กองทัพไทย แจ้งเตือน! ประชาชนกัมพูชา ถ้าเห็นทหารให้รีบอพยพหนี

กองทัพไทย ขอแจ้งพี่น้องชาวกัมพูชา หากพบเห็นกองกำลังกัมพูชานำอาวุธสงครามเข้ามาในหมู่บ้าน ขอให้รีบอพยพ กองทัพไทยจำเป็นต้องใช้สิทธิตอบโต้

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน พร้อมสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียที่ไม่จำเป็นต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่าย

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพไทยได้ยึดมั่นในนโยบายการปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยสันติวิธี และปฏิบัติตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด โดยไม่เคยปรารถนาให้เกิดการเผชิญหน้าหรือความรุนแรงใด ๆ

อย่างไรก็ตาม การกระทำของกองกำลังกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา มีพฤติกรรมชัดเจนในการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง อาทิ การเพิ่มเติมกำลัง การเคลื่อนย้ายกำลัง การสร้างข่าวปลอม การยั่วยุ และการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการลักลอบวางกับระเบิดสังหารบุคคลลอบกัด เพื่อหวังทำลายขวัญและกำลังใจ รวมถึงชีวิตของทหารไทย ตลอดจนการนำอาวุธยิงระยะไกล เช่น ปืนใหญ่และเครื่องยิงจรวด มาติดตั้งใกล้พื้นที่ชุมชนของพลเรือนกัมพูชาเอง ซึ่งถือเป็นการใช้พี่น้องประชาชนเป็นโล่มนุษย์ อันเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นสิ่งที่กองทัพไทยไม่อาจยอมรับได้

กองทัพไทยจึงขอแจ้งไปยังพี่น้องชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนทุกท่านว่า หากพบเห็นกองกำลังกัมพูชานำอาวุธสงครามเข้ามาในหมู่บ้าน หรือในพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่อาศัย ขอให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเมื่อเกิดการยิงปะทะ กองทัพไทยจำเป็นต้องใช้สิทธิในการตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยมุ่งเป้าหมายไปที่แหล่งตั้งอาวุธโดยตรง และใช้มาตรการทางทหารที่เหมาะสมเพื่อทำลายภัยคุกคามดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ กองทัพไทยขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำร้ายพลเรือนกัมพูชาแต่อย่างใด แต่หากมีความจำเป็น ต้องดำเนินการเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่มุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยทุกมาตรการที่กองทัพไทยดำเนินการ เป็นไปเพื่อปกป้องประเทศชาติและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย

Royal Thai Armed Forces Clarify Border Situation — Upholding Ceasefire Agreement While Defending Sovereignty to Protect Civilians on Both Sides Urges Cambodia to Cease Provocations and Violations of the Agreement

14 August 2025 — Major General Vithai Laithomya, Spokesperson of the Royal Thai Armed Forces Headquarters, provided an update on the situation along the Thai-Cambodian border, aiming to convey accurate information and prevent unnecessary harm to innocent civilians on both sides.

The Royal Thai Armed Forces have consistently upheld a policy of defending the nation’s sovereignty through peaceful means, in full compliance with international standards, and have never sought confrontation or violence.

However, recent actions by Cambodian forces clearly violate the ceasefire agreement. These include reinforcement and redeployment of troops, dissemination of false information, acts of provocation, and repeated intrusions into Thai sovereign territory.

Particularly concerning are the covert emplacement of anti-personnel landmines to inflict casualties and damage morale, and the positioning of long-range weapon systems such as artillery and rocket launchers within or near Cambodian civilian communities. Such conduct constitutes the use of civilians as human shields — a grave breach of international humanitarian law — and is unacceptable to the Royal Thai Armed Forces.

The Royal Thai Armed Forces therefore urge Cambodian civilians living in border areas to evacuate immediately if they observe Cambodian military forces bringing weapons of war into villages or residential areas. Should armed engagements occur, Thai forces will exercise their right to respond in defence of national sovereignty, targeting only the identified weapon positions and employing proportionate military measures to neutralise the threat, with the aim of preventing harm to civilians.

The Royal Thai Armed Forces reaffirm that they have no intention to harm Cambodian civilians. Any military response will only be undertaken when necessary to counter threats that endanger the lives and property of the people. All measures implemented by the Thai Armed Forces are intended solely to protect the nation and ensure the safety of civilians on both sides.

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS