โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

PLANET#3 เล่ากันว่า ‘ดัชเชสเมแกน’เคยพูด: เราอยู่ห่างบัลลังก์แค่หนึ่งไฟล์มรณะ คำลือนี้มากระหึ่มลั่นในปัจจุบัน ที่ปรินซ์จอร์จต้องแยกเที่ยวบินกับพระบิดา เผื่อเครื่องตก ตายยกลำ!

Manager Online

เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

เป่าเทียนวันเกิด ตัดขนมเค้ก แกะห่อของขวัญ คือเรื่องราวเปี่ยมสุขในวันครบเบิร์ธเดย์ของเด็ก 12 ปีทั่วไป แต่สำหรับ “ปรินซ์จอร์จแห่งเวลส์” องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษนั้น หลักไมล์อายุ 12 พรรษา นับแต่เมื่ออังคารที่ 22 กรกฎาคม 2025 หมายถึงความเปลี่ยนแปลงต่อพระองค์กับพระบิดาวิลเลียมโดยตรง ซึ่งเป็นไปตามไฟต์บังคับแห่งชีวิตที่พระองค์ทรงประสูติมาเป็นว่าที่พระมหากษัตริย์

แม้ว่าในวันนี้ ปรินซ์จอร์จ รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งพระราชบัลลังก์ (ตามสถานภาพพระโอรสองค์โตของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม) ยังทรงมีโฟกัสสำคัญอยู่ที่การศึกษาเล่าเรียน และการสนุกกับกีฬา โดยที่บทบาทในฐานะกษัตริย์ยังดูว่าห่างไกล แต่ในทางปฏิบัติ พระอังสาทั้งบ่าและไหล่ของเด็กชายวัยไม่ถึงทีนเอจ ก็เริ่มรับทราบถึงน้ำหนักแห่งภารกิจพระมหากษัตริย์แล้ว ดิเอ็กซ์เพรส สื่อชั้นแนวหน้าของอังกฤษ ฟันธงไว้อย่างนั้น

ดังจะเห็นสัญญาณชี้บ่งที่ปรากฏในพระอิริยาบถได้ชัดเจน และบรรดาผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ก็ไม่ยอมพลาดที่จะชี้ให้สาธารณชนสังเกต อาทิ การวิเคราะห์ของกูรู “เจนนี บอนด์” อดีตผู้สื่อข่าวบีบีซี ในสายข่าวสำนักพระราชวังซึ่งกล่าวไว้กับ เดอะมิร์เรอร์ โดยย่อดังนี้

ในห้วงซึ่งปรินซ์จอร์จทรงย่างเข้าสู่พระชนมายุ 12 พรรษา พระองค์ทรงมีความเปลี่ยนแปลงรออยู่ 2 เด้ง ได้แก่

1.นับจากพระเบิร์ตเดย์เมื่อ 22 กรกฎาคม 2025 ปรินซ์จอร์จผู้เป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 จะต้องเดินทางแยกไฟล์ทกับพระบิดา ซึ่งเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 นี่คือข้อกำหนดตามกฎมณเฑียรบาลต่อปรินซ์ ‘ว่าที่พระมหากษัตริย์’ ซึ่งมีพระชนมายุครบ 12 พรรษานั่นเอง

2.ในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า 2026 ซึ่งพระองค์จะจบการศึกษาระดับประถม และต้องก้าวเข้าศึกษาระดับมัธยมนั้น พระองค์อาจจะต้องเข้าศึกษาในโรงเรียนประจำตามพระราชประเพณี เพื่อถูกเตรียมวินัยและเตรียมความพร้อม เฉกเช่นเดียวกันที่พระบิดาวิลเลียมและพระอัยกาเจ้าชาร์ลส์ ทรงผ่านมาก่อนแล้ว

โดยเดอะมิร์เรอร์ชี้ว่าการที่จะต้องพลัดพรากจากบ้าน ไปเป็นนักเรียนประจำ ที่แท้ก็คือ ‘ความเป็นจริงของชะตาชีวิตเริ่มเข้าไปกระทบพระองค์อย่างจัง’

“พระองค์มักจะค่อนข้างเคร่งขรึมในขณะทรงพระดำเนินในขบวนพระราชยานรถม้าพระที่นั่ง ขณะที่ปรินเซสชาร์ลอตต์ทรงสงบสุภาพเรียบร้อย ปรินซ์หลุยส์ทรงซุกซน ส่วนสำหรับปรินซ์จอร์จนั้น มีหลายๆ ครั้งที่ทรงดำดิ่งอยู่ในความครุ่นคิด แต่ใครจะไปคอมเมนต์อะไรได้ นี่เป็นสถานการณ์พิเศษ โดยคุณทราบอยู่เต็มอกว่า ในวันหนึ่ง คุณจะต้องรับบทบาทที่ยิ่งใหญ่ และตอนนี้คุณจึงคอยเฝ้ามองสิ่งที่สมเด็จพระอัยกาเจ้าทรงแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง” กูรูเจนนี บอนด์ ตั้งข้อสังเกตอย่างนั้น

ที่ผ่านมาในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ปรินซ์จอร์จทรงได้เข้าร่วมพระราชกรณียกิจสำคัญครบทั้งสองแมตช์ คือ พระราชอีเวนต์เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ในเดือนมิถุนายน ที่เป็นมาทุกปีดั่งเดิม และที่เพิ่มเติมคือการเสด็จเข้าร่วมงาน Tea Party อันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีครบรอบ 80 ปีแห่ง Victory of Europe Day

โดยในเดือนพฤษภาคม ปรินซ์จอร์จได้ทรงงานพระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างเต็มที่ คืองานรำลึก 80 ปีแห่งชัยชนะเหนือฝ่ายรุกราน (นาซีเยอรมัน) ที่นำไปสู่การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ของทวีปยุโรป หรือก็คือ วัน VE Day

ในงานใหญ่ประจำปีดังกล่าว เดลิเมลออนไลน์รายงานว่า ปรินซ์จอร์จทรงเข้าร่วมแบบที่เป็นเซอร์ไพรส์พิเศษในงานพระราชทานเลี้ยงน้ำชาแก่ทหารผ่านศึกและครอบครัว เพราะแต่เดิมจะถือว่าปรินซ์จอร์จยังทรงพระเยาว์ แต่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแบบไม่ประกาศล่วงหน้านี้ เป็นไปโดยสอดคล้องกับการที่ปรินซ์ทรงเจริญพระชนมายุขึ้นมาใกล้วัยทีนเอจแล้ว

ในการนี้ ปรินซ์จอร์จซึ่งเจริญวัยสูงมากกว่า 160 ซม.แล้ว ทรงปรากฏพระองค์ในชุดสูทผูกเน็กไทสีน้ำเงิน พระองค์ทรงยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะถ่ายพระรูปและสนทนากับคุณปู่คุณตาทหารผ่านศึกทั้งปวง และทรงเฝ้าชมการสวนสนาม ก่อนจะตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จออกสีหบัญชรพระราชวังบัคกิงแฮม เพื่อชมการแสดงของฝูงบินผาดโให้พสกนิกรที่รอเข้าเฝ้า ได้ชื่นชมพระบารมี

การสนทนากับทหารผ่านศึกเป็นความก้าวหน้าสำคัญในเส้นทางแห่งสมาชิกพระราชวงศ์ ในโอกาสดังกล่าว ปรินซ์จอร์จทรงมีพระอิริยาบถสุภาพ ทรงซักถามบรรดาวีรบุรุษสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าได้ดำเนินภารกิจอะไรบ้าง ได้พบเห็นสิ่งใดบ้าง พร้อมกันนั้น ก็ทรงใส่ใจฟังเรื่องราวที่ทหารผ่านศึกเล่าถวาย โดยมีพระมารดาแคเธอรินคอยช่วยสนับสนุน

ในการเสด็จเข้าร่วมพระราชกรณียกิจครั้งนี้ ปรินซ์จอร์จทรงได้รับเสียงชื่นชมแซ่ซ้องจากสาธารณชน โดยผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อย่าง ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ คอนเฟิร์มดีงามไว้กับทีมข่าวฟีเมล FEMAIL ของเดลิเมลออนไลน์ว่า ปรินซ์ทรงเข้าร่วมแบบที่ไม่มีใครคาดคิด แต่ต้องยอมรับว่าทรงมาในช่วงที่เหมาะสมกับจังหวะของพระชนม์ชีพ และแน่ใจได้เลยว่าจะมีอย่างนี้อีกในหลายๆ พระราชอีเวนต์ เพราะในครั้งนี้ทรงประสบความสำเร็จใหญ่หลวงจริงๆ

ต่อมาในเดือนมิถุนายน ปรินซ์จอร์จเสด็จออกในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อันเป็นพระราชประเพณี Trooping the Colour ทรงเข้าร่วมในขบวนพระราชยานรถม้าพระที่นั่ง และภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชนมักที่จะเป็นพระรูปซึ่งปรินซ์รัชทายาทลำดับที่ 2 ทรงมีพระออร่าเคร่งขรึม ซึ่งส่งให้ปรินซ์จอร์จทรงดูเป็นผู้ใหญ่เกินพระชนม์ชีพแท้จริงมากกว่าหนึ่งทศวรรษกันเลยทีเดียว

ปรินซ์จอร์จต้องเจอสิ่งใหม่ไม่ค่อยโอ: นับจากนี้ ทรงเดินทางไฟล์ทเดียวกับพระบิดามิได้แล้ว ผู้คนยี้ไม่เห็นด้วย แต่กูรูเตือน: ราชวงศ์สาย “ปรินซ์แฮร์รีกับเมแกน” จ่อคิวสู่ราชบัลลังก์อยู่นะ

ณ พระชนมายุ 12 พรรษา ปรินซ์จอร์จทรงปรากฏพระองค์ในพระอิริยาบถเคร่งขรึมและครุ่นคิดต่างๆ บ่อยๆ ซึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะพระไลฟ์สไตล์ที่เคยง่ายดาย สบายๆ กลับจะต้องซับซ้อนมากขึ้นตามกฎมณเฑียรบาล

ทั้งนี้ พระเบิร์ธเดย์เมื่อ 22 กรกฎาคม 2025 เป็นหลักไมล์อายุที่องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ถูกกำหนดโดยกฎมณเฑียรบาลอันเก่าแก่ว่า องค์รัชทายาทลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 จะต้องไม่เดินทางไปในพระราชกรณียกิจด้วยกัน

หรือก็คือ ปรินซ์จอร์จจะไม่ได้ขึ้นเครื่องบินไฟล์ทเดียวกันกับพระบิดาวิลเลียม เพื่อเดินทางไปในพระราชกรณียกิจต่างๆ ปมประเด็นนี้ กูรูผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ต่างทราบดีว่า เป็นเรื่องปวดพระทัยทีเดียวสำหรับ “พ่อ-ลูก”คู่บัดดี้สองพระองค์แห่งพระราชวงศ์วินด์เซอร์

ที่มาที่ไปของแนวปฏิบัติสำคัญข้อนี้ เป็นกฎเหล็กแห่งพระราชประเพณี ที่มุ่งหมายจะสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่สถาบันพระมหากษัตริย์ เดลิเมลออนไลน์รายงานไว้อย่างนั้น

กล่าวคือ หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับพระองค์หนึ่ง ก็ยังมีอีกหนึ่งพระองค์คอยสืบทอดพระราชบัลลังก์ โดยในรอบกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา นี่เป็นแนวปฏิบัติที่เสด็จพระบิดาของปรินซ์จอร์จทรงปฏิบัติตาม อีกทั้งสมเด็จพระอัยกาชาร์ลส์ก็ทรงปฏิบัติตามในห้วงที่ยังทรงดำรงพระอิสริยยศแห่งปรินซ์ออฟเวลส์

“คือต้องทำให้มั่นใจได้ถึงความต่อเนื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ครับ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ เมื่อครั้งที่ยังเป็นปรินซ์ออฟเวลส์ พระองค์กับเจ้าชายวิลเลียมไม่เคยเดินทางด้วยเที่ยวบินเดียวกันเลย ทำนองเดียวกันนี้ล่ะครับในเมื่อเจ้าชายจอร์จ ซึ่งทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 ของพระราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงมีพระชนมายุครบ 12 พรรษาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม กฎมณเฑียรบาลประการนี้ก็จะนำมาบังคับใช้กับพระองค์และพระบิดา แต่ไม่บังคับใช้กับเจ้าหญิงชาร์ลอตต์หรือเจ้าชายหลุยส์นะครับ” ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ ให้ข้อมูลไว้กับเดลิเมลออนไลน์

“เจ้าชายจอร์จสามารถเดินทางไปด้วยกันกับพระกนิษฐาและพระอนุชาครับ ส่วนพระบิดาก็ใช้อีกเที่ยวบินหนึ่ง โดยอาจจะเป็นการเดินทางโซโล เดี่ยวๆ พระองค์เดียวก็ได้” กูรูฟิตซ์วิลเลียมส์ขยายความเพิ่มไว้อย่างนั้น

พร้อมทั้งยังมีเกร็ดพระราชวงศ์นำมาเล่าด้วยว่า ที่ผ่านมาในห้วงที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังทรงมีพระชนม์ชีพ และสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ยังทรงเป็นปรินซ์ออฟเวลส์ ทรงตรัสกล่าวด้วยความเป็นห่วงต่อแนวปฏิบัติที่พระครอบครัวของเจ้าชายวิลเลียมทรงเดินทางด้วยเที่ยวบินเดียวกันทุกครั้งครา

