"พระลูกวัด" แจงปมคนเรียก "หลวงพ่ออลงกต" ป๊ะป๋า เผย 2,000 ไร่ เป็นเพียงชื่อเรียกติดปาก
"พระลูกวัด" ชี้แจงปมคนเรียก "หลวงพ่ออลงกต" ว่า "ป๊ะป๋า" พร้อมเผยที่ดิน 2,000 ไร่ เป็นเพียงชื่อเรียกติดปากเท่านั้น
วันที่ 12 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ มีเนื้อที่ประมาณ 800 ไร่ ตั้งอยู่ในตำบลดงดินแดง อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี เป็นสถานที่ที่มีการใช้ชื่อ นายธนชัย อดีตไวยาวัจกร ผู้เสียชีวิตเป็นชื่อผู้ถือครองแทนวัด และอยู่ในระหว่างการดำเนินการเรียกกลับคืนจากทายาทของนายธนชัย
ทั้งนี้ บรรยากาศด้านในเงียบเหงา โดยมีการแบ่งพื้นที่เป็นอาคารสำนักงานและบ้านพักของผู้ติดเชื้อ HIV ที่แข็งแรงได้ / มีการเลี้ยงสุนัข-แมวจรจัดแบบปิดในพื้นที่ รวมถึงโครงการธรรมรักษ์นิเวศ 2 ซึ่งมีบ้านพักเด็กธรรมรักษ์ ที่ดูแลเด็กและเยาวชนที่ป่วย HIV และบ้านเด็กแกลด้า ช่วยเหลือให้ที่พักเด็กกำพร้า
อีกทั้งยังมีส่วนที่เป็นโรงเรียนประชานุเคราะห์ 33 จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของราชพัสดุ เมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีอาคารที่เตรียมสร้างโรงพยาบาลธรรมรักษ์, พื้นที่เกษตรและเลี้ยงสัตว์, โรงงานแปรรูป, และพบว่ามีโรงงานของโครงการซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้า ปัจจุบันดูรกร้างและไม่มีการดำเนินการ
ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่า บ้านพักของผู้ป่วยถูกปล่อยทิ้งร้างจำนวนมาก แต่บางส่วนก็มีการอยู่อาศัย ซึ่งผู้ป่วยที่อยู่อาศัยมีการแบ่งหน้าที่ตัดหญ้าและทำเกษตรเชิงซ้อน เพื่อหารายได้จากการทำการเกษตรเลี้ยงชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อ HIV ที่ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว ก่อนส่งตัวมาจากวัดพระบาทน้ำพุ เพื่ออยู่อาศัยในสถานที่แห่งนี้
ทางด้าน พระเจษฎา จิรัฏฐิโก พระลูกวัดธรรมรักษ์นิเวศ เผยว่า โครงการนี้เป็นดำริของหลวงพ่ออลงกต จัดทำมา 20 กว่าปีแล้ว เนื่องจากช่วงที่ก่อตั้งมีผู้ป่วยอยู่เยอะ ล้นธรรมรักษ์นิเวศน์ 1 (วัดพระบาทน้ำพุ) จึงต้องขยายมาโครงการนี้ ซึ่งภายในโครงการก็จะมีบ้านพักผู้ป่วย บ้านเด็กธรรมรักษ์ โรงเรียน มูลนิธิสิทธิเด็ก และโรงพยาบาล โดยโครงการนี้จะให้ผู้ที่ป่วยติดเชื้อ HIV ที่เป็นผู้ใหญ่แข็งแรงมาอาศัยอยู่และมีอาชีพทำกิน โดยมีทั้งงานทำความสะอาดภายในพื้น ทำสวน เกษตรอินทรีย์ ก็จะได้เงินเดือนจากมูลนิธิ ส่วนงานการเกษตร ก็นำไปขายให้โครงการ ลักษณะเป็นวิสาหกิจชุมชน ยืนยันว่ามีรายได้ นอกจากนี้โครงการก็ยังรับเด็กที่มีเชื้อรวมถึงเด็กที่ได้รับผลกระทบจากผู้ติดเชื้อมาดูแลด้วยเช่นกัน
สำหรับโครงการนี้ เดิมทีตอนที่เปิดทำการอย่างเต็มรูปแบบได้ประมาณเกือบถึง 20 ปีที่แล้ว พึ่งมารกร้างช่วง 5-6 ปี เนื่องจากตัวยาพัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยน้อยลง สถานที่ตรงนี้จึงรกร้าง อีกทั้งการหาอาสามาสมัครก็เป็นเรื่องยาก เนื่องจากพื้นที่ห่างไกลและเงินเดือนของมูลนิธิน้อย
ส่วนพื้นที่โครงการนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 800-900 ไร่ ส่วนที่เรียกกันว่า 2,000 ไร่นั้น เป็นเพียงชื่อเรียกที่คนที่ทำงานให้หลวงพ่ออลงกต ใช้เรียกเป็นเพียงคำพูดติดปากเท่านั้น ส่วนจำนวนผู้ป่วยปัจจุบันที่นี่ประมาณหลักร้อย เฉพาะคนที่อาศัยอยู่เป็นบ้าน แต่ในโรงเรียนมีปีละประมาณ 800 คน ซึ่งโรงเรียนเป็นลักษณะโรงเรียนประจำ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนที่มีการติดเชื้อ HIV ด้วย
สำหรับประเด็นที่ต้องมีการขยายพื้นที่ ส่วนตัวอาตมาคิดว่า อาจจะเป็นเพราะมีผู้ป่วยบางส่วนที่มารักษาตัวที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ถ้าจะออกไปเรียนข้างนอก หรือไปใช้ชีวิตข้างนอก ก็มักจะถูกรังเกียจ สุดท้ายก็จะหวนกลับมาอยู่ที่นี้เพราะไม่มีที่ไป หลายคนญาติก็ไม่สนใจรับไปเลี้ยง
ขณะที่โรงงานด้านหน้าทางเข้าของโครงการ เป็นโรงงานไฟฟ้า คาดว่าความคิดตอนนั้นของหลวงพ่ออลงกตอยากให้ชาวบ้านเอาไม้มาเผาผลิตไฟฟ้าใช้เอง แต่เคยลองผลิตแล้ว พบว่าเครื่องไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องปิดตัวลง
ส่วนสาเหตุที่โรงพยาบาลนี้ยังสร้างไม่เสร็จนั้น ก็ไม่ทราบเรื่องรายละเอียด แต่เมื่อก่อนเคยมีสถานีอนามัยภายใน มีพยาบาลอยู่ประจำประมาณ 15-16 ปี ก่อนที่จะมาสร้างเป็นโรงพยาบาล อีกทั้งยังมีในเรื่องของวิวัฒนาการทางการแพทย์ ที่มียาต้านเอดส์ ทำให้ผู้ป่วยหลายคนเลือกวิธีการรักษาด้วยการทานยาเอง แล้วออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอก ปัจจุบันที่นี้จะกลายเป็นที่สวดมนต์ทำวัตรของพระ และผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่
นอกจากนี้ พระเจษฎา ขอชี้แจงประเด็นที่มีผู้เรียกหลวงพ่ออลงกตว่า “ป๊ะป๋า” ว่า เด็กๆ ทุกคนที่นี่เรียกหลวงพ่ออลงกตว่าป๊ะป๋าหมด พอเด็กเรียก ผู้ใหญ่บางคนที่สนิทกับหลวงพ่อก็เรียกตาม
ส่วนกรณีพื้นที่ตรงนี้เป็นชื่อของมูลนิธิหรือชื่อของนายธนชัย อดีตไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุนั้น ทุกคนเข้าใจว่าที่นี่เป็นของมูลนิธิที่ให้ผู้ป่วยอยู่ ไม่ได้มีใครไปสืบค้นว่าเป็นของใคร ส่วนตัวก็ทราบว่าเป็นชื่อของนายธนชัย อยู่ในพื้นที่บ้างตั้งแต่ตอนซื้อ แต่อาตมาไม่ได้แม่นข้อกฎหมาย และไม่ได้คิดอะไร เพราะนายธนชัยก็เป็นคนดี เป็นผู้จัดการดูแลที่แห่งนี้ และหลวงพ่ออลงกตน่าจะเลือกคนที่ไว้ใจด้วย วนญาติของนายธนชัยไม่เคยมาที่นี่ และนายธนชัยไม่เคยมีญาติมาข้องเกี่ยว ที่เห็นก็มีทำงานอย่างเดียว
สำหรับนายธนชัย อดีตไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ เคยเป็นผู้จัดการโครงการ และถือเป็นปูชนียบุคคล คิดดูแล้วกันว่าคนเราตายแล้วมีคนทำรูปปั้นให้ ต้องเป็นคนดีแค่ไหน ตอนที่นายธนชัยยังมีชีวิตอยู่ ก็มาทำงานแบบไม่เอาเงินแม้แต่บาดเดียว กินข้าวที่โรงครัวกับผู้ป่วย ทำแต่งาน ดูแลทั้งคนป่วย และสถานที่
ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนลองคิดถึงหลวงพ่ออลงกต ว่าคนหนึ่งคนกลับมานอนวัดเที่ยงคืน แล้วตื่นตีสามออกไปบิณฑบาตรทุกวัน 30 ปี คิดว่าคนคนนั้นจะโกงเงินหรือยักยอกเงินไปทำอะไร เอาแบบวิญญูชนคิด คิดว่ามนุษย์คนนั้นเป็นแบบไหน.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "พระลูกวัด" แจงปมคนเรียก "หลวงพ่ออลงกต" ป๊ะป๋า เผย 2,000 ไร่ เป็นเพียงชื่อเรียกติดปาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ เผย "หลวงพ่ออลงกต" ไม่กังวลเพราะทำงาน 365 วันอยู่แล้ว
- "หมอบี" ยันมอบเงินบริจาคให้หลวงพ่อครบ ขอโทษ "อ.ตฤณห์" หากเคยพูดจาไม่ดีใส่
- “สุชาติ” จี้ พศ.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ปัญหาวัดพระบาทน้ำพุ ลั่น หากผิดจริงดำเนินการตามระเบียบ
- คดี "หมอบี" พบหลักฐานเข้าข่ายฉ้อโกง ส่วน "รถหรู" เจ้าตัวยอมรับ เป็นทรัพย์สินวัด
- "เลขาปู" โยนวัดตอบปมชื่อเจ้าของที่ดิน "วัดพระบาทน้ำพุ" คาดแถลงสัปดาห์นี้
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath