โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

10 เทคโนโลยีที่ต้องจับตา พลิกโฉมธุรกิจในอนาคต!!

เดลินิวส์

อัพเดต 17 สิงหาคม 2568 เวลา 19.02 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ในงาน “Thailand Tech Show 2025” มหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดโดย สวทช. ได้มีการเปิดเผยถึง “10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง 2568”

ในงาน “Thailand Tech Show 2025 มหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดโดย สวทช. ได้มีการเปิดเผยถึง 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง 2568” (10Technologies to Watch 2025) ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เป็น “ดาวเด่น” พุ่งแรง ที่จะพลิกโฉมธุรกิจต่างๆได้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ เทคโนโลยีด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยีหุ่นยนต์, AI และการเข้ารหัส และสุดท้ายคือเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพและการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เริ่มกันที่เทคโนโลยีแรก

1. ไฮโดรเจนสีฟ้าเทอร์คอยส์ (Turquoise Hydrogen)

หนึ่งในกระบวนการผลิตไฮโดรเจนที่น่าจับตามองและเหมาะกับประเทศไทยซึ่งผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในสัดส่วนสูง เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซธรรมชาติผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมอย่างระบบท่อก๊าซได้ โดยนำก๊าซธรรมชาติมาผ่านการแยกสลายด้วยความร้อนเพื่อให้ได้ไฮโดรเจนโดยที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แถมยังให้ผลพลอยได้เป็นผงคาร์บอนที่นำไปใช้ต่อได้อีก ที่สำคัญยังใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว โดยเริ่มมีบริษัทผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว ลดก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง 99%

2. เหล็กกล้ารักษ์โลก (Green Steel)

อุตสาหกรรมเหล็กปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงทั่วโลกราว 7% ถือว่าสูงที่สุดในบรรดาอุตสาหกรรมหนักทั้งหมด จึงมีแนวคิดการผลิต “เหล็กกล้าสีเขียวหรือเหล็กกล้ารักษ์โลก (Green Steel)” คือ เหล็กที่ผลิตโดยใช้กระบวนการและเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เปลี่ยนการผลิตแบบดั้งเดิม คือ BF-BOF ที่ใช้เตาหลอมแบบ Blast Furnace (BF) และ Basic Oxygen Furnace (BOF) มาสู่กระบวนการแบบใหม่ คือ “DRI-EAF (Direct Reduce Iron–Electric Arc Furnace)” นำพลังงานไฮโดรเจนสีเขียวมาใช้ในการผลิตเหล็กพรุน ก่อนนำมาหลอมรวมกับเศษเหล็กในเตาหลอมไฟฟ้าระบบอาร์ก (Electric Arc Furnace: EAF) ที่ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิตจนได้เหล็กกล้าปลอดฟอสซิล ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อการผลิตเหล็ก 1 ตัน จาก 2,300 กิโลกรัม เหลือ 200-600 กิโลกรัม

3. เทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน (Low Fumarate, High Ethanol or LFHE Eco-friendly Rice)

“การปลูกข้าว” เป็นกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในภาคการเกษตร การพัฒนา “พันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน” จึงเป็นแนวทางที่มีศักยภาพสูง เพราะใช้ได้ทั้งนาน้ำฝนและนาชลประทาน พันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทนมีคุณสมบัติสำคัญคือ รากผลิตเอทานอลปริมาณมาก และผลิตฟูมาเรตน้อยลง โดยฟูมาเรตเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียที่สร้างมีเทน จึงทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ไม่ดี และปล่อยมีเทนน้อยกว่าข้าวปกติ ปัจจุบันประเทศจีนพัฒนาพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทนจากข้าวสายพันธุ์ “Heijing (เฮจิง)” สามารถลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้สูงถึง 70% และให้ผลผลิตสูงถึง 1.4 ตันต่อไร่

4. หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ (Humanoid Robot)

หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ หรือ หุ่นยนต์ที่ออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีล้ำสมัย เพราะมี “ความอเนกประสงค์” ไม่ว่าจะเดินสองขาเหมือนมนุษย์ หยิบจับสิ่งของแม่นยำ หรือแม้แต่เรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมจากการฝึกฝนในโลกเสมือน ที่สำคัญยังมีรูปลักษณ์ที่เป็นมิตร ปัจจุบันมีการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์เพื่อนำไปใช้ในงานด้านต่าง ๆ เช่น หุ่นยนต์ Optimus ของบริษัท Tesla ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต ฯลฯ

5. ปัญญาประดิษฐ์ที่รู้คิดและตัดสินใจได้เอง (Agentic AI)

Agentic AI คือ ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เรียนรู้และพัฒนาตนเองจนวางแผนดำเนินงาน และตัดสินใจเองได้ ทั้งยังเรียนรู้และปรับปรุงการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วย ปัจจุบัน Agentic AI มีทิศทางการพัฒนาไปสู่การสร้างระบบนิเวศของ AI ที่ซับซ้อนและทำงานร่วมกันได้มากขึ้น ผ่านระบบหลายตัวแทน หรือที่เรียกกันว่า AI Agent ซึ่งเริ่มนำไปประยุกต์ใช้ในแวดวงการเงินและการธนาคาร เช่น คัดกรองอีเมล ตรวจจับการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ ฯลฯ

6. การเข้ารหัสลับหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography: PQC)

คอมพิวเตอร์ควอนตัมไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์ที่เร็วขึ้น แต่เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนกฎของการคำนวณ ทำให้ถอดรหัสข้อมูลที่เคยปลอดภัยได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งภัยคุกคามที่น่ากังวลที่สุดคือผู้ไม่หวังดีอาจดักเก็บข้อมูลที่เข้ารหัส แล้วรอถอดรหัสในวันที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมพร้อมใช้งาน เทคโนโลยี "การเข้ารหัสลับหลังยุคควอนตัม" จึงเป็นเทคโนโลยีที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ เป็นการสร้างกุญแจที่ถอดรหัสยากขึ้นกว่าเดิม โดยอัลกอริทึมเหล่านี้มักใช้ขนาดกุญแจหรือลายเซ็นที่ใหญ่ขึ้น

7. อุปกรณ์อัจฉริยะฝังในร่างกาย (Smart Implants)

Smart Implants คือ อุปกรณ์ฝังในร่างกาย ที่ทดแทนอวัยวะหรือช่วยการทำงานของอวัยวะบางส่วนแล้ว ยังตรวจวัดสัญญาณชีพ ประมวลผล และส่งข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ อุปกรณ์ประเภทนี้มักประกอบด้วยเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ระบบสื่อสารไร้สาย และอัลกอริทึม AI เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ปัจจุบันมีการใช้งาน Smart Implants ในหลายรูปแบบ เช่น อุปกรณ์กระตุ้นสมองส่วนลึก สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสันที่ควบคุมอาการสั่นได้ และบางรุ่นสามารถตรวจจับคลื่นสมองเพื่อปรับแรงกระตุ้นได้อัตโนมัติ

8. เทคโนโลยีเอพิเจเนติกเพื่อการตรวจประเมินสุขภาพระดับเซลล์ (Epigenetic Technology for Cellular Health Assessment)

เทคโนโลยีด้านการแพทย์ ที่เกี่ยวกับพันธุกรรมมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากจนล่วงรู้ถึงปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของยีน ช่วยเปิดเผยความเสื่อมของร่างกายและทำนายโรคได้แม่นยำขึ้น เช่น เทคโนโลยีเอพิเจเนติกที่ศึกษาการควบคุมการทำงานของยีนในร่างกาย โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงลำดับดีเอ็นเอ ผ่านวิธีที่เรียกว่า นาฬิกาทางชีวภาพ วิธีที่นิยมคือการวิเคราะห์รูปแบบการเติมหมู่เมทิล (Methyl Group) บนตำแหน่งจำเพาะของ DNA เพื่อดูว่ายีนนั้นมีการแสดงออกหรือไม่ ทำให้รู้อายุขัยที่ "ตรงตามความเป็นจริง" นับเป็นข้อมูลที่ช่วยให้วางแผนปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล

9. เวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย (Longevity Cosmeceuticals)

เวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัยเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เพียงเน้นการดูแลสุขภาพผิวภายนอก เช่น การลดริ้วรอย หรือเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวเท่านั้น แต่มีจุดเด่นคือการค้นหาสารออกฤทธิ์ที่แก้ปัญหากับกลไกหลักของความชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชราของผิว เช่น การลดจำนวนเซลล์ชรา หรือกระตุ้นการทำงานของยีนซ่อมแซมผิว และยืดอายุผิวออกไปได้อย่างมีนัยสำคัญ เรียกได้ว่าเป็นการแก้ไขความชราในระดับเซลล์

10. แอนติบอดีจำเพาะแบบคู่ (Bispecific Antibody)

โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรโลก ซึ่งยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผลดีและหายขาด แต่ขณะนี้เทคโนโลยีแอนติบอดีจำเพาะแบบคู่กำลังได้รับการจับตาในฐานะเทคโนโลยีแห่งความหวังที่จะเข้ามาปฏิวัติการรักษามะเร็งแบบให้ผลแม่นยำและอาจส่งผลให้การติดเชื้อไวรัสอย่าง HIV หายขาดได้ด้วย

ทั้งหมดถือเป็นเทคโนโลยีที่ สวทช. คัดเลือกมาเพื่อเป็นข้อมูลให้นักธุรกิจเลือกลงทุนใน “เทคโนโลยีดาวรุ่ง” ได้อย่างถูกต้อง

จิราวัฒน์ จารุพันธ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

จับหนุ่มพนักงานสายการบินดังติดพนันบอล ปีนบ้านหรูขโมย ‘โรเล็กซ์’ มูลค่าเกือบล้าน

26 นาทีที่แล้ว

“ป๋อ ณัฐวุฒิ” เผยแผลเขียวช้ำจนดำหลังเจอม้ากัด ชาวเน็ตแห่ตกใจพร้อมแซวเท่อยู่นะว่าไม่ได้โดนสัตว์ใหญ่กัด!

31 นาทีที่แล้ว

โพลนักธุรกิจชี้พรรคใหญ่มุ้งเยอะขัดแย้งสูง จับตา “พรรคใหม่-พรรคเล็ก” ทางเลือกใหม่

38 นาทีที่แล้ว

สตาร์ทอัพ เกาหลีใต้ ผนึก ททท.ยกระดับท่องเที่ยว

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

จีน สเปน อิตาลี รีไซเคิล “ก้นบุหรี่ไฟฟ้า” เสริมแกร่งให้ “ถนน” ยางมะตอย

TNN ช่อง16

“หุ่นยนต์นักเคมี” ช่วยนักวิจัยทดลองในห้องปฏิบัติการ รันงานแบบอัจฉริยะ

TNN ช่อง16

“ปณท” ปลื้มครึ่งปีแรกส่ง EMS โต 10% ชูบริการครอบคลุมทุกพื้นที่

เดลินิวส์

นักบินชาวสวิสทดสอบ “เครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์” บินสูงที่สุดทำลายสถิติโลก

TNN ช่อง16

Microsoft งัดไม้เด็ดใหม่! ขึ้นป๊อปอัปเตือน "Edge ปลอดภัยกว่า" ขณะผู้ใช้พยายามติดตั้ง Google Chrome

sanook.com

มัลแวร์ขโมยเงินตัวใหม่ DoubleTrouble แพร่กระจายผ่านเว็บธนาคารปลอมร

Thaiware

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...