เวียดนามอพยพกว่า 5 แสนคน หนีพายุคาจิกิ บ้านเรือน–เกษตร–คมนาคม เสียหายหนัก
เวียดนาม ได้เริ่มอพยพประชาชนมากกว่าครึ่งล้านคนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 สิงหาคม 2568) เพื่อเตรียมรับมือไต้ฝุ่นคาจิกิที่ขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งประเทศในช่วงบ่ายวันจันทร์ (25 สิงหาคม 2568)
พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ ซึ่งพัดถล่มเกาะไหหลำและบางส่วนของมณฑลกวางตุ้งของจีนในเย็นวันอาทิตย์ก่อนหน้านั้น เป็นเหตุที่ทำให้เวียดนามต้องอพยพประชาชนครั้งใหญ่ ปิดโรงเรียนและสนามบิน รวมถึงเตรียมแผนฉุกเฉินในจังหวัดชายฝั่งตั้งแต่แทงห์ฮวาไปจนถึงกว๋างตรี รัฐบาลเวียดนามแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า
นี่คือพายุที่อันตรายอย่างยิ่งและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
โดยรองนายกรัฐมนตรีเจิ้น หง็อก ฮา กล่าวในเช้าวันจันทร์ว่า ลมแรงอาจพัดต่อเนื่องหลายชั่วโมง เมื่อพายุผ่านไป อาจดูสงบลงชั่วคราวแต่จะกลับมารุนแรงขึ้นได้ น้ำท่วมและดินถล่มบางครั้งอันตรายยิ่งกว่าพายุคาจิกิ
คาจิกิ ขึ้นฝั่งเวียดนามด้วยความเร็วลมสูงสุด 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (82 ไมล์ต่อชั่วโมง) เเละเคลื่อนเข้าฝั่งในเวลา 16.00 น. วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นร่วม (JWTC) ระบุว่าความเร็วลมคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อพัดผ่านแผ่นดิน
เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย บาดเจ็บ 13 ราย บ้านเรือนเสียหายเกือบ 7,000 หลัง และพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 28,800 เฮกตาร์ถูกน้ำท่วม หลายจังหวัดรวมถึงแทงห์ฮวา, เหงะอาน, ฮาตินห์, ไทยเหงียน และฟู้โถ เผชิญไฟฟ้าดับหลังจากเสาไฟฟ้ากว่า 331 ต้นถูกพายุโค่นล้ม
แม้ความรุนแรงของพายุคาจิกิจะลดลงในเย็นวันจันทร์ แต่ลมแรงยังคงพัดต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้ (26 สิงหาคม 2568) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์แห่งชาติของเวียดนามระบุว่า บางพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนัก
เวียดนามเตรียมรับพายุรุนแรง
รัฐบาลเวียดนามคาดการณ์ว่า พายุคาจิกิซึ่งเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 5 ของปีนี้ จะมีความรุนแรงใกล้เคียงกับไต้ฝุ่นยางิที่พัดถล่มตอนเหนือของเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 300 ราย และสร้างความเสียหายกว่า 3 พันล้านดอลลาร์
นักอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามระบุว่า คาจิกิเป็นพายุที่ผิดปกติมากและการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเป็นสัญญาณที่น่ากังวล
รายงานจาก VnExpress ระบุว่า พายุนำฝนตกหนักเข้ามาในเวียดนาม โดยบางพื้นที่อาจมีฝนสะสมสูงถึง 40 เซนติเมตร (15 นิ้ว) และบางแห่งอาจมีฝนตกหนักถึง 20 เซนติเมตร (7 นิ้ว) ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ระดับน้ำบนทางหลวงหมายเลข 6 ซึ่งเชื่อมกรุงฮานอยกับจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือสูงเกือบ 1 เมตร (3.2 ฟุต) จนทำให้รถหลายคันไม่สามารถสัญจรได้
นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋ง ออกคำสั่งไปยังรัฐมนตรี ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ให้เร่งอพยพและโยกย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย แถลงการณ์รัฐบาล ว่า มีทหารกว่า 16,500 นาย และกองกำลังอาสาสมัครกว่า 107,000 นาย เตรียมพร้อมช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัย
สนามบินในจังหวัดแทงห์ฮวาและกว๋างบิ่งถูกสั่งปิดเมื่อวันจันทร์เพื่อความปลอดภัย ขณะที่สายการบิน Vietnam Airlines และ Vietjet ยกเลิกเที่ยวบินจำนวนหนึ่ง
บริษัทการรถไฟแห่งชาติเวียดนามยังประกาศระงับขบวนรถไฟโดยสารในเส้นทางฮานอย–โฮจิมินห์บางเที่ยวเพราะพายุ ชาวประมงในพื้นที่ชายฝั่งตอนกลางที่พายุจะพัดผ่านได้รับคำสั่งให้นำเรือกลับเข้าฝั่งและจอดเทียบท่า
TIME รายงานว่า องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMC) ที่ปักกิ่ง ระบุว่า พายุคาจิกิจะส่งผลกระทบต่อ สปป.ลาว ภาคเหนือของไทย กัมพูชาตะวันออก และภาคกลางของเมียนมา พายุลดระดับเป็นดีเปรสชันเขตร้อนเมื่อเข้าสู่ลาวในเช้าวันอังคารด้วยความเร็วลมสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (55 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ทางการไทยออกประกาศเตือนภัยพิบัติใน 58 จังหวัด และเตือนว่าพายุอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือในเย็นวันอังคาร คลื่นทะเลในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนคาดว่าจะสูงถึง 3 เมตร (9.8 ฟุต)
อ้างอิง
- vnexpress