โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทุ่นระเบิดใหม่ หลัง GBC ไทยเจ็บ – RBC ส่อล่ม กัมพูชาไม่หยุดลอบกัด?

INN News

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • INN News

ไม่ทันขาดคำ“จิ้งจกทัก”ทั่วไทยเพราะยังไม่ทันข้าม2วันเมื่อวาน(9ส.ค.)ก็เกิดเหตุ กำลังพล ของกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน ในพื้นที่รอยต่อ บ้านโดนเอาว์–บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษบาดเจ็บ 3 นาย คือ “จ่าสิบเอก ธานี พาหา” ผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด “พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ”พลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง

และ “พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์” พลปืนเล็ก ได้รับแรงอัดและบาดเจ็บบริเวณแก้วหู คาดเป็น “ทุ่นระเบิดใหม่” แม้ระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเพิ่งมีข้อตกลง คณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ 13 ข้อ (7ส.ค.68) ไปให้ระวัง การเล่นเล่ห์กลศึกของ “ไม่ยอมจบ”ของฝ่ายกัมพูชา โดยข้อตกลงวงประชุมดังกล่าว มีการ โฟกัส ประเด็นสำคัญ ที่“การหยุดยิง”โดยอาวุธทุกชนิดที่โจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์

และเป้าหมายทางการทหาร ในข้อ1 แต่ก็ยังมีติ่งใน“ข้อ2”การรักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย โดยเฉพาะ ที่ทุกฝ่าย “ตะหงิดใจ”คือ การที่ ฝ่ายเขมร ไม่ยอมรับประเด็นการเข้าไปเคลียร์ทุ่นระเบิดในพื้นที่ นับตั้งก่อนและหลังการปะทะ “วันเจรจาหยุดยิง”ครั้งแรก 28ก.ค.68

โดยเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดเมื่อวาน(9ส.ค.)กำลังถูกวิเคราะห์ ว่านอกจากฝ่ายกัมพูชา ต้องการการควบคุมชัยภูมิการรบหลายจุดที่ตรึงกับฝ่ายไทยโดยเฉพาะบริเวณปราสาทต่าง ๆ เช่น ตาควายที่มีภาพทหารเขมรเข้าไปยึดตัวปราสาท ซึ่งมีการวาง “ทุ่นระเบิด”ไว้บริเวณโดยรอบแล้ว ยังพยายามสร้างสถานการณ์วนลูปความขัดแย้งเช่นการเกิดการเยียบระเบิดของทหารไทย กระทั่งเกิดเหตุปะทะครั้งก่อน เพื่อบานปลายไปสู่การละเมิดข้อตกลง13ข้อ

จนส่งผลกระทบ กับกระบวนการการเจรจา “ระดับทวิภาคี”หลังจากนี้ ที่ตามข้อตกลงวันที่ 7ส.ค. ที่ทั้ง2ฝ่าย จะต้องมีการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือRBC ภายในสองสัปดาห์ ก่อนที่จะต้องมีการนัดประชุม GBC อีกครั้ง เพราะสถานการณ์เหยียบ “กับระเบิดใหม่”ที่เป็นของเขมร จนกำลังพลได้รับบาดเจ็บ3นายล่าสุด กองทัพไทย โดยกองทัพภาคที่2 กองทัพบก รวมถึง “รัฐบาลไทย” ย่อม “รับไม่ได้”และต้องมีการส่งเครื่องจักรหนักเข้าไปเคลียร์ที่มีโอกาสสุ่มเสี่ยงการกระทบกระทั่งและปะทะ

อย่างที่ “พลโทบุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาเมื่อวาน ถามหาความจริงใจ จากเขมร ที่มีการใช้ทุ่นระเบิด ยืนยันเป็น “ทุ่นระเบิดใหม่”ที่ทหารเขมรวางไว้ในพื้นที่ ช่องโดนเอาว์ เพื่อทำร้ายทหารไทย ก่อนที่จะถอนตัวออกจากพื้นที่ หลังถูกทหารไทยผลักดันในช่วงการสู้รบ ถือเป็น การละเมิด อนุสัญญาออตตาวา ชัดเจน โดย เป็น ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แบบPMN2 ที่ทหารไทย เคยเหยียบมาก่อนหน้านึ้

คาดว่า ยังคงมีการวางทุ่นระเบิดไว้ตลอดแนว ใน11พื้นที่ ที่ทหารไทยควบคุม โดยได้สั่งการให้กำลังพลมีความระมัดระวัง พร้อมมีการ ส่งเครื่องจักร รถเก็บกู้เข้าเคลียร์พื้นที่ตลอดแนว ก่อนลาดตระเวน ที่เท่ากับเป็นการชี้ชัดว่าทำไมฝ่ายกัมพูชา จึงไม่ยอมรับข้อเสนอของฝ่ายไทย ในเรื่องของการกู้ทุนระเบิด ในวงเจรจา GBC พร้อมเห็นด้วย ที่รัฐบาลจะประท้วง กดดันให้กัมพูชา แสดงความจริงใจในการร่วมมือ ในขณะที่กองทัพ กำลังเตรียมหัวข้อเจรจากับเขมร ในการประชุมRBC คาด กรอบหลักๆ จะมีเรื่องการถอนกำลังเรื่องทุ่นระเบิด และการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ชายแดน ให้เกิดความสงบเรียบร้อย

