"ออกญา" ในกัมพูชา ไม่ได้มาง่ายๆ ต้องแลกกับอะไรบ้าง รู้แล้วจะช็อก
ออกญา ในประเทศกัมพูชา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้มาง่ายๆ ต้องแลกกับสิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
จากกรณีที่พระราชกฤษฎีกาประเทศกัมพูชา ประกาศเพิกถอนบรรดาศักดิ์ "ออกญา" ของ เชง เสร็ยร็วต หรือ วัน มรณา อินฟลูเอนเซอร์วงการความงามและแม่ค้าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชื่อดังชาวกัมพูชา และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประกาศ ณ วันที่ 19 ส.ค. 2025
แน่นอนว่าการจะะได้บรรดาศักดิ์ออกญามาประดับบารมี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะล่าสุด นายทรงฤทธิ์ โพนเงิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง กล่าวในรายการถกไม่เถียงว่า การจะได้คำว่า "ออกญา" นำหน้าชื่อไม่ใช่เรื่องที่จะได้มาง่ายๆ เพราะต้องบริจาคเงินจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยราว 16,190,000 บาท) ให้กับรัฐบาลกัมพูชา ถึงจะใช้คำว่า "ออกญา" นำหน้าชื่อได้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจขนาดใหญ่ และกลุ่มทหารระดับชั้นนายพลเท่านั้นถึงจะใช้คำว่า "ออกญา" นำหน้าชื่อได้
กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนคือ สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา มองว่ามีคนใช้ออกญาค่อนข้างเยอะ จึงมีแนวคิดที่จะปลดทหารออก จึงยื่นข้อเสนอให้ทหารเลือกระหว่างจะใช้คำว่าออกญา หรือนายพล หากต้องการรักษาบรรดาศักดิ์ออกญา รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องปลดนายพลออก หากต้องการเป็นนายพล ก็จะถอดคำว่าออกญาออก แม้จะเสียเงิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้รัฐบาลกัมพูชาไปแล้วก็ตาม
ปัจจุบันชาวกัมพูชาที่ได้รับบรรดาศักดิ์ "ออกญา" มีจำนวนกว่า 3,000 คน เท่ากับว่า รัฐบาลได้รับเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 1,500,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 48,570,000,000 บาท
สรุปคุณสมบัติ-หน้าที่
คุณสมบัติ: ผู้ที่จะได้รับตำแหน่งออกญาจะต้องบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับรัฐบาลหรือโครงการเพื่อสังคม ปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หน้าที่: ผู้ที่ได้รับตำแหน่งออกญามีหน้าที่ในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง พวกเขามักจะเป็นนักธุรกิจที่มีอิทธิพลและบทบาทสำคัญในประเทศ
สิทธิพิเศษ: ผู้ที่ได้รับตำแหน่งออกญาจะได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง เช่น การได้รับการยกย่องจากสังคม การมีโอกาสใกล้ชิดกับชนชั้นนำและข้าราชการระดับสูง
ในอดีต ตำแหน่งออกญาเป็นตำแหน่งขุนนางที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ที่มอบให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศเป็นหลัก