เปิด 10 สินค้า ที่กัมพูชาส่งออก ของจำเป็นคนอเมริกันต้องใช้
สหรัฐฯ นำเข้าอะไรจาก กัมพูชา? เปิด 10 สินค้าส่งออกสำคัญ เห็นแล้วบอกเลยมีแต่ของจำเป็นทั้งนั้น
ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและกัมพูชา มีความสำคัญและเติบโตต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก Office of the United States Trade Representative (USTR) ระบุว่า ในปี 2567 การค้าและบริการระหว่างสหรัฐฯ กับกัมพูชามีมูลค่ารวมราว 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 9% จากปี 2566
มูลค่าการส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังกัมพูชา อยู่ที่ 319 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน
มูลค่าการนำเข้าของสหรัฐฯ จากกัมพูชา อยู่ที่ 12,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.1% จากปีก่อน
ส่งผลให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับกัมพูชาสูงถึง 12,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567
10 อันดับสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก The Observatory of Economic Complexity (OEC) เผยว่า กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม ได้แก่
1.เสื้อผ้าและสิ่งทอ (เสื้อผ้าสำเร็จรูป)
2.รองเท้า
3.สินค้าประเภทเครื่องหนังและเครื่องใช้สำหรับการเดินทาง (เช่น กระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าถือ)
4.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า
5.เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน (เฟอร์นิเจอร์ไม้)
6.ยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยาง
7.ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้
8.ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร (เช่น ข้าว, พริกไทย, ผลไม้บางชนิด)
9.ของเล่นและอุปกรณ์กีฬา
10.ผลิตภัณฑ์พลาสติก (บรรจุภัณฑ์, สินค้าพลาสติกอื่นๆ)
10 อันดับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มายังกัมพูชา
1.เศษเหลือจากอุตสาหกรรมอาหารและอาหารสัตว์ (มูลค่าสูงที่สุด)
2.ยานพาหนะ (ทั้งรถยนต์ใหม่และมือสอง)
3.เครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับ (ทำจากขนสัตว์และวัสดุเทียม)
4.พลาสติก (วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป)
5.อุปกรณ์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์
6.ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์
7.เครื่องจักรกลและอุปกรณ์อุตสาหกรรม
8.อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
9.แร่, ตะกรัน, และขี้เถ้า
10.ผลิตภัณฑ์จากกระดาษ (กระดาษแข็ง, กระดาษอุตสาหกรรม)
การค้าระหว่างสองประเทศยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อไป เนื่องจากกัมพูชาเป็นฐานการผลิตสินค้าแรงงานเข้มข้น เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องหนัง ขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งสินค้าวัตถุดิบ อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี ที่กัมพูชาจำเป็นต้องพึ่งพา
แหล่งที่มาอ้างอิง
1.Office of the United States Trade Representative (USTR)
2.The Observatory of Economic Complexity (OEC)