“ปมตรงนี้มิใช่แค่เรื่องที่ทั้งห้าพระองค์ทรงเดินทางไปในเที่ยวบินเดียวกันเท่านั้น หากแต่ยังมีปมที่ว่าปรินซ์วิลเลียมทรงเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์มีใบอนุญาต และยังทรงขับเฮลิคอปเตอร์ด้วยพระองค์เอง

“ตามที่โรเบิร์ต จอบสัน เล่าไว้ในหนังสือน่ะครับ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงไม่โอเคเลยที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงขับเฮลิคอปเตอร์พาพระครอบครัวไปที่โน่นที่นี่ พระองค์ทรงขอร้องให้พระราชโอรสยุติ

“และเรื่องนี้เป็นอะไรที่ควีนเอลิซาเบธทรงตรัสเป็นห่วงเป็นใยด้วยครับ เพราะในส่วนของพระองค์เอง ควีนทรงระมัดระวังเสมอเลยว่า จะต้องเดินทางแยกไฟล์ทกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ผู้ทรงเป็นองค์รัชทายาทพระองค์หลัก นี่เป็นเรื่องสำคัญน่ะครับ ผมต้องบอกอย่างนี้”

ผู้เชี่ยวชาญฟิตซ์วิลเลียมส์กล่าวไว้กับเดลิเมลออนไลน์อย่างนั้น พร้อมให้ข้อมูลเกร็ดประวัติศาสตร์สำคัญเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมทางการบินร้ายแรงในศตวรรษที่ 20 ที่ส่งผลให้สมาชิกแห่งพระราชวงศ์วินด์เซอร์เสียชีวิตหลายพระองค์ และส่งผลให้ควีนเอลิซาเบธทรงปฏิบัติตามกฎมณเฑียรบาลนี้อย่างจริงจัง

“เรื่องที่ไม่คาดคิดนั้น สามารถเกิดขึ้นได้น่ะครับ เช่น กรณีเครื่องบินที่ปรินซ์พระญาติสนิทมากของควีนเอลิซาเบธ คือ ปรินซ์วิลเลียมแห่งกลอสเตอร์ ขับด้วยพระองค์เอง เกิดจะโหม่งพสุธาอย่างเหลือเชื่อไปในปี 1972 ทั้งๆ ที่เป็นการบินแข่งขันทั่วไป

“ก่อนหน้านั้น ในปี 1942 เป็นกรณีเครื่องบินตกที่สกอตแลนด์ โดยปรินซ์จอร์จ ดยุกแห่งเคนท์ ทรงเป็นผู้โดยสาร และทรงสิ้นพระชนม์ พร้อมผู้โดยสารอื่นๆ 11 ราย

“และเมื่อย้อนหลังขึ้นไปเพียง 5 ปี คือในปี 1937 ปรินเซสเซซีลีแห่งกรีซและเดนมาร์ก พระภคินีของปรินซ์ฟิลิป (ซึ่งหลังจากนั้น 10 ปี ปรินซ์ทรงอภิเษกสมรสเป็นพระราชสวามีแห่งควีนเอลิซาเบธที่ 2) ก็สิ้นชีพิตักษัยเพราะเครื่องบินตกและเกิดเพลิงเผาผลาญวอดทั้งลำ ระหว่างที่เดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์เหมาลำขนาดเล็กจากนครแฟรงก์เฟิร์ตไปยังกรุงลอนดอน”

ผู้เชี่ยวชาญฟิตซ์วิลเลียมส์เล่าเกร็ดประวัติศาสตร์พระราชวงศ์ไว้อย่างละเอียด และยังเล่าถึงแนวปฏิบัติของทางฝั่งสหรัฐอเมริกาว่า เป็นในทำนองเดียวกัน คือประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดีจะต้องไม่เดินทางไปในเที่ยวบินเดียวกัน

ในด้านของปรินซ์จอร์จ ที่จะต้องเผชิญกับการบังคับใช้กฎข้อนี้ นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อพระองค์ตรง ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าปรินซ์จอร์จทรงใกล้ชิดแนบแน่นกับพระบิดาวิลเลียมมาตลอด 12 ปีแห่งพระชนม์ชีพ

ในการนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งปวงพากันทำนายว่า พระบิดาวิลเลียมและพระมารดาแคเธอรินอาจจะไม่ปฏิบัติตาม!!

