“ส.ว.” ย้ำตั้งกมธ.ยกเลิก MOU 43-44 รอบคอบ หวั่นสูญเสียดินแดน พร้อมถกงบฯ69 1-2 ก.ย.
วันที่ 27 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ ส.ว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงว่า ที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งเป็นการประชุมลับของวุฒิสภา โดยได้ตั้งคณะกรรมการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU2543 และ MOU2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ส.ว. เป็นผู้เสนอ จำนวน 25 คน ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยผู้เสนอญัตติเห็นว่า MOU 2543 ว่าด้วยเรื่องการสำรวจและปักปันเขตแดนจากการยึดถือเส้นเขตแดนที่ต่างกัน คือ ไทยยึดตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ขณะที่กัมพูชายึดตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 และ MOU 2544 ว่าด้วยการอ้างสิทธิพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 26,000 ตารางเมตรล้วนทำให้ไทยเสียเปรียบ และเห็นว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับที่รัฐบาลไทยในอดีตได้ทำกับรัฐบาลกัมพูชานั้นมีปัญหา จะทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูญเสียดินแดนทั้งทางบกและทางทะเล อันเป็นผลประโยชน์ของชาติ ซึ่ง MOU เห็นว่าทั้ง 2 ฉบับเป็นส่วนที่ทำให้ไทยเสียเปรียบจึงต้องพิจารณายกเลิกอย่างรอบคอบและรอบด้าน
นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ได้พิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง ที่มี 150 กว่ามาตรา ที่สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบแล้ว และขอให้สบายใจว่าวุฒิสภามีวุฒิภาวะอย่างเพียงพอในการโหวตเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า ส.ว. ต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน สว. คงไม่ใช้วุฒิภาวะในการโหวตเพื่อผลประโยชน์ให้แก่กลุ่มคนหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้นเมื่อมีมาตราจำนวนมากจึงต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณา
โฆษกวิปวุฒิ กล่าวว่า ส่วนการประชุมวุฒิสภาสัปดาห์หน้าวันที่ 1 ก.ย.จะมีกระทู้ถามเป็นหนังสือ 6 กระทู้ และจะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง ที่ได้รับการพิจารณาจำนวน 2 คน ส่วนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จะมีการวันที่ 1-2 ก.ย. กำหนดกรอบเวลาให้สว.อภิปรายคนละ 10 นาที โดยจะอภิปรายเรียงตามความประสงค์ไม่ใช่เรียงตามมาตรา แต่จะเป็นหมวดหมู่คือภาพรวมงบประมาณเงินคงคลัง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ และด้านการบริหารอื่นๆ