ร้าน Kwong Kee Roast หมูแดงฮ่องกงของ ‘หลิงหลิง คอง’ รสชาติความฝันที่ไม่ยอมแพ้
ในธุรกิจอาหาร ไม่ใช่แค่รสชาติอร่อยหรือการตกแต่งร้านสวยงาม แต่ยังมีองค์ประกอบอีกมากมายที่ต้องใส่ใจ ตั้งแต่คุณภาพ วัตถุดิบ การบริหารทีมงาน ไปจนถึงการรับมือกับเสียงวิจารณ์ เรียกได้ว่าใครที่อยู่ในธุรกิจนี้ ก็เหมือนกำลังยืนอยู่ในสนามที่ต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจอย่างมหาศาล
หลังจากลองเริ่มทำธุรกิจทั้งเสื้อผ้า ของกินอย่างขนม และล่าสุด ‘หลิงหลิง’ ศิริลักษณ์ คอง นักแสดงที่กำลังโด่งดังเป็นเจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์ทั่วเมืองในเวลานี้ ประเดิมเปิดร้านอาหาร ในชื่อ “Kwong Kee Roast” ร้านหมูแดงสูตรฮ่องกงแท้ที่เธอทำร่วมกับน้องชาย
แม้หลิงหลิงจะเป็นนักแสดงที่หลายคนคุ้นหน้า แต่ในโลกของธุรกิจอาหาร เธอต้องเผชิญความท้าทายไม่น้อย ก่อนจะฝ่าฟันมาสร้างร้านขึ้นใหม่อีกครั้ง เพราะเธอเคยลองทำธุรกิจร้านอาหารเล็กๆ มาแล้วเมื่อหลายปีก่อนจะปิดตัวลง
ตอนนี้ Kwong Kee Roast กลับมาเปิดอีกครั้ง โดยมีหน้าร้านใหม่แถวสามย่าน-จุฬา ในโลกโซเชียลฯ เราได้เห็นว่าวันแรกของการเปิดออเดอร์ใน Food delivery ลูกค้าต้องแย่งกันกดเพื่อที่จะซื้อได้ทัน ส่วนหน้าร้าน ภาพที่ปรากฎคือ บรรดาไรเดอร์จอดรถเรียงรายรอรับอาหารจนล้น
เรื่องราวของ Kwong Kee Roast เป็นอย่างไร? แล้วทำไมในวันนี้ถึงกลายเป็นร้านที่ไรเดอร์ทะลักกันเต็มร้าน และรอคอยกดสั่งอาหารให้ทันก่อน Sold out ในแต่ละวัน TODAY Bizview จะมาสรุปให้ครบจบในบทความนี้
ย้อนไปในปี 2020 หลิงหลิง คอง และน้องชาย เคยเปิดร้านข้าวหมูแดงสูตรฮ่องกงในชื่อ KWONG CHA SIU ร้านได้ทดลองตลาดผ่านการเปิดพรีออเดอร์อาหาร กระทั่งมีหน้าร้านใจกลางตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 3
คอนเซปต์ร้านตอนนั้นคือ “คิดถึงอาหารฮ่องกง ไม่ต้องรอไปกินหลังโควิดแล้ว เพราะควองชาซิวยกสตรีทฟู้ดฮ่องกงมาให้คุณแล้วที่นี่” พร้อมทั้งเราจะเห็นหลิงหลิง คอง เข้าไปที่ร้านบ่อยๆ ไปช่วยโปรโมท
หลังจากนั้นธุรกิจก็เงียบไป…
[ ซุ่มสร้างหน้าร้านเงียบๆ จนแฟนคลับไปเจอ ]
มาสู่ปัจจุบันที่ ‘หลิงหลิง คอง’ มีความพร้อมมากพอในการปั้นแบรนด์ รอบนี้เธอลุยทำธุรกิจเต็มที่ ก่อนหน้ามีทั้งการเปิดแบรนด์เสื้อผ้า Alwayswonder ที่เปิดเป็นร้านออนไลน์ขายทีไรสินค้าหมด หรือจัด Flagship Store ไม่กี่วันที่พารากอน ก็กระแสตอบรับดี
สำคัญคือธุรกิจอาหารก็ยังเป็นสิ่งที่เธออยากทำ กลายเป็นว่า KWONG CHA SIU รีแบรนด์ใหม่เป็น ‘Kwong Kee Roast’ กลับมาทดลองตลาดในรูปแบบพรีออเดอร์อีกครั้ง และเธอกับน้องชายได้จดทะเบียนบริษัทในชื่อ บริษัท ควอง กี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท
มูฟเมนต์ของร้านก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ ผ่านการพรีออเดอร์หมูแดง หรือการออกขนม Egg Rolls ที่เป็นสูตรฮ่องกง
