แม่ทัพภาค 2 เปิดใจศึกชายแดน! กัมพูชาส่งทหารนับพัน-โดรนล่าพิกัด รพ. หวังยึด "ตาเมือนธม" เผยฝ่ายตรงข้ามสูญเสียกว่า 3,000 นาย
ที่ค่ายสุรนารี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย คุณฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนชั่นกรุ๊ป คณะสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า มูลนิธิเพื่อสภาบันพระปกเกล้า โรงพยาบาลนวเวช คณะเทศบาลตำบล่านสำโรง จ.สมุทรปราการ คณะเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว จ.เชียงใหม่ และบริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท จำกัด ร่วมมอบเครื่องเวชภัณฑ์ (อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล) เครื่องอุปโภคบริโภคให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี
โดย นายวันมูหะมัดนอ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการช่วยเหลือ และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า สภา พร้อมทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจของทหารในการปกป้องอธิปไตย และดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด
พร้อมกันนี้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เปิดใจถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในงานนี้ โดยตอนหนึ่ง มีตัวแทนจากสภาถามถึงปฏิบัติการทางทหารที่ผ่านมา และให้ประเมินความสูญเสียฝ่ายตรงข้าม
พล.ท.บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า ความสูญเสียของทหารฝ่ายกัมพูชาน่าจะราวๆ 3,000 คน เพราะใช้กำลังเยอะในปฏิบัติการ ซึ่งตนรู้สึกเห็นใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะทหารกัมพูชาก็ทำตามคำสั่งผู้นำของเขา
ส่วนเรื่องการบินโดรน พล.ท.บุญสิน ยอมรับว่ามีการขึ้นบินเยอะจริง ทั้งบริเวณที่ตั้งฝ่ายเรา สนามบิน คลังอาวุธ คลังระเบิด บ้านทหาร รพ. ตนได้ประสาน 14 จังหวัด หาแอนตี้โดรน หาตัวคนบินโดรน ถ้าได้ตัวแล้วขอให้ ตร.สอบสวนไปให้สุด อย่าเพิ่งสรุปว่ามีอาการทางจิต
“ฝ่ายกัมพูชาเขาจงใจหาพิกัด รพ. เพื่อนำไปป้อนพิกัด และเขามีอาวุธยิงถึง เรื่องนี้อย่าคิดว่าไกลตัว เชื่อว่าสงครามยุคหน้าอาจจะต้องมีห้องใต้ดิน ฐานบัญชาการต้องอยู่ใต้ดิน” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง
เมื่อถามถึงสถานการณ์บริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า ตาเมือนธม ฝ่ายกัมพูชาพยายามเข้าไปยึด โดยใช้กำลังเป็นพัน ส่วนที่ปราสาทตาควาย มีฐานทหารกัมพูชาอยู่ใกล้มาก และวางกำลังหน้าแนว ซึ่งเป็นปราสาทเดียวที่เราตรึงกำลังอยู่ และยังเข้าไม่ได้ ที่ผ่านมา ทหารได้ทดลองปฏิบัติไป 4 ครั้ง ยังเข้าไม่ได้ เขาเข้มแข็ง ประกอบกับมีทุ่นระเบิดวางไว้โดยรอบอย่างหนาแน่น
พล.ท.บุญสิน กล่าวอีกว่า เราปฏิบัติการ 4 วัน ใน 11 ที่หมาย ตอนนี้เราอยู่ห่างจากปราสาทตาควาย 30 เมตร ฐานเขาอยู่ติดกับปราสาท ซึ่งได้เปรียบ แต่ยืนยันว่าปราสาทของเรา เราต้องเอากลับมาให้ได้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดการปะทะกันบริเวณปราสาทตาเมือนธม ขณะนี้เราได้ปิดปราสาท และกำลังพิจารณาว่าจะปิดตาย หรือปิดบางช่วงไม่ให้ขึ้น ซึ่งต้องรอกรรมการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ขณะที่ ภาพรวมสถานการณ์กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา น้องๆ กำลังใจดี คนที่บาดเจ็บ พอหายเจ็บ ก็ขอกลับไปอยู่หน้าแนวอีก ส่วนตนนั้น อายุราชการเหลือ 51 วัน ขอทำหน้าที่แม่ทัพให้ดีที่สุด หลังจากนั้นยังไม่ได้คิด มั่นใจน้องๆ มั่นใจแม่ทัพคนใหม่
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอแถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 14.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สถานการณ์โดยรวม สถานการณ์ปัจจุบันมีแนวโน้มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการประชุม GBC ซึ่งทางฝ่ายเรามีความต้องการที่จะลดความตึงเครียด และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ
การดูแลผู้อพยพ ในขณะนี้หลายพื้นที่มีความปลอดภัยเพียงพอในการให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อย่างเป็นระบบ โดยปัจจุบันยังคงมีผู้อพยพอาศัยในศูนย์พักพิงทั้งสิ้น 17 ศูนย์ จำนวน 1,173 คน ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางพื้นที่ที่หลงเหลือวัตถุระเบิด หรือวัตถุต้องสงสัยตกค้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเก็บกู้จากเจ้าหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด กองทัพภาคที่ 2 จึงขอความร่วมมือ จากพี่น้องประชาชน หากพบพื้นที่ที่ยังไม่ปลอดภัย หรือวัตถุต้องสงสัย ให้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมายเลข 191 เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าดำเนินการตรวจสอบ เก็บกู้ หรือทำลาย และขอให้ผู้พบเห็นหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าจะมีประกาศยืนยันความปลอดภัยโดยชัดเจน