ครม. ไฟเขียวงบฯ ปี 69 องค์กรร่วมไทย–มาเลเซีย 5.6 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าแผนพัฒนาปิโตรเลียมต่อเนื่อง
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2569 ขององค์กรร่วมไทย–มาเลเซีย (องค์กรร่วมฯ) วงเงินรวม 5,648,400 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยใช้เงินรายได้จากการขายปิโตรเลียมในส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 จำนวน 5,480,854 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และงบเหลือจ่ายปี 2567 เป็นแหล่งทุนหลัก
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์กรร่วมฯ ได้เสนอขอตั้งงบประมาณประจำปี 2569 เพื่อดำเนินงานเป็นจำนวน 5,648,400 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วย
1. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จำนวน 5,436,000 ดอลลาร์สหรัฐ
2. ค่าใช้จ่ายที่เป็นทุน จำนวน 212,400 ดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งต่ำกว่างบประมาณประจำปี 2568 ที่ได้รับอนุมัติ เป็นจำนวน 74,400 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 1.30 ทั้งนี้ งบประมาณดังกล่าว องค์กรร่วมฯ ได้เสนอขอใช้เงินที่ได้รับจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 จำนวน 5,680,854 ดอลลาร์สหรัฐ และจากงบประมาณเหลือจ่ายของปี 2567 จำนวน 167,546 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าในปีงบประมาณ 2569 จะมีรายได้รวมประมาณ 447.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ องค์กรร่วมฯ มีแผนการดำเนินงานในปี 2569 ในกิจกรรมสำคัญที่จะดำเนินการในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ดังนี้
ด้านแปลง A – 18 มีแผนการดำเนินการ
- ไม่มีแผนเจาะหลุมประเมินผลในปี 2569
- มีแผนการหยุดผลิตทั้งระบบเป็นเวลา 10 วัน เพื่อกิจกรรมบำรุงรักษา
- ดำเนินการจัดหาและขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว
- บำรุงรักษา ซ่อมแซมและแก้ไขหลุมผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ
- บริหารจัดแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมและติดตามผล เพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพ
ด้านแปลง B – 17 – 01 มีแผนการดำเนินการ
- มีแผนการเจาะหลุมประเมินผลจำนวน 2 หลุมในปี 2569
- มีเป้าหมายในการเจาะหลุมพัฒนา จำนวน 72 หลุม บนแท่นผลิต Andalas - E แท่นหลุมผลิต Jengka – C และแท่นหลุมผลิต Andalas – D
- มีแผนการหยุดผลิตทั้งระบบจำนวน 2 ครั้ง (เดือนเมษายนและกันยายน 2569) ครั้งละ 10 วัน เพื่อตรวจสอบและบำรุงรักษา Booster Compressor และ Sale Gas Compressor และบำรุงรักษาวาล์วสำคัญต่าง ๆ
- ดำเนินการจัดหาและขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว
- บำรุงรักษาอุปกรณ์และสิ่งติดตั้งที่ใช้ในการผลิตปิโตรเลียม
ทั้งนี้ สำหรับการบริหารจัดการปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย ตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลง A-18 และแปลง B-17-01 ซึ่งมีแผนการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการสำรวจพัฒนา และผลิตปิโตรเลียม