คาบเส้นตาย! "ทรัมป์" ขู่ภาษีเพิ่มชาติพ้อง BRICS ไทยเสี่ยงโดนหางเลข ขณะที่ "พิชัย" ยืนยันข้อเสนอทันเวลา ลุ้นจบดีลในไม่กี่วัน
คาบเส้นตาย! "ทรัมป์" ขู่ภาษีเพิ่มชาติพ้อง BRICS ไทยเสี่ยงโดนหางเลข ทั้งที่เจรจาภาษีสหรัฐฯ ยังไม่จบ ขณะที่ "พิชัย" ยืนยันข้อเสนอทันเส้นตาย ลุ้นจบดีลในไม่กี่วันท่ามกลางแรงกดดันระดับโลก
วันที่ 7 ก.ค. 2568 เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากเมื่อไทยส่งตัวแทนไปเจรจาเรื่อง 'ภาษี' กับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศผ่าน Truth Social เพิ่มเติมเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ว่า ประเทศใดก็ตามที่ยืนอยู่กับนโยบายต่อต้านอเมริกา ภายใต้กลุ่มความร่วมมือ BRICS จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% และจะไม่มีข้อยกเว้นจากนโยบายนี้
โดยกลุ่มความร่วมมือ BRICS ถูกมองว่าจัดตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับอิทธิพลของสหรัฐฯ มีสมาชิก ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน อินโดนีเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่ซาอุดีอาระเบียปรากฎชื่อเป็นสมาชิกของ BRICS และส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุม แต่ทางการซาอุดีอาระเบียดูเหมือนพยายามรักษาระยะห่างจากความร่วมมือนี้ ส่วนประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศหุ้นส่วนของ BRICS ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นมา ซึ่งในปีนี้ ไทยจะมีโอกาสเข้าร่วมการประชุมบางรายการในฐานะประเทศหุ้นส่วนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนความร่วมมือของกลุ่ม BRICS ด้วย
ด้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมทันเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค. หรือไม่ ว่า เสร็จไปตั้งแต่เมื่อคืน (6 ก.ค.) แล้ว และมีการยื่นไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการเปิดตลาดเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า จริงๆ แล้วอยู่บนหลักเกณฑ์เดิมที่เราเคยยื่น เพียงแต่ครั้งที่เราไป ไม่ถึงกับต้องแก้ไข เพียงแต่เราไปฟังความเห็นเขาว่ามีรายการอะไรหรือไม่ที่เขาสนใจเป็นพิเศษแล้วกลับมาดูอีกทีหนึ่ง เอามาปรับปรุงในสิ่งที่คิดว่าเราทำได้และส่งไปใหม่ ซึ่งมีการส่งไปแล้ว
เมื่อถามว่า เรื่องภาษีเรายังคงคาดหวังให้ต่ำกว่า 18% หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า คิดว่าประเทศที่เจรจาแล้วมีจำนวนน้อยเพราะฉะนั้น อีกจำนวนมากเขาก็คงจะยื่นอีกสักครั้ง ซึ่งยังไม่แน่ใจ เพราะบางคนบอกว่า วันที่ 1 ส.ค. จะกำหนดอีกครั้ง และเมื่อเจรจาแล้วจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังเป็นแค่การยื่นเกี่ยวกับภาษีและรายการสินค้า จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่เขากำลังนั่งดูอยู่ และเรากำลังเสนอซื้ออยู่ ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอัตราภาษี ไม่ว่าเขาจะประกาศออกมาอย่างไรแปลว่ายังไม่ได้จบ มันอาจจะสามารถปรับปรุงได้เรื่อยๆ
เมื่อถามว่า เราจะยอมเหมือนกับเวียดนามที่กำหนดอัตราภาษีนำเข้า 0% หรือไม่ นายพิชัย หัวเราะพร้อมกล่าวว่า หลักการของเราคือ เราจะใช้หลักเปิดใจคุยกันว่าเขามีอะไรที่เราอยากได้ และเราจะเอารายการที่เราเคยซื้อจากเขาทั้งหมดมาดู เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าเป็นอย่างไร ก็อย่างที่ตนบอก เมื่อทำแล้ว เราก็ต้องดูแลผู้ผลิตในเมืองไทยด้วย
เมื่อถามย้ำว่า ที่ยื่นไปแล้วนั้น หมายความว่าเขาต้องพิจารณาก่อนใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ดูก่อนเขาจะว่าอย่างไร เมื่อถามว่า คาดว่าจะจบเดือนไหน นายพิชัย กล่าวว่า คาดว่าจะจบภายในไม่กี่วัน
นอกจากนี้ฟลายฝ่ายมองว่าการที่ไทยเจรจาไม่ทันเวลาไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เพราะ "โดนแกล้ง" อย่างที่บางฝ่ายเข้าใจ หากแต่เป็น อาการเรื้อรังของการไร้ยุทธศาสตร์ด้านการทูตเศรษฐกิจ แม้ทีมเจรจาของไทยจะมีข้อเสนอที่ดูสมเหตุสมผล เช่น เพิ่มนำเข้าจากสหรัฐ (LNG, ข้าวโพด, กากถั่วเหลือง) ปราบปรามการสวมสิทธิ์สินค้า พร้อมเจรจา NTBs (Non-Tariff Barriers) แต่ข้อเท็จจริงคือ กระบวนการเจรจายังช้าและเปราะบาง เพราะไม่มีหน่วยงานถาวรรับผิดชอบด้าน “การทูตเศรษฐกิจ” แบบเต็มรูปแบบ ขณะที่ แรงเจรจาถูกผูกกับรัฐมนตรีเป็นหลัก แทนที่จะมีคณะทำงานมืออาชีพ ไม่มีความต่อเนื่องในเชิงข้อมูล ข้อเสนอ หรือท่าทีที่ใช้ต่อเนื่องระยะยาว เอกชนไทยมักรู้ข่าว “จากข่าว” ไม่ใช่จากวงเจรจา มีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูง จนทำให้น้ำหนักการเจรจาลดลง สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ คือ ไทยไม่สามารถวางตัวในเกมใหญ่ได้ ขาดทั้งแผน ขาดคน ขาดท่าที และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไทยล้มในโต๊ะเจรจา เราเคพยพลาด GSP จากสหรัฐฯ เมื่อปี 2019 และยังเจรจาไม่สำเร็จจนถึงวันนี้