โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

แม่ทัพใหม่ ‘ซีพี-เมจิ’ วิจัยนำการตลาด...ย้ำแชมป์พาสเจอร์ไรซ์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อภิสิทธิ์ ธีรภาพรุ่งโรจน์

สัมภาษณ์พิเศษ

ตลาดนมพาสเจอไรซ์ เป็นหนึ่งในตลาดที่ยังสามารถเติบโตระดับเลข 2 หลัก แม้ต้องเผชิญสภาพเศรษฐกิจและการเปลี่ยนผ่านของเจนผู้บริโภค โดย “ซีพี-เมจิ” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทเมจิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2532 ยังคงสามารถครองโพซิชั่นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้พูดคุยกับ “อภิสิทธิ์ ธีรภาพรุ่งโรจน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด คนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2568 ถึงโอกาสและความท้าทาย รวมถึงเทรนด์ของตลาดนมพาสเจอไรซ์ และผลิตภัณฑ์นม อาทิ โยเกิร์ต รวมถึงแนวทางของซีพี-เมจิ ในการต่อยอดเทรนด์เหล่านี้มาสร้างความได้เปรียบ และรับมือความท้าทาย ย้ำตำแหน่งผู้นำตลาด

นมพรีเมี่ยม-ฟังก์ชั่นนอลมาแรง

“อภิสิทธิ์” ฉายภาพว่า ตลาดนมพาสเจอไรซ์ของไทยในปี 2568 ทั้งปีจะมีมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตระดับเลขสองหลัก ซึ่งเป็นการโตต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. 2568 ตลาดนมพาสเจอไรซ์ของไทยมีมูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

การเติบโตนี้ได้แรงหนุนจาก 3 ปัจจัย คือ เทรนด์สุขภาพที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคต้องการเครื่องดื่มที่มีสารอาหารสูงอย่าง นม เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับมีความต้องการที่เฉพาะตัวมากขึ้น เช่น ผู้ออกกำลังกาย ผู้แพ้นม ฯลฯ

ขณะเดียวกัน ตลาดเกิดกระแสนมพรีเมี่ยม-ฟังก์ชั่นนอลขึ้น หลังแบรนด์นมทั้งซีพี-เมจิ และคู่แข่งต่างส่งสินค้าใหม่ที่มีจุดขายด้านนวัตกรรมทำให้นมพาสเจอไรซ์กลายเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล อาทิ นมสูตรโปรตีนสูงสำหรับผู้ออกกำลังกาย หรือนมไม่มีแล็กโทสสำหรับผู้แพ้น้ำตาลแล็กโทส เป็นต้น ส่งผลให้มีกลุ่มผู้บริโภคใหม่เพิ่มเข้ามา ส่วนผู้บริโภคเดิมมีการบริโภคนมพาสเจอไรซ์มากขึ้น

โดยเชื่อว่าใน 5-10 ปีข้างหน้า ตลาดนมจะมีความ Personalized มากขึ้น ตามรูปไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค-ผู้ประกอบการ เห็นได้จากการเกิดเซ็กเมนต์ต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น นมโปรตีนสูงสำหรับกลุ่มออกกำลัง นมไม่มีแล็กโทส สำหรับผู้แพ้แล็กโทส ซึ่งในอนาคตอาจเห็นนมที่มีฟังก์ชั่นด้านความงามด้วยอย่างนมคอลลาเจนก็เป็นไปได้ ด้านบรรจุภัณฑ์ก็อาจมีขนาดเล็กลง ตามรูปแบบครัวเรือนไทยที่สมาชิกน้อยลง

ทั้งนี้ เพราะความเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคจะถูกนำมาสร้างเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอ

