ตะเภา โดยไม่แจ้งให้รัฐบาลไทยทราบ
ใช้การปฏิบัติการจากประเทศไทย โจมตีกองเรือของกัมพูชา บีบให้ทางการกัมพูชาคืนเรือ "มายาเกวซ" ให้อเมริกา
รัฐบาลไทยได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวกับรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยการออกแถลงการณ์คัดค้านที่สหรัฐฯ ละเมิดอธิปไตย
เรียกตัวทูตไทยประจำสหรัฐฯ กลับประเทศ!
กระทั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมแสดงความเสียใจกับรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม
แต่ไม่มีการขอโทษ!
ครับ…ว่าอดีตมาเสียยืดยาวเพราะต้องการพูดถึงอดีตของ "สหายใหญ่" อดีตคนเดือนตุลา ที่มีส่วนอย่างมากในการขับเคลื่อนขบวนการนักศึกษาทั้งในเมืองและในป่า
อุดมการณ์ของ "สหายใหญ่" นั้นแก่กล้า
เรื่องต่อต้านอเมริกานั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะมันอยู่ในสายเลือด ณ ขณะนั้น
มาวันนี้มีอำนาจอยู่เต็มมือ สิ่งที่พูดกับสิ่งที่คิดดูเหมือนจะไม่ตรงกันเสียแล้ว
"…ยังไม่ทราบในรายละเอียด เรื่องนี้มันอยู่ในงานของเขาอยู่แล้ว เรื่องของทรัมป์ ก็อยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว ไม่มีอะไร…"
ถ้า "ภูมิธรรม" หมายถึงฐานทัพเรือที่พังงา ซึ่งอเมริกาหมายตาไว้นานแล้ว อยู่ในแผนของกองทัพเรือ จะให้แปลความอย่างไร
โบ้ยไปทางกองทัพเรืออย่างนั้นหรือ
เป็นไปได้ไงครับ รัฐบาลรู้ว่ากองทัพเรือมีแผนให้อเมริกามาตั้งฐานทัพ แต่รองนายกฯ กลับบอกแค่ว่า ไม่มีอะไร
ไม่สวยครับ เตรียมรับแรงกระแทก.