Lamborghini Fenomeno แรงสุด เครื่อง V12 ให้กำลัง 1,080 แรงม้า มีแค่ 29 คันในโลก
ลัมโบร์กินี ฉลอง 20 ปี “Fenomeno” ส่งรุ่นพิเศษ ผลิตแค่ 29 คันในโลก ชูจุดเด่นแรงสุด ด้วยไฮบริด V12 รีดกำลัง 1,080 แรงม้า
รายงานจาก ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ว่า บริษัทได้นำเสนอ “Fenomeno” สุดยอดรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 29 คัน เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญของรถรุ่นพิเศษของแบรนด์ 1,080 แรงม้า เป็นเอกลักษณ์ระดับไอคอนิกของลัมโบร์กินี เซ็นโทร สไตล์ (Lamborghini Centro Stile) ซึ่งเป็นผู้นำเสนอรถยนต์คันแรกที่ออกแบบโดยแผนกออกแบบของโรงงานซัง’อกาตา โบโลนเญส ในช่วงแรกของการก่อตั้งเมื่อกว่า 20 ปีก่อน
Fenomeno คือการตอกย้ำเจตนารมณ์แห่งงานดีไซน์ (Design Manifesto) ในแบบฉบับดั้งเดิมของลัมโบร์กินี ที่เอกลักษณ์และระบบอากาศพลศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ
Fenomeno ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริด V12 อัน ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังงรวมถึง 1,080 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ V12 แบบดูดอากาศเข้าตามธรรมชาติให้กำลังเครื่องสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 835 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวจะให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ทำให้ Fenomeno ผู้ขับขี่ยังจะได้สัมผัสกับโซลูชั่นทางเทคนิคขั้นสูงที่ติดตั้งมาในลัมโบร์กินีเป็นครั้งแรก อาทิ เซ็นเซอร์ 6D และระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus
ระบบส่งกำลังถูกติดตั้งภายในโครงสร้างตัวถังแบบ Monofuselage โครงแชสซีได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบอันล้ำสมัย ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด โครงสร้างด้านหน้าแบบ Forged Composite® ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เส้นสั้นชุบในเรซิน โดยลัมโบร์กินีได้ผลิตและใช้งานวัสดุชนิดนี้มาตั้งแต่การเปิดตัว Reventón ในปี 2007 ซึ่งเป็นต้นแบบของรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นและเป็นรถยนต์รุ่นบุกเบิกสายการผลิตนี้ ด้วยโครงตัวถังสุดล้ำที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด
ล้อแม็กฟอร์จแบบนอตเดี่ยว (ล้อหน้า 21 นิ้วและล้อหลัง 22 นิ้ว) ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยติดตั้งร่วมกับยางรุ่น Bridgestone Potenza Sport ขนาด 265/30 ZRF21 และ 355/25 ZRF22 ระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งในแนวสปอร์ต ทำให้ Fenomeno มอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่แม่นยำและเปี่ยมด้วยเสถียรภาพสูงสุดในขณะขับขี่แนวสปอร์ตอันเร้าใจ
Fenomeno เป็นรถยนต์ลัมโบร์กินีที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.4 วินาที และจาก 0-200 กม./ชม. เพียง 6.7 วินาทีเท่านั้น สามารถทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 350 กม./ชม. ทั้งยังมีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินีที่ 1.64 กก./แรงม้า
การออกแบบรถยนต์ Fenomeno ได้รับการออกแบบสง่างามอย่างเหนือระดับ ประณีต และเปี่ยมด้วยเสน่ห์ เปรียบเสมือนยานอวกาศซึ่งผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ด้านหน้าโดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปทรงที่เพรียวบางและกระชับเข้ากับพื้นผิวขนาดใหญ่แนวสปอร์ต ฝากระโปรงหน้ามีช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่สองช่อง
ไฟ DRL สไตล์ซิกเนเจอร์ดั้งเดิมก็สะท้อนถึงส่วนเขาของกระทิงในโลโก้ลัมโบร์กินี เสริมความโดดเด่นให้กับด้านหน้าของตัวรถที่ผสานองค์ประกอบต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีไว้ด้วยกัน เช่น รูปทรงตัว Y ที่ประกอบเข้ากับสปลิตเตอร์ด้านหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์อย่างลงตัว รวมถึงดีไซน์อันเฉียบคมของชุดไฟ
ด้านข้างสะท้อนภาพลักษณ์ของลัมโบร์กินีในแบบฉบับดั้งเดิม ผ่านเส้นสายเชิงเดี่ยวที่เน้นรูปทรงของตัวรถตั้งแต่ปลายฝากระโปรงหน้าจดส่วนท้าย การเลือกโทนสีของชุดตกแต่งเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของตัวรถส่วนบน ซึ่งตัดกันอย่างสง่างามกับเทคนิคการออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์อย่างมีสไตล์ในส่วนล่างของตัวรถ ซึ่งติดตั้งครีบคาร์บอนไฟเบอร์ของรุ่นรถแข่งเพื่อเสริมแรงด้านอากาศพลศาสตร์ เช่นเดียวกับการออกแบบซุ้มล้อ
Fenomeno โดดเด่นด้วยระบบอากาศพลศาสตร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถัน โดยชิ้นส่วนที่ประกอบเข้ากับสปลิตเตอร์หน้าช่วยสร้างม่านอากาศสองชุดที่ควบคุมทิศทางการไหลของอากาศให้ขนานไปกับล้อ ซึ่งช่วยลดแรงต้านอากาศพร้อมเพิ่มมวลอากาศให้ไหลไปยังหม้อน้ำในเวลาเดียวกัน
ระบบ S-Duct ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้ารถช่วยเพิ่มแรงกดตามหลักอากาศอากาศพลศาสตร์บริเวณด้านหน้า มั่นใจได้ถึงพลวัตของรถที่สมบูรณ์แบบในการขับขี่แนวสปอร์ต และยังช่วยนำอากาศไหลเข้าสู่กึ่งกลางหลังคาผ่านช่องบนฝากระโปรงหน้า ด้วยรูปทรงเว้าของหลังคาทำให้การไหลเวียนของอากาศมีความหนาแน่น ผ่านช่องดักอากาศบนฝากระโปรงเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนของชิ้นส่วน
และเมื่อผ่านปีกหลังแบบเคลื่อนไหวได้ซึ่งเป็นดีไซน์พิเศษแบบ “โอเมก้า” เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของรถให้สูงสุดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงดีไซน์ประตูแบบใหม่ ช่วยนำอากาศไหลเข้าสู่ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ด้านข้าง ทำให้มั่นใจได้ถึงการระบายความร้อนของชิ้นส่วนต่าง ๆ ในห้องเครื่องยนต์และการทำงานที่เหมาะสมของหม้อน้ำ
ส่วนท่อ NACA แบบช่วยประสิทธิภาพการระบายความร้อนด้านข้างที่ดีขึ้นกว่าเดิม 30%
ส่วนภายในห้องโดยสารสะท้อนถึงแนวคิดไฮเปอร์ดีไซน์ ตามปรัชญา “Feel like a pilot” ของลัมโบร์กินี เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับตัวรถอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การวางตำแหน่งผู้ขับและพวงมาลัยสไตล์รถแข่งจะมอบประสบการณ์การขับขี่สุดประทับใจ จอแสดงผลดิจิทัล 3 จอ ที่ตัดปุ่มควบคุมส่วนใหญ่ออกไป เพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับท้องถนนหรือสนามแข่งขันได้อย่างเต็มที่ เสมือนกำลังขับขี่รถแข่งของจริง
ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุหลักในห้องโดยสาร ตั้งแต่คอนโซลกลางที่ติดตั้งแผ่นรองแบบสปอร์ต ไปจนถึงแผงประตูและเบาะนั่งแบบสปอร์ตซึ่งได้รับการออกแบบมาเฉพาะรุ่น Fenomeno เท่านั้น ช่องระบายอากาศบนแผงหน้าปัดที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารช่วยเน้นรูปทรงที่เหมือนยานอวกาศ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่พิเศษยิ่งขึ้น
ลูกค้ายังสามารถเลือกการปรับแต่งที่เหนือระดับเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับ Fenomeno ของตนเอง ด้วยโปรแกรม Lamborghini Ad Personam โดยลูกค้าสามารถกำหนดทุกอย่างได้เอง พร้อมบริการระดับเอ็กซ์คลูซีฟแบบเป็นส่วนตัวที่สตูดิโอ Lamborghini Ad Personam ในซัง’อกาตา
“Fenomeno คือการนำเสนอซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่ไร้คู่แข่งอีกครั้งของลัมโบร์กินี”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Lamborghini Fenomeno แรงสุด เครื่อง V12 ให้กำลัง 1,080 แรงม้า มีแค่ 29 คันในโลก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net