‘มาริษ’เตรียมบินเจนีวาหารือคณะกรรมการ'อนุสัญญาออตตาวา’
กระทรวงการต่างประเทศ แถลง ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยและการตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของไทยโดยทหารกัมพูชาล่าสุด นั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ขอชี้แจง ดังนี้
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 หน่วยทหารไทยตรวจพบการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชาบริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งรุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย จึงได้ขับไล่ทหารกัมพูชาออกไป
หลังจากนั้น ได้มีการเข้าตรวจสอบพื้นที่ และพบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ณ จุดที่พบทหารกัมพูชาและบริเวณโดยรอบ จำนวน 3 ทุ่น พร้อมอาวุธอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง
เหตุการณ์นี้บ่งชี้อย่างชัดเจนอีกครั้งว่า ฝ่ายกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทย พันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา และเงื่อนไขหลายข้อของข้อตกลงหยุดยิงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยจะได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) ทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางเยือนนครเจนีวาในช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อพบหารือกับประเทศที่มีบทบาทสำคัญในประเด็นทุ่นระเบิด รวมถึงคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา (Committee on Cooperative Compliance) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงการละเมิดอนุสัญญาฯ ของกัมพูชาหลายครั้งที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด และใช้โอกาสนี้ ขอให้ประเทศต่าง ๆ เรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ระเบิดบริเวณชายแดน และในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ ปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ อย่างรับผิดชอบ
รมต.ไทยเยือนสวีเดนครั้งแรกรอบ 7 ปี
ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ส.ค. นายมาริษ เดินทางถึงกรุงสตอกโฮล์ม เพื่อเริ่มการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการซึ่งถือเป็นการเยือนระดับรัฐมนตรีครั้งแรกจากไทยไปสวีเดนในรอบ 7 ปี
รัฐมนตรีฯ จะเข้าพบหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมลงนามในเอกสารความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สวีเดน (Thailand-Sweden Strategic Partnership) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นทางการเมืองร่วมกันในการส่งเสริมและยกระดับความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ ทั้งนี้ สวีเดนจะเป็นประเทศที่สองในยุโรปที่มีความสัมพันธ์ระดับ Strategic Partnership ต่อจากสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ นายมาริษยังมีกำหนดพบหารือกับภาคเอกชนชั้นนำและภาควิชาการของสวีเดน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย และผลักดันความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวด้วย