นร.ตัวท็อป สอบคะแนนได้อันดับ 1 จนสื่อแห่ชื่นชม แต่ทุกมหาลัยชั้นนำกลับปฏิเสธ ไม่ให้เข้าเรียน ด้วยเหตุผลสุดช็อก พ่อแม่รังแกฉัน (ข่าวตปท.)
เมื่อพูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศจีน หลายคนมักเปรียบเทียบว่าเป็นนี่คือ สงครามตัดสินชะตาชีวิต เพราะเพียงไม่กี่คะแนน อาจเปลี่ยนอนาคตของคน ๆ หนึ่งได้เลย โดยเฉพาะเมื่อเป้าหมายคือการได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง หรือ มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดของนักเรียนจีนจำนวนมาก
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สื่อต่างประเทศอย่าง SOHA ก็ได้มีการย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเขย่าวงการการศึกษาแดนมังกรมาก่อนหน้านี้ เมื่อ เหอซวนหยาง นักเรียนชายจากนครฉงชิ่ง ทำคะแนนสอบวิชาสายสังคมศาสตร์ได้สูงถึง 659 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดในจังหวัด นั่นจึงทำให้ที่สื่อท้องถิ่นต่างยกย่องพากันชื่นชมว่าเป็นต้นแบบของ ลูกบ้านคนอื่น ที่ผู้ปกครองทุกคนใฝ่ฝัน
ด้วยความสามารถระดับนี้ ทำให้มหาวิทยาลัยปักกิ่งติดต่อเชิญเขาเข้าเรียนในคณะบริหารทันที พร้อมทำข้อตกลงรับเข้าเรียนไว้ล่วงหน้า ทว่าผ่านไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น มหาวิทยาลัยกลับล้มเลิกข้อตกลงดังกล่าว พร้อมประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีวันรับนักเรียนคนนี้เด็ดขาด หลังจากมีการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด พบว่าเหอซวนหยาง ได้แอบอ้างว่าเป็นชนกลุ่มน้อย เผ่าถัวเจีย ทั้งที่จริงเขาเป็นคนเชื้อสายฮั่น ซึ่งการระบุชนกลุ่มน้อยในระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยจีนจะได้รับสิทธิ์ บวกคะแนนพิเศษ สูงถึง 20 คะแนน ทำให้เขาได้ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ความจริงถูกเปิดเผย ไม่เพียงแต่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเท่านั้นที่ปฏิเสธ แต่มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ ในประเทศ ต่างก็ประกาศไม่รับเขาเข้าศึกษาเช่นเดียวกัน ทำให้เหอซวนหยางต้องเสียโอกาสการศึกษาทั้งหมดในปีนั้น แถมยังต้องกลายเป็นประเด็นร้อนตามหน้าสื่อ จากที่เคยถูกยกย่อง กลับถูกสังคมตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้จะเป็นเด็กคนหนึ่งที่นับว่ามีความสามารถจริงๆ ก็ตาม
ทั้งนี้ ยังมีการเปิดเผยเบื้องหลังการสอบได้คะแนนสูงสุดของเหอซวนหยางอีกด้วยว่า เขานั้นมาจากครอบครัวที่มีฐานะดีและมีอิทธิพลในแวดวงการศึกษา พ่อของเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายรับนักเรียนระดับอำเภอ ส่วนแม่เป็นรองผู้อำนวยการหน่วยงานของรัฐ ทั้งคู่ร่วมมือกันเปลี่ยนข้อมูลในเอกสารลูกชาย หวังให้ลูกได้เปรียบในการสอบ ซึ่งผลจากการกระทำครั้งนี้ ทำให้ทั้งสองคนถูกลงโทษทางวินัยและถูกลดตำแหน่ง
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เหอซวนหยางไม่ยอมแพ้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจใช้เวลา 1 ปีเต็มในการอ่านหนังสือสอบใหม่ และปีต่อมา ก็สามารถสอบได้คะแนนสูงกว่าเดิมอีก 15 คะแนน แม้จะไม่ได้เป็นที่ 1 ของจังหวัดเหมือนเดิม แต่คะแนนก็ยังติดอันดับท็อป 10 ของจังหวัดอยู่ดี ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่งกลับมาเชิญเขาเข้าเรียนอีกครั้ง โดยยืนยันว่า ผลคะแนนในรอบใหม่นั้นถูกต้องและไม่มีการแอบอ้างใดๆ อีก ทั้งยังพิจารณาว่า เหตุผิดพลาดครั้งก่อนนั้นไม่ได้เกิดจากตัวเด็กโดยตรง แต่เกิดจากการตัดสินใจของผู้ปกครอง
หลังจากได้เข้าศึกษายังรั่วมหาวิทยาลัยฯ เหอซวนหยาง ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนอย่างสงบนิ่ง พร้อมยอมรับความผิดพลาดในอดีตที่เขาและผู้ปกครองก่อขึ้น และยืนยันว่าครั้งนี้เขาได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยด้วยความสามารถล้วนๆ
ข้อมูล SOHA