โฆษกกองทัพบก ซัดกัมพูชาแถลงย้อนแย้งปมทุ่นระเบิด ย้ำชัดเป็นระเบิดใหม่
(18ส.ค.68) กรณี ดร. ลี ทูจ รัฐมนตรีอาวุโส และรองประธานคนแรกของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) และ นายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAC) จัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยกล่าวว่า
“กรณีที่ไทยระบุว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ และมีการกักตุนทุ่นระเบิดไว้ใช้ ซึ่งไม่มีมูลความจริง สำหรับพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเป็นเขตสนามรบเก่าในช่วงสงครามในอดีต และยังคงมีทุ่นระเบิดจำนวนมากตามแนวชายแดนกัมพูชา–ไทย ซึ่งยังไม่ได้รับการกวาดล้างอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะบริเวณแนวเขตแดน”
ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า ต่อกรณีคำชี้แจงดังกล่าว ทำให้ฝ่ายไทยรู้สึกถึงความสับสน ย้อนแย้งกับท่าทีที่ผ่านมาของฝ่ายกัมพูชามาโดยตลอด เพราะฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบรับข้อเสนอของไทยในการร่วมกันแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิดในการประชุม GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่กัมพูชาควรให้ความสำคัญในทันที ตามที่พยายามแสดงภาพลักษณ์ต่อสายตานานาชาติว่าเป็นประเทศต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิด
พลตรี วินธัย กล่าวต่อไปว่า อีกทั้งมีเพียงฝ่ายทหารไทยเท่านั้นที่เป็นผู้ประสบเหตุถูกทำร้ายด้วยทุ่นระเบิดอยู่ฝ่ายเดียวจำนวนหลายครั้ง และทุกครั้งที่เกิดเหตุก็เป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยใช้ลาดตระเวนอยู่เป็นประจำมาเป็นแรมปีจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นทุ่นระเบิดตกค้างจากสงครามในอดีตตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง
"ที่สำคัญที่สุด จากการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจากสงครามในอดีตโดย TMAC ประเทศไทยที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีการพบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 มาก่อน ซึ่งทุ่นระเบิดชนิดนี้ถือเป็นทุ่นระเบิดรุ่นใหม่ แตกต่างจากที่เคยพบในอดีตอย่างชัดเจน" พลตรี วินธัย ระบุ
พลตรี วินธัย ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ ลักษณะการวางทุ่นระเบิดสอดคล้องกับหลักทางยุทธวิธี โดยทุกเหตุการณ์จะอยู่บริเวณด้านหน้าของแนวการวางกำลังของฝ่ายกัมพูชา และมักพบว่ามีการนำกลุ่มทุ่นระเบิดมาวางติดตั้งใกล้ ๆ กันอย่างเป็นระบบ โดยมีลักษณะถูกฝังลงไปบนผิวดินเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่พบว่ามีวัชพืชขึ้นปกคลุม และเมื่อเก็บกู้ขึ้นมาแล้วก็สามารถเห็นได้ชัดว่ายังมีสภาพใหม่ ผิวด้านข้างมีตัวเลขและตัวอักษรกำกับอยู่ใภาพคมชัด อ่านได้ง่าย
"ดังนั้นจึงเป็นที่น่าเสียใจว่า หลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว กัมพูชายังใช้ทุ่นระเบิดเป็นอาวุธทำร้ายฝ่ายไทยอยู่ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนอธิปไตยของไทย และกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างน่าเสียดาย" พลตรี วินธัย กล่าว
ข่าวเวิร์คพอยท์23