อีกปัจจัยสำคัญคือ การเติบโตของตลาด B2B อย่าง ร้านกาแฟ-ชา และร้านเบเกอรี่ ซึ่งต่างใช้นมเป็นวัตถุดิบสำคัญ ที่ขยายตัวสูงมากตลอดช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ดีมานด์นมพาสเจอไรซ์พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ด้านตลาดโยเกิร์ต ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ก็ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีแนวโน้มเติบโตจากการขยายตัวของเซ็กเมนต์พรีเเมี่ยม อย่างโยเกิร์ตแบบคงตัว และกรีกโยเกิร์ต มาต่อเนื่องหลายปีเช่นกัน หลังจากที่บริษัทและแบรนด์ไทยอื่น ๆ ส่งสินค้าราคาจับต้องง่ายกว่าสินค้านำเข้า 3 เท่าเข้าสู่ตลาด

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแนวโน้มเติบโตนี้ ตลาดนมพาสเจอไรซ์และธุรกิจของซีพี-เมจิ ยังมีความท้าทายแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ ค่าขนส่งที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงซัพพลายน้ำนมที่ต้องรักษาความสม่ำเสมอของคุณภาพและสัดส่วนสารอาหาร

ใช้วิจัยนำการตลาด

“อภิสิทธิ์” บอกด้วยว่า แม้ตลาดจะท้าทาย แต่ซีพี-เมจิยังมีส่วนแบ่งตลาดถึง 56.3% โดยกลยุทธ์ที่ซีพี-เมจิ ใช้รับมือความท้าทายและสร้างความได้เปรียบคือ การมีการวิจัยตลาดเป็นแกนหลัก ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องตลอดเวลาทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ รวมไปถึงการร่วมพัฒนาสินค้าทั้งกับผู้บริโภคครัวเรือนและผู้ประกอบการร้านเครื่องดื่ม-เบเกอรี่ ตัวอย่างเช่น การจัดแข่งขันบาริสต้าก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการหาความต้องการของผู้ประกอบการร้านกาแฟ

ทั้งนี้ เพื่อรักษาโพซิชั่นผู้นำตลาดนมพาสเจอไรซ์ ตามเป้าหมายรายได้เติบโต 10% ในปี 2568 หรือคิดเป็น 15,200 ล้านบาท และครองส่วนแบ่งเกินครึ่งตลาด ต่อเนื่องจากช่วง ม.ค.-พ.ค. ปี 2568

“เราเชื่อในเรื่องนี้มาก หากไม่ชัวร์จะทำวิจัยซ้ำจนแน่ใจว่า โจทย์ของผู้บริโภคคืออะไร และสินค้าที่บริษัทพัฒนาขึ้นมานั้นสามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด รวมถึงเปิดตัวได้ถูกจังหวะเวลาที่จะสร้างอิมแพ็กต์สูงสุด”

โดยหนึ่งในผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จชัดเจน คือ การเติบโตในไตรมาสสองที่มาจากสินค้าที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของเหล่าผู้ประกอบการอย่าง เมจิ Ray ที่มุ่งตอบโจทย์กลุ่มร้านกาแฟสเปเชียลตี้ ซึ่งต้องการนมที่ต่างจากร้านกาแฟทั่วไป เช่น ช่วยคงเอกลักษณ์ของรสชาติเมล็ดกาแฟเอาไว้ จึงใช้โอกาสนี้ส่งสินค้าเข้าชิงดีมานด์ในเซ็กเมนต์นี้มาสร้างการเติบโตในฝั่ง B2B

เพราะมองว่าแม้สภาพเศรษฐกิจจะไม่เป็นใจนัก แต่หากสามารถตอบโจทย์ได้ตรงจุด เช่น ฟังก์ชั่นและสุขภาพ ผู้บริโภคและผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะลงทุนกับสินค้าตัวนั้น ๆ

ขณะเดียวกันยังต่อยอดด้วยการปรับโฉมแพ็กเกจจิ้งใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างให้ผู้บริโภคสังเกตเห็นได้ง่าย และตอบโจทย์การใช้งานหรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม เช่น เมจิ Ray กล่องเล็ก ออกมาหลังจากที่พบว่ามีผู้บริโภคครัวเรือนมาซื้อใช้ด้วย กล่องขนาด 2 ลิตรแบบเดียวไม่ตอบโจทย์ จึงพัฒนากล่องเล็กสำหรับใช้คนเดียวเมื่อชงกาแฟดื่มเองในบ้าน

