ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ในลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.23-32.33 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกันของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำ
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ “ลดดอกเบี้ย 0.25%” สู่ระดับ 1.50% ตามที่ตลาดคาด จะเห็นได้ว่า เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แม้มติดังกล่าวของ กนง. จะมีส่วนหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น ทว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติต่างขายหุ้นไทยออกมา คิดเป็นการขายสุทธิราว 6.7 พันล้านบาท สะท้อนว่า ผลการประชุม กนง. ดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ ปัจจัยหลักหนุนการแข็งค่าของเงินบาท คือ การทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดบ้าง ซึ่งบางส่วนก็เริ่มคาดหวังว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน นี้ อนึ่ง การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทยังคงเป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในจังหวะย่อตัว นอกจากนี้ เรามองว่า การปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ (นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงราว -10%) อาจทำให้มีโฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับน้ำมันดิบ อาทิ Buy on Dip น้ำมันดิบ เข้ามาช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรายอมรับว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ในช่วงนี้ ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด ตราบใดที่ ผู้เล่นในตลาดไม่ได้ปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราประเมินว่า จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและปัจจัยในระยะสั้นนี้ อาจยังไม่สามารถทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญได้ โดยเราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจต้องการรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงานสัมนาวิชาการประจำปีของเฟด ที่เมือง Jackson Hole, Wyoming รวมถึงรอลุ้น รายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะรับรู้ในช่วงต้นเดือนกันยายน ทำให้ในระยะสั้นนี้ เรามองว่า แม้เงินบาทจะมีความเสี่ยง Two-way risk (พร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง) แต่เราอาจมองว่า เงินบาทเสี่ยงอ่อนค่าลงได้บ้าง ในกรณีที่ ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับด้านเงินเฟ้อ อย่าง ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI รวมถึง อัตราเงินเฟ้อ PCE และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (Manufacturing & Services PMIs) ที่จะรับรู้ก่อนข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี หากเงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดและมีแนวโน้มจะติดแถวโซนแนวต้านตั้งแต่โซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ จนถึงโซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งต้องลุ้นข้อมูลการจ้างงานใหม่ของสหรัฐฯ หรือเงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม จากปัญหาความวุ่นวายการเมืองในประเทศ (ซึ่งเรามองว่า โอกาสเกิดภาพดังกล่าวก็มีไม่มากนัก)
ทั้งนี้ มองว่า ควรจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองคำและสกุลเงินเอเชีย อย่าง เงินหยวน (CNY) เนื่องจากทั้งสองสินทรัพย์ เคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาทในระดับสูงพอสมควร (High correlation) โดยในฝั่งของราคาทองคำนั้น อาจพอประเมินได้ว่า ถ้าการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) ถูกจำกัดไว้แถวโซนแนวต้าน เช่น โซน 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การแข็งค่าของเงินบาทก็จะเป็นไปอย่างจำกัดได้
เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.40 บาท/ดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธ.กรุงเทพ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR MOR MRR 0.25% มีผลตั้งแต่ 14 ส.ค. 2568
5 เทรนด์ Digital Transformation ที่ธุรกิจไทยต้องจับตามอง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com