ขณะที่“พลตรี วินธัย สุวารี” โฆษกกองทัพบก ระบุ เห็นได้ชัดว่า การใช้อาวุธต่อกันในพื้นที่ชายแดน ยังคงมีอยู่ในลักษณะการซ่อนรูป และถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน อนุสัญญาออตตาวา สอดคล้อง กับการที่กองทัพบก ได้รับรายงาน 4ส.ค.68 จาก “ทหารช่าง”ที่เขาเคลียร์พื้นที่ บริเวณภูมะเขือ ที่เคยเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชา พบ ทุ่นระเบิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น 16 ทุ่น บรรจุในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด และ 2 ทุ่น มีการรีบวางแบบเร่งด่วนโดยไม่ฝังกลบ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด หน่วยทหารช่างได้เก็บกู้ครบทั้ง 18 ทุ่นแล้ว นอกจากนี้ยังตรวจพบลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด และลูกจรวด RPG จำนวนมาก

ซึ่ง การกระทำดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินมาตรการหยุดยิง และการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังตอกย้ำว่าที่ผ่านมา กัมพูชามีลักษณะเป็นฝ่ายริเริ่ม ใช้อาวุธก่อนมาโดยตลอด ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ดังกล่าว

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวาน(9ส.ค.) ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง ต่อการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดซ้ำ โดยระบุการวางทุ่นระเบิดใหม่ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่กองกำลังไทย ประสบเหตุการณ์เช่นนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 เดือนจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ ในกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

และเป็นการละเมิดพันธกรณี ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) อย่างชัดเจน ไทยอยู่ระหว่างการมีหนังสือประท้วงเรื่องดังกล่าวไปยังกัมพูชา และประธานอนุสัญญา การกระทำดังกล่าวเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรงต่อการดำเนินการตามมาตรการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่าย ตกลงกันไว้ในการประชุม GBC ไทยจึงขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชาหยุดการกระทำ ที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที

ขณะที่ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รมว.ต่างประเทศ บอกว่า ในส่วนการฟ้องร้องภายในประเทศ ต่อ”ผู้สั่งการ”การโจมตีพลเมืองไทย จะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายในประเทศ ในส่วนการฟ้องร้องในองค์กรระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการศึกษาเคสต่าง ๆ เนื่องจากมีหลายเคส ที่มีการฟ้องร้องในลักษณะเดียวกัน ซึ่งการฟ้องร้องในองค์กรระหว่างประเทศมีหลายระดับ และมีขั้นตอนอีกมาก แม้เราจะมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว แต่ยังมีกรอบที่องค์กรระหว่างประเทศ ที่เขาจะใช้ประกอบการพิจารณาคดีประเภทอาชญากรรมสงคราม (Criminal of War) จึงต้องรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด

และอยู่ระหว่างการประสานงานนำคณะผู้แทนกาชาดสากล หรือ ICRC ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ระหว่าง 11-14 ส.ค นี้ เพื่อเยี่ยมและสัมภาษณ์ประชาชนไทย รวมถึงสถานพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบ จากการโจมตีพื้นที่เป้าหมายที่เป็นพลเรือน ของกัมพูชา.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

“ครูก้อย” โพสต์ภาพอบอุ่นหัวใจ “น้องเมดา” ทำการ์ดบอกรักแม่ด้วยฝีมือตัวเอง

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บึ้มทหารไทยขาขาดอีกแล้ว-ถึงเวลาเอาคืนเขมร?

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แก้ปัญหาหน้าโทรม ใต้ตาคล้ำ ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างไรให้ปลอดภัย

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กลัวงู! งูเหลือมอยู่ในรถ ซอยนวลจันทร์ 9 อาสาร่วมด้วยเร่งช่วยเหลือ

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘หนุ่มไนจีเรีย’ ลอบเผ่นเข้าไทยอ้างอยู่ ‘เขมร’ ไม่ไหว จ่ายนายหน้า 400 เหรียญ ถูกหิ้วปล่อยไร่อ้อย

เดลินิวส์
วิดีโอ

ทหารแนวหน้า อัดคลิปสุดพิเศษ ถึงคนข้างหลัง ไม่ต้องห่วงอะไร ทุกคนคือนักสู้ จะกลับไปด้วยความภาคภูมิใจ

BRIGHTTV.CO.TH

ชัวร์ก่อนแชร์: Epstein Files คือแผนลวงโลกของเดโมแครต จริงหรือ?

สำนักข่าวไทย Online

ชัวร์ก่อนแชร์: Epstein Files คือแผนลวงโลกของเดโมแครต จริงหรือ?

ชัวร์ก่อนแชร์

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เข้าประจำการในวอชิงตัน ดี.ซี.ปราบปรามอาชญากรรม

JS100

2 ปี ‘คดีชั้น 14’ กว่าความจริงจะปรากฏ!!

ไทยพับลิก้า

ใครทันบ้างยกมือ? AOL ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯประกาศยกเลิกบริการอินเตอร์เน็ตแบบต่อโมเด็มที่เคยเฟื่องฟูสุดขีดยุค 90

Manager Online

สหประชาชาติ เผยกองทัพเมียนมามีแนวโน้มใช้ความรุนแรงต่อผู้ต้องสงสัยมากขึ้น

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...