ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร มีอะไรบ้าง แจกพิกัด 5 เครื่องมือช่วยทำงาน
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าใช้ AI เป็นตัวช่วยการทำงาน การวางแผนธุรกิจ สื่อและบันเทิง ดูแลสุขภาพ หรือแม้แต่การเงินในชีวิตประจำวัน บทความ ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปรู้จัก “ปัญญาประดิษฐ์” (AI) คืออะไร มีอะไรบ้าง พร้อมแนะนำ 5 ตัวช่วยในการทำงานยอดฮิต
รู้จัก “ปัญญาประดิษฐ์” คืออะไร
ปัญญาประดิษฐ์ (ภาษาอังกฤษ : Artificial Intelligence) หมายถึง โปรแกรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผล เรียนรู้ข้อมูลและนำวิเคราะห์ และนำมาแก้ปัญหา เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการทำงานของปัญญาประดิษฐ์มีอะไรบ้าง
หลักการทำงานของปัญญาประดิษฐ์จะเริ่มจากการรวบรวมข้อมูล จากแหล่งข้อมูลต่างๆ จากนั้นจะนำมาวิเคราะห์ และประมวลผลออกมา ทั้งนี้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์จะเรียนรู้การทำงาน เพื่อเก็บประสบการณ์ในการนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของตนเองให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีอะไรบ้าง
เนื่องจาก AI มีความสามารถในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก สามารถสรุปผลได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น AI จึงช่วยลดทรัพยากร และประหยัดเวลาในการทำงานได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความผิดพลาด และเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
ปัญญาประดิษฐ์ มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเข้าใจง่าย
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นตัวช่วยอัจฉริยะในชีวิตประจำวันมากขึ้น ยกตัวอย่างที่พบได้ง่ายๆ ใกล้ตัว เช่น
- Google Map ระบบช่วยนำทาง และแสดงผลการจราจรแบบเรียลไทม์
- AI Chatbot ตอบแชตตลอด 24 ชั่วโมง
- AI Image Generator ในการสร้างภาพเสมือนจริงจากคำสั่ง
- โปรแกรมแปลภาษา หรือตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา
- ผู้ช่วยเสมือนจริง สั่งการด้วยเสียง
- ระบบจดจำใบหน้า หรือระบบเตือนภัยอัจฉริยะ
- ตรวจสอบความถูกต้องทางการเงิน และป้องกันการธุรกิจ
- เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการชม หรือฟัง เพื่อนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอรายการ ซีรีส์ หรือลิสต์เพลงที่เหมาะสมกับเจ้าของบัญชี
5 เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) อัจฉริยะ ช่วยงานให้ง่ายขึ้น
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นตัวช่วยอัจฉริยะซึ่งสามารถนำมาช่วยงานได้หลายประเภท แนะนำ 5 เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่นิยมนำมาใช้ในการทำงาน ดังนี้
1. ChatGPT
ChatGPT คือ โมเดลภาษาที่พัฒนาโดย OpenAI ใช้งานในรูปแบบของแชตบอตอัจฉริยะ โดยจะจดจำข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นจะประมวลผลและวิเคราะห์มาตอบคำถาม ให้ข้อมูล สร้างคอนเทนต์ วางแผนเที่ยว คิดแคปชั่น เขียนบทความ และอื่นๆ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
2. DALL-E 3
DALL-E 3 ถูกพัฒนาโดย OpenAI เป็น AI ที่สร้างรูปภาพจากข้อความ หรือคำสั่ง โดยในเวอร์ชันนี้ได้มีการพัฒนาให้เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้งานสามารถออกแบบได้ทั้งงานศิลปะ ภาพประกอบ แคมเปญการตลาด ไอเดียงานกราฟิก และอื่นๆ
3. Perplexity AI
Perplexity AI พัฒนาโดย Perplexity นำเสนอเทคโนโลยี AI Search ค้นหาข้อมูลได้อย่างละเอียด และตอบคำถามที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถสรุปเอกสารจากไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์ PDF ได้อีกด้วย
4. GitHub Copilot
GitHub Copilot เป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยเขียนโค้ด ข้อดีของ GitHub Copilot คือ ลดระยะเวลาในการเขียนโค้ด รองรับได้หลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น JavaScript, Python หรือ Java สะดวกต่อผู้ใช้งาน
5. Murf
ปิดท้ายด้วย AI Voice Generator ที่สร้างเสียงพากย์คล้ายกับมนุษย์ เพียงป้อนข้อความที่ต้องการพากย์ลงไป โดยสามารถเปลี่ยนเป็นเสียงในภาษาอื่นๆ ได้มากถึง 20 ภาษา นอกจากนี้ยังสามารถปรับน้ำเสียงให้ตรงกับไฟล์ต้นฉบับได้อีกด้วย
แม้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์” (AI) เป็นตัวช่วยอัจฉริยะในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันให้ง่ายยิ่งขึ้น แต่จะต้องไม่ลืมติดตามข้อมูลเกี่ยวกับ AI และเรียนรู้วิธีใช้งานอย่างถูกต้องและเหมาะสมอยู่เสมอ รวมไปถึงใช้วิจารณญาณในการอ่าน รับชม หรือรับฟัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากข่าวปลอมที่สร้างขึ้นด้วย AI เช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร มีอะไรบ้าง แจกพิกัด 5 เครื่องมือช่วยทำงาน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร มีอะไรบ้าง แจกพิกัด 5 เครื่องมือช่วยทำงาน
- ผลสำรวจชี้องค์กรที่ใช้ AI อย่างเข้าใจ จะสร้างผลประกอบการดีกว่าคู่แข่งถึง 20%
- เด็กเกิดน้อย สูงวัยเพิ่ม แรงงานหดตัว คุณภาพประชากร คำตอบใหม่ของไทย
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath