รัฐบาลเดินหน้าสานต่อ “โครงการลดคลอดก่อนกำหนด” สร้างโอกาสชีวิตใหม่ให้แม่และเด็กไทย เฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10
รัฐบาลเดินหน้าสานต่อ “โครงการลดคลอดก่อนกำหนด” สร้างโอกาสชีวิตใหม่ให้แม่และเด็กไทย เฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10
วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับสุขภาพแม่และเด็ก โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายระดับชาติและท้องถิ่น เดินหน้าโครงการสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุกเพื่อลดภาวะคลอดก่อนกำหนด ซึ่งริเริ่มตั้งแต่ปี 2567 และจะดำเนินต่อเนื่องจนถึงปี 2570 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตหญิงตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิดทั่วประเทศ พร้อมทั้งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา
โครงการฯ ตั้งเป้าลดอัตราการคลอดก่อนกำหนดของหญิงไทยให้ไม่เกินร้อยละ 8 และลดอัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดช่วงอายุ 7–28 วัน ให้ไม่เกิน 4 ต่อพันทารกเกิดมีชีพ ภายในปี 2570 โดยเริ่มขับเคลื่อนใน 24 จังหวัด 72 อำเภอ และกรุงเทพมหานคร ผ่านการพัฒนาระบบสุขภาพ 6 ด้าน ได้แก่ ระบบคัดกรองสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ การดูแลระหว่างตั้งครรภ์ การบริหารจัดการยาอย่างปลอดภัย ระบบรักษาและส่งต่อผู้มีภาวะเสี่ยง การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และการติดตามพัฒนาการเด็กอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รัฐบาลยังมุ่งเน้นการบูรณาการทุกภาคส่วนในระดับพื้นที่ โดยใช้กลไก “คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.)” และเครือข่ายชุมชน ร่วมขับเคลื่อนงานเชิงรุก โดยเฉพาะการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้มีรายได้น้อย หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด โดยมีทีมปฏิบัติการระดับพื้นที่ อาทิ นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แกนนำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นกำลังสำคัญในการลงพื้นที่จริง
“โครงการนี้สะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการพัฒนาระบบสุขภาพที่เข้มแข็งตั้งแต่ระดับครอบครัวและชุมชน พร้อมสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคงให้เด็กไทยตั้งแต่ลมหายใจแรก เพื่อเติบโตเป็นพลเมืองคุณภาพของชาติอย่างยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์กล่าว