หมอเตือน! ฟังเสียงแบบนี้ก่อนนอนทุกคืน อาจเสี่ยง "สมองเสื่อม" ไม่รู้ตัว
พฤติกรรมนอนของคุณอาจกำลังทำร้ายสุขภาพในระยะยาวแบบไม่รู้ตัวหรือเปล่า? ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาเผยนิสัยก่อนนอนที่อันตรายกว่าที่คิด
ล่าสุด ดร.ไป่ปิง เฉิน อาจารย์ด้านประสาทวิทยาคลินิกจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐฯ ได้แชร์ว่าเขาหลีกเลี่ยง 3 พฤติกรรมก่อนนอน เพื่อให้หลับได้ดีและไม่กระทบสุขภาพในระยะยาว โดยหนึ่งในนั้นคือกิจกรรมที่หลายคนเข้าใจว่าดี แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีกลับให้ผลตรงข้าม
ทุกวันนี้ หลายคนเปิด “เสียงสีขาว” (White Noise) เพื่อช่วยให้หลับง่ายขึ้น แต่นี่อาจกลายเป็นภัยเงียบ หากเปิดเสียงดังเกินไป เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมในอนาคต ดร.เฉินเตือน
เขาอธิบายว่า “ผมไม่เคยตั้งเครื่องเสียงสีขาวไว้ในระดับเสียงที่ดังเกินไป แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่ใช้เครื่องนี้ แต่ถ้าคุณใช้ ผมเข้าใจดี เพราะผมก็ใช้เหมือนกัน”
“หลายคนอาจพยายามกลบเสียงรถ เสียงกรนของคู่รัก หรือเสียงสัตว์เลี้ยงตอนตีสอง แต่ถ้าเปิดเสียงดังเกินไป อาจทำลายการได้ยินในระยะยาว และอย่างที่ผมเคยพูดในวิดีโอก่อน ๆ การสูญเสียการได้ยิน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของภาวะสมองเสื่อมในอนาคต”
หลายคนเชื่อว่าเสียงสีขาวช่วยให้นอนหลับสบายและไม่มีอันตราย แต่จริง ๆ แล้ว มีงานวิจัยบางฉบับระบุว่า การสัมผัสกับมลภาวะทางเสียงเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยบางเคส ระบุว่า เสียงสีขาวที่มีระดับเสียงดังอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมในระยะยาวได้
ดร.เฉิน แนะนำว่า ควรตั้งระดับเสียงของเครื่องเสียงรบกวนสีขาวไม่เกิน 50 เดซิเบล และควรวางเครื่องให้ห่างจากเตียงในระยะที่ปลอดภัย เพื่อลดการสัมผัสเสียงดังอย่างต่อเนื่องในระยะใกล้
งานวิจัยชี้ว่า สำหรับเด็กเล็ก ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 30 เซนติเมตรเมื่อต้องใช้เสียงสีขาว และยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างการสัมผัสเสียงตั้งแต่อายุน้อยกับความเสี่ยงในการสูญเสียการได้ยิน
การสูญเสียการได้ยินอาจนำไปสู่ภาวะแยกตัวทางสังคมและการรับรู้ที่ลดลง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ควรเข้าใจว่าโรคสมองเสื่อมไม่ได้ทำให้สูญเสียการได้ยินโดยตรง แต่การสูญเสียการได้ยินสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
ตามข้อมูลจากสมาคมอัลไซเมอร์ ผู้ที่เริ่มมีปัญหาการได้ยินในช่วงวัยกลางคน (อายุระหว่าง 40–65 ปี) จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเป็นโรคสมองเสื่อม โดยอาการสูญเสียการได้ยินอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคด้วย
โฆษกของสมาคมฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หลายคนเริ่มสูญเสียการได้ยินเมื่ออายุมากขึ้น แม้อาจไม่รู้ตัวในทันที การตรวจเช็กการได้ยินจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม และมีหลักฐานบางส่วนแสดงให้เห็นว่า การใช้เครื่องช่วยฟังอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเสื่อมถอยทางการรับรู้ได้”
เสียงสีขาว "White Noise" คืออะไร และช่วยให้นอนหลับดีขึ้นจริงหรือไม่?
ตามข้อมูลจากมูลนิธิ Sleep Foundation “White noise” หรือเสียงสีขาว คือเสียงรบกวนที่ครอบคลุมทุกย่านความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้ เป็นเสียงที่สม่ำเสมอ คล้ายเสียงซ่าเบา ๆ เช่น เสียงจากวิทยุหรือทีวีที่ยังไม่ได้ตั้งช่อง หรือเสียงพัดลมที่เปิดค้างไว้เบา ๆ
งานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเสียงสีขาวในการช่วยให้นอนหลับให้ผลที่หลากหลาย บางการศึกษาพบว่าเสียงนี้ช่วยให้ทารกหลับได้เร็วขึ้น และช่วยให้ผู้ใหญ่นอนหลับได้ดีขึ้น โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวน เช่น ใจกลางเมืองนิวยอร์ก
อย่างไรก็ตาม มีบางคนรู้สึกว่าเสียงสีขาวทำให้นอนยากขึ้น แสดงให้เห็นว่า ผลของเสียงประเภทนี้อาจขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและบริบทในการใช้งานเป็นสำคัญ
วิธีใช้เสียงสีขาวเพื่อช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
คุณสามารถซื้อเครื่องสร้างเสียงรบกวนสีขาวโดยเฉพาะได้จากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้
หรือประหยัดงบด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ ซึ่งมีให้เลือกมากมายทั้งใน App Store และ Google Play
นอกจากนี้ YouTube ยังมีวิดีโอเสียงสีขาวแบบเปิดต่อเนื่องหลายชั่วโมงให้เลือกฟังฟรีอีกด้วย
หากต้องการลองแบบอื่น คุณอาจทดลอง “เสียงรบกวนสีต่าง ๆ” เช่น pink noise (สีชมพู), brown noise (สีน้ำตาล) หรือ green noise (สีเขียว) เพื่อหาประเภทที่เหมาะกับคุณที่สุด
หากคุณชอบเสียงธรรมชาติ pink noise อาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมักรวมถึงเสียงฝนตก เสียงน้ำตก หรือเสียงลำธารไหลเบา ๆ ตามข้อมูลจาก Sleep Foundation นักบำบัดบางรายยังใช้ pink noise ในการรักษาอาการหูอื้อ หรือความผิดปกติทางการได้ยินบางประเภทอีกด้วย