โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กรมชลฯ สั่งทุกพื้นที่เตรียมพร้อมเครื่องจักร วางแผนรับมือฝนระลอกใหม่

INN News

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

กรมชลฯ สั่งทุกพื้นที่เตรียมพร้อมเครื่องจักร กำลังคน 24 ชม. วางแผนรับมือฝนระลอกใหม่

วันนี้ (29 ก.ค.68) นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตลอดจนสำนักงานชลประทานที่ 1 -17 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

กรมชลฯ สั่งทุกพื้นที่เตรียมพร้อมเครื่องจักร วางแผนรับมือฝนระลอกใหม่

จากการรายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด (29 ก.ค.68) พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 48,332 ล้าน ลบ.ม. (63% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 28,171 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 15,940 ล้าน ลบ.ม. (64% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 8,931 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง จากนั้นจะมีปริมาณฝนเพิ่มสูงขึ้นอีกระลอก ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้วางแผนใช้ “ทุ่งบางระกำ” เป็นพื้นที่หน่วงน้ำธรรมชาติ คาดว่าจะพร้อมใช้งานเต็มที่ภายหลังการเก็บเกี่ยวในช่วงกลางเดือนสิงหาคม

กรมชลฯ สั่งทุกพื้นที่เตรียมพร้อมเครื่องจักร วางแผนรับมือฝนระลอกใหม่

โดยขอความร่วมมือเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วไม่ทำการเพาะปลูกซ้ำเนื่องจากอาจส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย พร้อมกำชับไปยังโครงการชลประทานทุกแห่งให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อท้ายเขื่อน

เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ที่สำคัญให้ปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 68 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม. ให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

ลูกแมวติดในห้องเครื่องรถยนต์ ถนนพุทธบูชา

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามสู่ Medical Hub

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สพฐ. ยัน! ไม่มีคำสั่ง–ไม่บังคับครู เฝ้าโรงเรียนในพื้นที่ “เขตปะทะ”

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตัวเงินตัวทองบุกรุก โทร.1677 ร่วมด้วยช่วยกัน ประสานอาสาร่วมด้วยเข้าช่วยเหลือ

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม