รมว.แรงงานเร่งตรวจสอบปัญหาค่าหัวคิวแรงงานต่างด้าว เสียหายกว่า 400 ล้าน ชงดีเอสไอเอาผิดคนทุจริต
‘พงศ์กวิน’ ลุยทลาย ‘แก๊งงาบหัวคิวแรงงานต่างด้าว’ แฉทำเป็นขบวนการ เชื่อมโยง ‘บุคคล-นิติบุคคลไทย’ และเจ้าหน้าที่กัมพูชาเปิดบัญชีม้า รับเงินเป็นล่ำเป็นสัน พบมูลค่าความเสียหายกว่า 300-400 ล้าน เตรียมประสาน ‘ดีเอสไอ’ แลกเปลี่ยนข้อมูลเอาผิดคนทุจริต
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสร้องเรียนเกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าหัวคิวแรงงานต่างด้าว โดยอาศัยช่องว่างของการกำหนดกระบวนการต่อใบอนุญาตทำงาน รวมทั้งยังมีกระแสข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้มาต่อเนื่อง และได้มีปฏิบัติการณ์บุกค้นบริษัทเอกชนหลายแห่ง โดยได้ยึดอายัดข้อมูลเอกสารและหลักฐานต่างๆ เอาไว้ตรวจสอบก่อนหน้านี้นั้น เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา จึงได้เร่งรัดให้มีการตรวจสอบกรณีนี้โดยละเอียด ซึ่งพบว่ามีความผิดปกติจากการอาศัยช่องว่างการกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับกระบวนการขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว จากข้อกำหนดตามประกาศกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับการอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567
โดยช่องว่างดังกล่าวเป็นการอาศัยข้อกำหนดตามประกาศกระทรวงแรงงานข้างต้น ซึ่งกำหนดให้แรงงานต่างด้าวจะต้องเดินทางกลับประเทศเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการรับและส่งคนงาน มาใช้กำหนดเงื่อนไขใหม่ด้วยการเปิดให้ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทนโดยที่แรงงานไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางของตัวเอง ซึ่งมีการดำเนินการแล้วในส่วนของแรงงานชาวกัมพูชา ที่อนุญาตให้นายจ้างหรือบริษัทที่รับจ้างเป็นผู้ยื่นคำขอต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงาน ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีการเรียกเก็บค่าหัวคิวการดำเนินการขั้นต่ำหัวละ 2,500 บาท
นายพงศ์กวิน กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่ากรณีนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ ผู้กระทำผิดเชื่อมโยงบุคคลและนิติบุคคลในประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศกัมพูชา โดยจะมีนายหน้าคนไทย เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างนายจ้างและแรงงานต่างด้าวในการเรียกเก็บค่าหัวคิว โดยให้โอนผ่านบัญชีม้าซึ่งเป็นของคนต่างด้าว จากนั้นจะมีการโอนเงินจากบัญชีม้าต่อไปยังเจ้าหน้าที่สถานทูตและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานของประเทศกัมพูชา จากนั้นจึงมีการโอนต่อมายังคนไทยและนิติบุคคลของไทย ซึ่งตรวจสอบพบแล้วรวม 3 ราย
“การดำเนินการของกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลทั้งในและนอกประเทศดังกล่าวมีการดำเนินการในลักษณะเป็นขบวนการ เบื้องต้นทราบว่าทางดีเอสไอ อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยประเมินความเสียหายเบื้องต้นจากแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ได้มีการต่อใบอนุญาตไปแล้วก่อนหน้านี้ มีประมาณ 180,000 ราย อาจมีมูลค่ามากถึง 300-400 ล้านบาท จึงจะมีการประสานข้อมูลเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด หากพบผู้กระทำผิดเชื่อมโยงไปถึงใครระดับไหนก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว
#แรงงานต่างด้าว #ค่าหัวคิว #กระทรวงแรงงาน #DSI #การตรวจสอบ #ขบวนการผิดกฎหมาย #กัมพูชา #กฎหมายไทย #ป้องกันการทุจริต #แรงงานข้ามชาติ