โดยรายการเมาท์ข่าวความเคลื่อนไหวในพระราชวัง “Palace Confidential” ซึ่งเผยแพร่ให้ชมฟรีทางยูทูป มีเอพิโซด ณ พฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2025 ที่พูดคุยกันในปมนี้อย่างละเอียด ดังนี้

“น่าติดตามอย่างยิ่งครับว่า ปรินซ์จอร์จกับปรินซ์วิลเลียมจะอย่างไร เพราะเราต่างทราบกันดีว่าทั้งสองพระองค์ทรงเดินทางด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ หรือรถยนต์” บรรณาธิการโต๊ะปฏิทินข่าว ริชาร์ด อีเดน แห่งเดลิเมลออนไลน์ เปิดเรื่องขึ้นมา

“ในส่วนของดิฉัน ดิฉันเพิ่งได้คุยกับบางท่านในสำนักพระราชวังค่ะ พวกเขาพูดประมาณว่า อืมม์ นี่ก็เป็นข่าวที่เราได้ทราบมา เมื่อได้ฟังแล้ว ดิฉันรู้สึกว่าพระครอบครัวเวลส์คงจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติเรื่องการเดินทางใดๆ ทั้งสิ้นล่ะค่ะ” บรรณาธิการข่าวในพระราชสำนักให้ความเห็นเช่นกัน

และแล้วบ.ก.ริชาร์ด อีเดน ก็ดึงให้ท่านผู้ชมหันไปพิจารณาความเสี่ยงอันสำคัญยิ่งยวดว่า

“ครับผม พระราชสำนักเคนซิงตันไม่ค่อยพูดถึงการจัดการด้านความปลอดภัย อีกทั้งไม่ค่อยพูดถึงการตระเตรียมด้านการเดินทาง แต่ผมต้องขอแตะไปถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้อง คือ ผมทราบนะครับว่าสิ่งที่ผมจะหยิบยกขึ้นมานี้เป็นประเด็นที่ไม่งดงามที่จะกล่าวถึง แต่มันเป็นเรื่องของอนาคตแห่งพระราชตระกูลที่น่าเป็นห่วงทีเดียว คืออย่างนี้ครับ ลำดับแห่งองค์รัชทายาทน่ะครับ ถัดจากพระราชวงศ์สายเวลส์แล้ว เราต้องเจอกับสายซัสเซกซ์ของปรินซ์แฮร์รีกับดัชเชสเมแกน

“คือผมแน่ใจว่านี่น่าจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่เราก็ต้องไม่ลืมข่าวลือที่เคยสะพัดมากมายว่า ดัชเชสเมแกนเคยพูดบางสิ่งประมาณว่า ‘เราอยู่ห่างจากการได้ครองพระราชบัลลังก์แค่หนึ่งเอื้อม คือหนึ่งเครื่องบินตกเท่านั้น’

“ผมแน่ใจนะครับว่าดัชเชสไม่ได้พูดอย่างนั้น เพราะมันเป็นคอมเมนต์ที่ไม่งดงาม แต่ความจริงที่มีอยู่จริงๆ คือ ปรินซ์แฮร์รีกับดัชเชสเมแกนมีโอกาสเอื้อมถึงพระราชบัลลังก์ได้ และนั่นเป็นอะไรที่ผมต้องขอบอกว่า มันจะเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษน่ะครับ”

หลังจากนั้น บ.ก.ริชาร์ด อีเดน ส่งคำอ้อนวอนถึงพระราชวงศ์สายเวลส์ว่า

“ได้โปรดเถิดครับ แม้ว่านี่จะไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ขอความกรุณาให้ปรินซ์จอร์จทรงเดินทางแยกไฟล์ทและแยกเฮลิคอปเตอร์กับพระบิดานะครับ”

มันเป็นธรรมดาที่ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ จะต้องกระทบความรู้สึกนึกคิดและจิตใจของปรินซ์จอร์จ และเป็นอะไรที่ต้องจับตาว่าจะส่งผลใดๆ ขึ้นมาบ้าง กระนั้นก็ตาม แม้ปมอันน่าปวดพระทัยนี้สามารถมีผลเชิงจิตวิทยา แต่ก็อาจจะไม่สร้างความกังวลพระทัยมากเท่ากับความเปลี่ยนแปลงในด้านสถานศึกษา เพราะพระองค์ทรงจะต้องย้ายโรงเรียนไปสู่ระดับมัธยมศึกษา ซึ่งอาจจะต้องเข้าโรงเรียนประจำ ปมน่าหนักพระทัยนี้จะอุบัติขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของปี 2026

“อาจต้องละทิ้งพระตำหนักอบอุ่น เพื่อเข้าศึกษาในโรงเรียนประจำระดับมัธยม” คือความเปลี่ยนแปลงแห่งพระชนม์ชีพที่ไม่ค่อยจะโอ ซึ่งน่าจะทำให้ปรินซ์จอร์จทรงครุ่นคิดพระทัยระทม

พสกนิกรแฟนคลับแห่งพระราชสำนักเคนซิงตัน ตลอดจนบรรดาผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ ต่างตระหนักดีว่า พระบิดาวิลเลียมและพระมารดาแคเธอรินอยู่ระหว่างการตัดสินพระทัยที่จะเลือกเส้นทางอนาคตให้แก่พระโอรสจอร์จ

โดยในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานออกมาจากหลายค่ายยักษ์สื่อมวลชน รวมถึงเว็บไซต์ข่าวมารี แคลร์ ที่นำเสนอว่า เจ้าชายจอร์จอาจเป็นว่าที่กษัตริย์พระองค์แรก ที่แหวกพระราชประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน อันได้แก่ การที่จะไม่เข้าศึกษาระดับมัธยมในโรงเรียนประจำ สถานที่แห่งประวัติศาสตร์กระซิบซึ่งมากมายด้วยเรื่องราวเล่าลือในทางร้ายกาจ

อาทิ เกร็ดประวัติที่ว่าสมเด็จพระอัยกาเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 ทรงถูกนักเรียนรุ่นพี่รุมรังแกไว้มากมาย ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนกอร์ดอนสตัน Gordonstoun School โรงเรียนประจำสำหรับบรรดาเจ้านายแห่งพระราชวงศ์ทั้งปวง รวมถึงการดอดเข้าไปชกต่อยพระองค์ขณะทรงบรรทมหลับ

สื่อมวลชนน้อยใหญ่มากมายนำเสนอรายงานว่าปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสเคท ยังทรงถกกันไม่แล้วเสร็จว่า จะส่งพระโอรสจอร์จเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาในโรงเรียนใด ระหว่างหลายๆ ตัวเลือกยอดเยี่ยม อาทิ

= อีตัน คอลเลจ สถานศึกษาเดิมของปรินซ์วิลเลียม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำใกล้พระราชฐานวินด์เซอร์

= มาร์ลโบโร คอลเลจ สถานศึกษาเดิมของปรินเซสเคท ซึ่งห่างจากพระราชฐานวินด์เซอร์ 1-2 ชั่วโมง แต่ก็เป็นโรงเรียนสหศึกษาที่เอื้อให้พระโอรสและพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ได้อยู่ในโรงเรียนเดียวกัน นอกจากนั้น แม้มาร์ลโบโร คอลเลจจะเป็นโรงเรียนประจำ แต่ก็รับนักเรียนไป-กลับให้เข้าศึกษาด้วย

= นอกจากนั้น ปรินเซสเคทยังทรงออกเยี่ยมชมหลายโรงเรียนมัธยมในกรุงลอนดอนด้วย มารี แคลร์ รายงานไว้ พร้อมชี้ว่าพระองค์น่าจะเก็บข้อมูลหลายๆ ทางเลือก เพื่อเปิดทางให้พระโอรสจอร์จได้ศึกษาในโรงเรียนใกล้บ้าน

หรือก็คือ เจ้าชายจอร์จจะสามารถใช้ชีวิตในพระตำหนักอยู่กับพระบิดาและพระมารดา ตลอดจนพระกนิษฐาและพระอนุชาได้อย่างอบอุ่น โดยที่พระครอบครัวเวลส์ก็จะย้ายกลับเข้าพำนักในพระราชวังเคนซิงตันดังที่เคยเป็นมาก่อนเดือนกันยายน 2023

ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้มีอยู่สูงทีเดียว เมื่อพิจารณาถึงพระไลฟ์สไตล๋ของปรินซ์จอร์จ ซึ่งทรงใกล้ชิดพระบิดาอย่างยิ่ง และในเวลาเดียวกัน ทรงให้ความร่วมมือแก่พระบิดาและพระมารดาเป็นอย่างดีเสมอ ในขณะที่ทั้งสองพระองค์ก็ทรงไม่รีบเร่งกับการฝึกฝนกล่อมเกลาปรินซ์จอร์จให้มีวิถีวิธีแบบกษัตริย์ อิงกริด สวอร์ด บรรณาธิการบริหารของนิตยสารแมเจสตี ฟันธงไว้อย่างนั้น