รวมถึงการทำโยเกิร์ตพร้อมดื่มแบบไม่ต้องใช้หลอดที่ตอบโจทย์ความสะดวกและเทรนด์ลดพลาสติก และเมจิ ดับเบิลซีโร่ รับกระแสลดการบริโภคน้ำตาล เป็นต้น

ชิงร้านเบเกอรี่-ซอฟต์เสิร์ฟ

“อภิสิทธิ์” บอกอีกว่า ตัวที่สะท้อนความสำเร็จของการชิงฐานลูกค้าผู้ประกอบการร้านเครื่องดื่ม และเบเกอรี่มาสร้างการเติบโตควบคู่กับลูกค้าครัวเรือนนั้นเห็นได้ชัดเจนจากรายได้ปัจจุบันของซีพี-เมจิฝั่ง B2C ที่เติบโตไปพร้อมกับ B2B โดยรายได้ B2B มีสัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้รวม

จากความสำเร็จนี้ทำให้บริษัทมุ่งต่อยอดกลยุทธ์ดังกล่าวนี้เพื่อขยายฐานไปยังลูกค้าผู้ประกอบการประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นร้านเบเกอรี่, ร้านขนมซอฟต์เสิร์ฟ โดยจะใช้การวิจัยเจาะลึกหาโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าเช่นเดียวกับร้านกาแฟสเปเชียลตี้ ทั้งนี้ เพื่อบาลานซ์พอร์ตรายได้ B2B หลังจากที่รายได้ B2B เริ่มชะลอตัวในช่วงไตรมาสสอง เพราะถูกกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่ลดลง

“ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าอีกหลายรายการในไปป์ไลน์สำหรับเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และในอนาคต เพียงแค่รอจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น”

แชร์โนว์ฮาวญี่ปุ่นหนุนเกษตรกร

สำหรับในด้านการผลิต ซีพี-เมจิ มุ่งสร้างความมั่นคงของซัพพลายน้ำนม และศักยภาพกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้มีสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการผนึกกำลังกับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนมถ่ายทอดโนว์ฮาวและเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ คุณภาพและสัดส่วนอาหารสำหรับวัว เพื่อให้ผลผลิตได้มาตรฐานสูง

ส่วนของโรงงานบริษัทมีแผนจะลงทุนอัพเกรดกระบวนการผลิตต่อเนื่องเช่นกัน เพื่อให้สามารถรองรับแผนเปิดตัวสินค้าที่วางล่วงหน้าไว้ 3-5 ปี ได้อย่างราบรื่น

พลิกวิกฤตสู่โอกาสวิน-วิน

“อภิสิทธิ์” ยังแชร์แนวคิดในการบริหารธุรกิจด้วยว่า ต้องมองว่าในทุกวิกฤตจะมีโอกาสซ่อนอยู่ หากตั้งใจมองหา ซึ่งไม่เพียงโอกาสของตัวเอง แต่ต้องมองหาโอกาสที่จะสามารถวิน-วินทุกฝ่ายด้วย เมื่อเจอโอกาสดังกล่าวแล้ว ต้องอธิบายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเห็นและเข้าใจโอกาสนี้ด้วย

ตัวอย่างหนึ่งคือ การผลักดันสินค้า มิกซ์มิลก์ ที่มุ่งตอบโจทย์ผู้ที่ใช้นมข้นจืดผสมกับนมข้นหวาน เช่น เมนูนมสด และสลัชชี่ต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้าผ่านการนำเสนอและการขายที่เหมาะสม เช่น ร้านสามารถคุมรสชาติให้เท่ากันทุกแก้ว, ความสะอาด และการเก็บรักษาได้นาน ซึ่งต่างจากการผสมใช้เอง

