เจาะลึกวิสัยทัศน์ Krungsri MUFG Business Forum ‘80 ปี กรุงศรี’ กับกลยุทธ์สู่ ‘ความยั่งยืน’ ในศตวรรษใหม่
จากงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี Krungsri MUFG Business Forum: Driving to Sustainable Future ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ยังเป็นวาระพิเศษในโอกาสครบรอบ 80 ปีของธนาคาร ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงการเดินทางอันยาวนานและความสำเร็จที่ผ่านมา
งานนี้ไม่เพียงแต่รวบรวมผู้นำทางเศรษฐกิจและการเงินมาแบ่งปันมุมมองเชิงลึกเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่สะท้อนถึงพันธกิจระยะยาวของทั้งกรุงศรีและ MUFG (Mitsubishi UFJ Financial Group) ในการสนับสนุนลูกค้าและร่วมผลักดันความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยสู่ศตวรรษใหม่
MUFG ชี้ไทยคือตลาดเชิงกลยุทธ์หัวใจของเอเชีย
ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางปี 2567-2569 ของ MUFG การเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเป้าหมายสำคัญ โดย คาเนทสุกุ มิเกะ ประธานกรรมการ MUFG เปิดเผยถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับกรุงศรีในฐานะ ‘พันธมิตรเหมือนคนในครอบครัว’ อย่างน่าสนใจ โดยเปิดเผยข้อมูลว่า กำไรหลักของ MUFG ทั่วโลกมาจากธุรกิจนอกประเทศถึง 60% ซึ่งในจำนวนนี้ 45% มาจากภูมิภาคเอเชีย และที่สำคัญ ครึ่งหนึ่งของธุรกิจในเอเชีย มาจากธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งก็คือ ประเทศไทย ตัวเลขเชิงกำไรนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทอันทรงอิทธิพลของตลาดไทยต่อการเติบโตระดับโลกของ MUFG อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม MUFG มองว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างหลายประการ ทั้งสังคมผู้สูงวัย, หนี้ครัวเรือนสูง, การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transformation) และการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งโอกาสการเติบโตจะเกิดขึ้นจาก 3 การเปลี่ยนผ่านที่สำคัญดังนี้
1. Green Transformation (GT): การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
MUFG ไม่ได้ใช้นโยบายแบบ ‘ถอนการลงทุน’ (No Divestment) แต่เลือกที่จะ ‘มีส่วนร่วม’ (Engagement) กับลูกค้าในอุตสาหกรรมที่ยังมีการปล่อยคาร์บอนสูง เพื่อจัดหาเงินทุนที่จำเป็น (Transition Finance) และทำงานร่วมกันเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutral)
“ที่เราคิดเช่นนี้ เพราะเรามองว่า แต่ละประเทศมีบริบทที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับการแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ” คาเนทสุกุ มิเกะ กล่าว
2. Digital Transformation (DX): การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
MUFG มองเห็นโอกาสในการลงทุนระยะยาวด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น Data Center และ AI ซึ่งเป็นสิ่งที่ MUFG มีความเชี่ยวชาญในด้าน Project Finance โดยมองว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่ประชากรในวงกว้างขึ้น
3. Industrial Transformation (IX): การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและกฎระเบียบใหม่ๆ ทำให้การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมและการควบรวมกิจการ (M&A) เป็นสิ่งจำเป็น MUFG ได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกและความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Morgan Stanley เพื่อให้คำปรึกษาและจับคู่ธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทย
นอกจากนี้ MUFG ยังมองว่า กรณีภาษีตอบโต้ซึ่งเป็นนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ใช่ปัจจัยวิกฤตที่สำคัญมากนักต่อการตัดสินใจลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างประเทศ (FDI) ในประเทศไทย แต่ปัจจัยที่มีน้ำหนักมากกว่าคือแนวโน้มเศรษฐกิจ นโยบายอุตสาหกรรม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งจากฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและหลากหลาย หากใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้า ประเทศไทยจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุน
เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
กรุงศรีตอกย้ำพันธกิจ ESG เป็น DNA องค์กร
ทางด้านเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ย้ำถึงพันธกิจด้าน ESG ที่เป็นหัวใจหรือ ‘DNA ขององค์กร’ โดยไม่ได้เป็นเพียงแค่กลยุทธ์เท่านั้น โดยกรุงศรีได้นำเสนอผลงานที่โดดเด่นใน 3 มิติหลัก ได้แก่
1. การลดการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินงานขององค์กร
กรุงศรีมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 และได้รายงานความคืบหน้าในปี 2024 ว่าสามารถลดการปล่อยคาร์บอนลงได้เกือบ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการลงทุนในระบบปรับอากาศ, การใช้รถยนต์ไฟฟ้า, และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
2. การเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance)
จากเป้าหมายเดิมที่ 250,000 ล้านบาท ภายในปี 2030 ปัจจุบันกรุงศรีสามารถบรรลุยอดเงินสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนได้แล้วกว่า 220,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะถึงเป้าหมายในเร็วๆ นี้ พร้อมพิจารณาที่จะปรับเป้าหมายใหม่ให้สูงขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม
3. การให้ความรู้และสร้างความตระหนัก
นอกจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินแล้ว กรุงศรียังเน้นการให้ความรู้ด้าน ESG โดยเฉพาะแก่ลูกค้ากลุ่ม SME ผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น ESG Academy และ ESG Award เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวได้อย่างยั่งยืน
ท้ายที่สุด ทั้ง MUFG และกรุงศรี ได้ย้ำถึงพันธกิจร่วมกันว่า ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่สำคัญ และทั้งสองสถาบันการเงินจะเดินหน้าทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างมีสุขภาพดีของเศรษฐกิจไทย พร้อมเติบโตเคียงข้างสังคมและลูกค้าชาวไทยสู่ศตวรรษที่มั่นคงและยั่งยืนร่วมกัน