โดยเธอวิเคราะห์ไว้กับทีมข่าวฟีเมล FEMAIL ของเดลิเมลออนไลน์ว่า

“ปรินเซสและปรินซ์แห่งเวลส์จะทรงไม่ผลักดันพระโอรสจอร์จในระยะนี้ เพราะยังไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง ทั้งสองพระองค์มิใช่คุณพ่อคุณแม่เชิงรุกขนาดนั้น แต่จะคอยสนับสนุนเมื่อพระโอรสแสดงให้เห็นว่าทรงเริ่มสนใจ

“ปรินซ์จอร์จเริ่มฝึกฝนเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใหญ่ค่ะ ทรงเริ่มครุ่นคิดถึงตัวพระองค์เองกับวิถีใหม่ๆ ที่ต้องปรับตัว พระบิดากับพระมารดาจะพาพระองค์ไปสัมผัสกับงานพระราชกรณียกิจต่างๆ มากขึ้นเท่าที่จะทรงเห็นว่าเหมาะสม แนวทางอย่างนี้จะช่วยให้ปรินซ์จอร์จทยอยปรับพระองค์ให้ชินกับพระราชประเพณีและกฎมณเฑียรบาลต่างๆ ที่พระองค์ต้องเข้าไปสัมผัสในอนาคต”

ด้านกูรูริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ซึ่งมีความเห็นในทิศทางเดียวกัน มองเส้นทางอนาคตของปรินซ์จอร์จไว้ดีงามว่า พระองค์ทรงได้รับความสนับสนุนอย่างยิ่งจากพระบิดาและพระมารดา ซึ่งแน่นอนชัดเจนว่าจะเป็นแกนหลักในการช่วยตระเตรียมให้ปรินซ์ทรงพร้อมรับพระภารกิจ โดยใช้วิธีที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุดที่จะเป็นไปได้ และแน่นอนว่าพระอัยกาเจ้าก็จะทรงช่วยสนับสนุนด้วยเช่นกัน

นอกจากนั้น บรรณาธิการของนิตยสารแมเจสตี โจ ลิตเติล ชี้ไว้ตรงกับกูรูฟิตซ์วิลเลียมส์ว่า ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์จะบ่มเพาะเจ้าชายจอร์จให้พร้อมรับมือกับพระภารกิจแห่งพระมหากษัตริย์ก่อน จึงจะพาพระองค์ก้าวออกสู่เวทีสาธารณะมากขึ้นๆ

“เราอาจจะไม่ได้เห็นปรินซ์จอร์จ หรือกระทั่งปรินเซสชาร์ลอตต์และปรินซ์หลุยส์ในเร็ววันนี้ เพราะพระบิดาและพระมารดาจะทรงคัดเลือกพระอีเวนต์อันเหมาะสมสำหรับพระโอรสและพระธิดา”

ขณะที่บรรดากูรูพากันรอดูว่าพระครอบครัวเวลส์จะทรงไม่ปฏิบัติตามกฎเหล็กแห่งพระราชประเพณีทั้งสองประการ ดังที่เห็นสัญญาณชี้บ่งอยู่แว้บๆ นั้น เดลิเมลออนไลน์ไล่เรียงข้อกำหนดอื่นๆ ที่บังคับใช้กับพระโอรสและพระธิดาแห่งพระราชวงศ์สายเวลส์ ให้สาธารณชนได้ทราบอีกหลายเรื่อง ดังนี้

ในการเดินทางต่างประเทศ สมาชิกพระราชวงศ์จะต้องเตรียมฉลองพระองค์สีดำติดกระเป๋าไปด้วยเสมอ เผื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์สวรรคต สิ้นพระชนม์ หรือสิ้นชีพตักษัยของพระญาติอย่างปุบปับ

แนวปฏิบัตินี้กำหนดขึ้นหลังเหตุการณ์ที่สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ทรงสวรรคต ในห้วงที่เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธ องค์รัชทายาทลำดับที่ 1 กับเจ้าชายฟิลิปผู้เป็นพระสวามี อยู่ระหว่างการเสด็จประพาสประเทศเคนยาในปี 1952 และจึงเป็นกรณีตัวอย่างให้ตระหนักว่าในวันเวลาแห่งความโศกเศร้าเหล่านี้ เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธซึ่งทรงกลายเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยทันทีนั้น ทรงไม่มีฉลองพระองค์สีดำให้นำมาใช้ได้เลย

นอกจากนี้ ยังมีแนวปฏิบัติที่กำหนดลักษณะของฉลองพระองค์ของปรินซ์และปรินเซสผู้ทรงพระเยาว์ ว่าแบบใดที่ใช้ได้ แบบใดที่ไม่ให้ใช้ โดยปรินเซสน้อยจะต้องใช้กระโปรง ขณะที่ปรินซ์น้อยจะต้องใช้กางเกงขาสั้น

เหนือสิ่งอื่นใด ในขณะที่เสด็จต่างประเทศ สมาชิกพระราชวงศ์ต้องหลีกเลี่ยงอาหารทะเลเปลือกแข็ง ทั้งกุ้ง กั้ง หอย ปู เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอาหารเป็นพิษ

แม้พระบุคลิกใหม่เคร่งขรึมเหลือใจในปี 2025 จะทำให้พสกนิกรและสื่อมวลชนทั้งปวงชื่นชมปะปนกับเป็นห่วง ปรินซ์จอร์จ สุภาพบุรุษตัวน้อยผู้แสนจะซีเรียสเครียดบ่อยๆ ก็ทรงมีพระโมเมนต์สนุกสนานแบบเด็กชายวัย 11 ปีทั่วไป ทรงได้เชียร์ทีมฟุตบอลโปรดของพระองค์กับเสด็จพระบิดาวิลเลียม คือ ทีมแอสตัน วิลลา อีกทั้งยังมีการเล่นสนุกกับพระกนิษฐาและพระอนุชา ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและพระออร่าสุขสันต์แจ่มใส เดอะมิร์เรอร์รายงานอย่างนั้น

คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: ดิเอ็กซ์เพรส เดอะมิร์เรอร์ เดลิเมลออนไลน์ Palace Confidential นิตยสารแมเจสตี เดอะซัน)

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

OTOP แม่กลองบุกอยุธยา! ช้อปสินค้า 55 ร้านค้า 2-6 ส.ค. 68 ที่อยุธยาซิตี้พาร์ค

29 นาทีที่แล้ว

เมเจอร์ เปิด “โรงหนังคิดส์ ซีนีมา” ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เปิด 2 ส.ค.นี้

34 นาทีที่แล้ว

คณะ สว.สุรินทร์ลงพื้นที่ชายแดนด้าน“ปราสาทตาควาย” ผงะพบเขมรยิง BM-21ถล่มถนนพังหลายแห่ง รอEODเก็บกู้ทำลาย

43 นาทีที่แล้ว

เดอะมอลล์ - ยูเนี่ยนเพย์ จัด “ขบวนทรูปแห่งมิตรภาพ” ฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

44 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘ดร.ดนุวัศ’ ชี้!! ภาครัฐต้องบูรณาการ เครื่องมือดิจิทัล ลดภาระงานที่ทำซ้ำ เพิ่มความเร็ว เพื่อยกระดับ ประสิทธิภาพ เพิ่มความโปร่งใส เสริมสร้าง การมีส่วนร่วมของปชช.

THE STATES TIMES
วิดีโอ

ก๋วยเตี๋ยวชามโต 36 ปี จ.หนองบัวลำภู

Thai PBS

รู้จัก 'ซาโอริ อารากิ' จากไอดอลสู่สาวออฟฟิศ ผู้ทำหนุ่มทั่วโลกแห่หาวาร์ป

Khaosod
วิดีโอ

แปรรูปตะลิงปลิง ทำซอสผัดไทย จ.พังงา

Thai PBS

รฟท.ยันทวงคืนที่ดิน ‘เขากระโดง’ ตามกฎหมาย พร้อมเจรจาผู้ครอบครอง

ไทยโพสต์

สสส.และภาคีเครือข่ายมอบธงแดงข้ามทางม้าลายให้ผู้ว่าชัชชาติ ส่งต่อถึงโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและหน่วยงาน

Manager Online

“ชัชชาติ” ลั่น ดูแลผู้ชุมนุมเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกสี

The Better

พรรคประชาชนชี้ข่าวหัวหน้าพรรคประณามโรงพยาบาลฯปฏิเสธรักษาชาวกัมพูชาเป็นเฟกนิวส์ ย้ำจุดยืนยึดหลักกฎหมาย-มนุษยธรรม

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

เอาทุกทาง! กัมพูชายื่นฟ้อง OHCHR กล่าวหา 'กองทัพไทย' คุมตัวทหารเขมร 20 นายโดยมิชอบ

Manager Online

ยัวะจัด! 'ทรัมป์' ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้าประจำการใกล้ 'รัสเซีย' ตอบโต้คำขู่ 'เมดเวเดฟ'

Manager Online

เชลียร์ให้สุด!กัมพูชาเตรียมเสนอชื่อ'ทรัมป์' ชิงรางวัลโนเบลสันติภาพ

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...