จนกระทั่งต้นสิงหาคมที่ผ่านมามีแฟนคลับของเธอไปเจอร้าน ‘Kwong Kee Roast’ ที่มีหน้าร้านตั้งอยู่แถวสามย่าน-จุฬา ซึ่งเป็นการซุ่มทำร้านเงียบๆ เมื่อภาพร้านที่กำลังตกแต่งยังไม่เสร็จ ถูกถ่ายโพสต์ลงบนโซเชียล ทำให้ร้านมีชื่อเสียงในหมู่แฟนๆ ก่อนที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา แน่นอนว่ารอบนี้กระแสตอบรับดีทั้งหน้าร้านและใน Food delivery ก็ต้องแย่งกันกด ไรเดอร์เต็มหน้าร้าน
หลิงหลิง คอง เองก็ได้ออกมาโปรโมทร้านผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมด้วยแคปชัน “มีร้านเป็นของตัวเองแล้วนะ”
[ อย่ากลัวความผิดพลาด เดินหน้าลงมือทำต่อไปในสิ่งที่รัก ]
‘หลิงหลิง’ มีความสนใจเรื่องธุรกิจเป็นทุนเดิม แม้ก่อนหน้าเธอต้องเผชิญแรงกดดันจากเรื่องขนม Egg Rolls ในเรื่องบรรจุภัณฑ์ และได้ออกมาขอโทษ พร้อมบอกว่าได้นำความผิดพลาดไปแก้ไขปรับปรุง หลายคนอาจมองว่าเธอน่าจะเข็ด หรือไม่อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับของกิน
แต่หลิงหลิงดูเหมือนยังคงเดินหน้าทำสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป
จะอาศัยเพียงชื่อเสียงจากวงการบันเทิงคงไม่พอสำหรับธุรกิจ แต่หลิงหลิง ปรับวิธีคิดและวิธีทำงานหลังผ่านประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลานในธุรกิจร้านอาหารมาก่อนหน้า รวมถึงกรณีล่าสุดที่เพิ่งเกิด
เธอเข้าใจว่าการทำร้านอาหารต้องอาศัยทั้งความอดทน ความใส่ใจในรายละเอียด และที่สำคัญคือแรงใจที่จะเดินต่อแม้เส้นทางจะไม่ง่าย
หลิงหลิง พูดไว้ในงาน THE MALL LIFESTORE WOMEN INSPIRED ก่อนร้านอาหารเปิดเพียง 1 วัน ไว้ว่า
“จริงๆ ต้องบอกว่า เวลาเรากลัวอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่ได้ลงมือทำมันก็ได้ ถ้าลงมือทำมัน ความกลัวมันจะหายไป และทุกอย่างมันจะไปตามทิศทางของมัน”
“หลิงอยากให้ทุกคน ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และมุ่งมั่นกับสิ่งที่คิดว่า นี่แหละคือความฝัน นี่คือสิ่งที่เราอยากทำ แล้วสักวันมันจะสำเร็จ แต่ว่าระหว่างทางแค่ต้องอดทนค่ะ”
“หลิงเชื่อว่าทุกคนมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง มีสิ่งที่ตัวเองถนัด ไม่มีใครเหมือนใคร ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ ผิดพลาดไม่เป็นไรค่ะ แค่ทำ ถ้าใครที่ยังไม่มั่นใจ และใครที่ยังไม่มีกำลังใจ หลิงจะเป็นคนแรกที่เป็นกำลังใจให้และยืนยันว่าสิ่งที่คุณทำถูกต้อง ทำต่อไป และอดทนต่อไปนะคะ”
ด้วยมายด์เซ็ตแบบนี้ นี่อาจเป็นความสำเร็จของเธอก็ย่อมได้ ต้องดูกันต่อไปในอนาคต… เพราะบางครั้งความสำเร็จไม่ได้วัดเพียงยอดขาย หรือจำนวนลูกค้าที่ต่อคิวหน้าร้าน แต่เป็นความสำเร็จในแง่การชนะใจตัวเอง กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำใหม่แม้เคยล้ม
กล้าที่จะเผชิญกับความกลัวที่อาจกลับมาได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งหมดอย่างที่หลิงหลิงบอกไว้ว่า “ต้องลงมือทำและอดทนเท่านั้น”