ผสานบุคลากรต่างเจน

พร้อมกันนี้ยังต้องมุ่งเน้นการบริหารบุคลากรที่มาจากหลากหลายเจเนอเรชั่น โดยปัจจุบันมีเจน Z และมิลเลนเนียล ประมาณ 30% ของบุคลากรทั้งหมด ให้สามารถร่วมงานกันบุคลากรเจนอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพ

ด้วยการ On Job Training หรือการฝึกไปพร้อมกับการทำงานจริงในรูปแบบโปรเจ็กต์ที่ให้บุคลากรแต่ละเจน มาทำงานร่วมกันในเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจะเกิดการแชร์องค์ความรู้ระหว่างกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงนำไปสู่การสร้างผู้สืบทอดในองค์กร เพื่อให้การส่งต่องานต่อเนื่อง

สู่เบอร์ 1 ระดับภูมิภาคใน 3-5 ปี

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ ทิ้งท้ายว่า นอกเหนือจากเป้าหมายในด้านยอดขายแล้ว เป้าหมายสำคัญที่วางไว้คือ การขยายธุรกิจออกไปในระดับภูมิภาค ในหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งสร้างและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของผู้บริโภค ตามปรัชญาที่อยากให้สังคมมีอาหารและเครื่องดื่มที่ดีเป็นพื้นฐานในการเติบโตในอนาคต โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคให้ได้ภายใน 3-5 ปี

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แม่ทัพใหม่ ‘ซีพี-เมจิ’ วิจัยนำการตลาด…ย้ำแชมป์พาสเจอร์ไรซ์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

SJWD โชว์ฟอร์มกำไร Q2/68 โต มองภาษีสหรัฐไม่กระทบอุตสาหกรรมขนส่ง

18 นาทีที่แล้ว

SMEs นำเข้า-ส่งออก... บริหารสกุลเงินท้องถิ่นอย่างไรให้ได้เปรียบ

20 นาทีที่แล้ว

‘ไดกิ้น-พานาโซนิค’ ส่งแอร์กลางแจ้ง รับมือญี่ปุ่นร้อนทะลุเดือด

29 นาทีที่แล้ว

7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีถึง 31 ส.ค. ตรวจรายชื่อหน่วยบริการที่แอปเป๋าตัง

35 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

TASCO โชว์กำไร Q2/68 เพิ่มขึ้น 3 เท่า YoY รับยอดขายยางมะตอยโต-มาร์จิ้นสูงขึ้น

StockRadars

SJWD กวาดกำไร Q2/68 ที่ 282 ลบ. เดินหน้าคุมค่าใช้จ่าย-ลดต้นทุนการเงิน ปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท

efinanceThai

MGC โชว์งบครึ่งปีแรก 68 กำไรทะยาน 167% ทะลุ 100 ลบ. ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง

efinanceThai

เจโทร ย้ำ ญี่ปุ่นเดินหน้าลงทุน 5 อุตสาหกรรมหลักในไทย แม้ยังกังวลภาษีสหรัฐ

The Bangkok Insight

‘บัฟเฟตต์’ สวนกระแสอีกครั้ง ปรับพอร์ตซื้อ UnitedHealth ลดหุ้น Apple และ BofA

Finnomena

เมื่อ เวลา และ ราคาใน S50U25 มาบรรจบ ก็คงต้องเตือนกันว่าระวังลงแรงๆ

ทันหุ้น

PR9 โชว์กำไร Q2 แตะ 182 ล้านบาท โต 31% รับรายได้ผู้ป่วยต่างชาติพุ่งเท่าตัว

ข่าวหุ้นธุรกิจ

เปิด 20 อันดับหุ้นถูก “Cover-Short” สูงสุด ณ 14 ส.ค.68

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

แม่ทัพใหม่ ‘ซีพี-เมจิ’ วิจัยนำการตลาด...ย้ำแชมป์พาสเจอร์ไรซ์

ประชาชาติธุรกิจ

สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาทองวันนี้ (15 ส.ค. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณขายออก 52,100 บาท

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...