“ณัฐพล” นำฝ่ายไทยร่วมประชุม GBC กับกัมพูชา ย้ำยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี-ปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม
“ณัฐพล” นำคณะฝ่ายไทยเข้าร่วมประชุม GBC ไทย–กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ มาเลเซีย ย้ำจุดยืนไทยแก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีสหรัฐและจีนร่วมสังเกตการณ์
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ ภายหลังเดินทางถึง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ เมืองปุตราจายา เวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย เพื่อแสดงความขอบคุณต่อบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสันติภาพในภูมิภาค รวมถึงการจัดประชุม GBC ครั้งนี้ โดยไทยได้ย้ำจุดยืนของไทยที่ต้องการยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี การยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ และการเคารพในอธิปไตยของกันและกัน
ในช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย พลเอก ณัฐพลฯ และคณะผู้แทนระดับสูงฝ่ายไทย อาทิ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ. ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก พล.ร.อ. ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ พล.อ.อ. วชิระพล เมืองน้อย เสนาธิการทหารอากาศ ตลอดจนคณะทำงานจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่เกี่ยวข้องอย่างจะเข้าร่วมการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการหารือและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาชายแดนร่วมกัน โดยจะมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐอเมริกา และจีน เข้าร่วม
โดยในประชุมวันนี้ มีวาระสำคัญครอบคลุมประเด็น อาทิ การฟื้นฟูความไว้วางใจระหว่างกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย การยืนยันการหยุดยิงร่วม มาตรการลดความตึงเครียดในพื้นที่ที่ยังมีความเสี่ยง การคุ้มครองพลเรือน เป็นต้น
ซึ่งพลเอก ณัฐพลฯ ได้เน้นย้ำว่า “การรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน และการเดินหน้าสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างยั่งยืน คือเป้าหมายสำคัญของฝ่ายไทย”
รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ทุกการดำเนินการของฝ่ายไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม โดยไม่ใช้อำนาจเกินความจำเป็น และไม่ตอบโต้ต่อเป้าหมายที่อยู่ในเขตชุมชนของพลเรือน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างมีศักดิ์ศรี เป็นธรรม และนำไปสู่ความร่วมมืออย่างยั่งยืนในอนาคต นายจิรายุกล่าว
ที่มา : www.thaigov.go.th