เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา 3 ส.ค. 68 ก่อนประชุม GBC
รัฐบาลยืนยันชายแดนไม่มีเหตุปะทะ
วันนี้ 3 ส.ค.68 เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เผย สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของไทย ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเฝ้าระวังและป้องกันเหตุอย่างต่อเนื่องขอประชาชน ติดตามสถานการณ์ ผ่านช่องทางของหน่วยงานราชการ ไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวเท็จ บิดเบือน
ตรวจพบโดรนแม้มีกำหนดห้ามบินทั่วราชอาณาจักร
ขณะที่รายงานเมื่อวานนี้ 2 สิงหาคม 2568 ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรน” ปรากฏในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในห้วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กองทัพบกจึงยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามดังกล่าวอย่างเข้มงวด หลังพบความพยายามบินตรวจการณ์พื้นที่ตั้งทางทหาร โดยได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน พร้อมทั้งอ้างอิงประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ที่กำหนดห้ามบินโดรนทุกประเภท ทุกวัตถุประสงค์ และทั่วทุกพื้นที่ของราชอาณาจักร เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) และสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที หากตรวจพบการละเมิดข้อห้ามดังกล่าว
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติในพื้นที่ “ช่องอานม้า” ก่อนเกิดเหตุปะทะจนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 กำลังทหารของไทยไม่เคยเข้าไปยึดพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ “ตาอม” ได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาวางกำลังตรึงพื้นที่ไว้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้นำคณะทูตทหารจาก 13 ประเทศเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ โดยพบว่าพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ “ตาอม” ขณะนั้นมีกำลังทหารไทยควบคุมพื้นที่ทั้งหมดแล้ว โดยฝ่ายไทยได้ยึดแนวเส้นปฏิบัติการเป็นหลักได้เรียบร้อย ในพื้นที่ “ช่องอานม้า” เพื่อป้องกันเหตุปะทะและรักษาเสถียรภาพในพื้นที่อ่อนไหว ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันไว้ คือ การจัดให้มีจุดประสานงานร่วมบริเวณอนุสาวรีย์ “ตาอม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 ส.ค. 68 เมื่อเวลา 19.30 น. ชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรนกว่า 10 ลำ บนท้องฟ้าในหลายพื้นที่ หลายตำบลของ อ.ปราสาท, อ.ลำดวน, อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้ตรวจสอบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพื้นที่ตามที่ชาวบ้านแจ้ง แต่ก็ไม่พบ และชาวบ้านไม่ได้ถ่ายภาพไว้ ซึ่งในบริเวณหมู่บ้านหลักวอ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 21.30 น. ผู้สื่อข่าวเองได้พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน 2 ลำบินลอยอยู่บนฟ้า ได้เคลื่อนตัวบินวนรอบไปมา บินเกาะกลุ่มกันมา 2ลำ มุ่งหน้าไปยังศูนย์ราชการภายในตัวเมืองสุรินทร์ โดยผู้สื่อข่าวได้จับภาพไว้ได้พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุลอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย โพสต์เฟสบุ๊ก ระบุว่า โดรนบินเต็มเมืองมาหลายคืนแล้ว นะคะ จัดการอะไรสักทีเถอะ
เวลา 09.20 น. ผู้สื่อข่าวอาวุโส สายทหาร โพสต์ข้อความผ่านเซฟบุ๊ก อย่าตกใจ! 09.00 น.ที่ผ่านมา ทหารไทยได้ทำลายวัตถุระเบิด-กระสุนระเบิดด้านที่ยอดภูมะเขือ แจ้งเขมรแล้ว
เวลา 09.40 น. แม่ทัพภาคที่ 2 เผย เมื่อวานนี้ (2 สิงหาคม 68)ประชุม 20 ผู้ว่าฯอีสาน เข้มมาตรการกำจัดโดรน สั่งจับตา สถานที่สำคัญ ศาลาจังหวัด-คลังอาวุธ-สถานีขนส่ง บูรณาการตำรวจ จับผู้ก่อเหตุ ข้อหาหนัก ก่อการร้าย-ไส้ศึก
จับตาสถานการณ์ก่อนประชุมGBC
ในวันพรุ่งนี้(4 สิงหาคม 68) ไทยและกัมพูชา มีกำหนดการ ประชุมวิสามัญครั้งต่อไปของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีสหรัฐฯ และจีน เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฆษกกองทัพบก โต้ข่าวทหารไทยถูกสั่งถอยจากปราสาทตาควาย-เนิน 350 ไม่เป็นความจริง
ผู้ว่าฯศรีสะเกษ ขอประชาชนงดกลับภูมิลำเนาใกล้ชายแดน-สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา 3 ส.ค. 68 ก่อนประชุม GBC
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com