PTTGC ปิโตรเคมีเริ่มฟื้น-มุ่งลดต้นทุน เพิ่มรายได้หนุนโต
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 23.23 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น-PTTGC ภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มฟื้น จากสัญญาณควบคุมการผลิต ปิดโรงงานเก่า แต่ยังพบว่ามีซัพพลายสูงกว่าดีมานด์ในตลาด จึงยังมุ่งลดต้นทุน เพิ่มรายได้ต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังตั้งเป้าเพิ่มอีก 3,600 ล้านบาท คาดหนุนทั้งปีเพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท
นายปวีณ เจียสกุล ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า การดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นในเรื่องของการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ผ่านแผนการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือ Holistic Optimization และ Asset Light ทำให้ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายแล้ว 1,900 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์ตลาดที่มีความท้าทาย ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ แต่ครึ่งปีหลังนี้ บริษัทก็มีเป้าหมายที่จะทำเพิ่มอีก 3,600 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีจะเพิ่มมาเป็น 5,500 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายระยะยาวในปี 2573 จะเพิ่ม EBITDA ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี
อย่างไรก็ตามหากมองไปในครึ่งปีหลังนี้ และยาวไปในปี 2569 แผนการเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ จะช่วยให้รักษาระดับของผลประกอบการเอาไว้ได้ โดยเริ่มเห็นสัญญาณการควบคุมการผลิตในตลาด และการปรับโครงสร้าง หรือปิดโรงงานเก่าในหลายประเทศ หนุนภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มปรับตัวดีขึ้น
“ภาพรวมอุตสาหกรรมในปัจจุบันยังมีซัพพลายเกินกว่าความต้องการในตลาดอยู่ ทำให้บริษัทหันมาปรับปรุงการดำเนินงานภายใน ทั้งการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ต่างๆ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเราก็ทำเห็นผลมาแล้ว ที่ 1,900 ล้านบาท และครึ่งปีหลังก็มีเป้าทำเพิ่มอีก 3,600 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีจะเพิ่มมาเป็น 5,500 ล้านบาท คาดช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามภาพตลาดก็ยังต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด และบริหารสถานการณ์ต่อเนื่อง แต่หากดูในช่วงครึ่งปีแรก หลายผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับราคา และสเปรดที่ต่ำมากแล้ว” นายปวีณ กล่าว
สำหรับผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังนี้หรือไม่ ต้องติดตามดูในเรื่องของราคาน้ำมันดิบ โดยคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากครึ่งปีแรกที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 67 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ทั้งปีคาดการณ์ว่าจะเฉลี่ยอยู่ราว 69-73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ด้านการนำเข้าอีเทนจากสหรัฐ ยังเป็นไปตามแผน โดยจะเริ่มนำเข้าในปี 2572 จากปัจจุบันได้มีการเซ็นสัญญากับทางผู้ขายเรียบร้อยแล้ว
การลงทุนในอนาคต จะมุ่งเน้นในเรื่องของความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการนำเข้าอีเทนจากสหรัฐ และขยายกำลังการผลิตของ Allnex เป็นหลัก โดยที่ยังไม่มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงยังไม่มีแผนขายบริษัทย่อยเพิ่มติม หลังจากปิดดีลขายหุ้นในบริษัทร่วมค้า บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (PTTAC) ไปในปีก่อน และล่าสุดได้อนุมัติขายหุ้นทั้งหมดใน Vencorex US และ Vencorex Thailand ให้บริษัทย่อยของ Covestro AG คาดว่าธุรกรรมจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในปีนี้ หรืออย่างช้าปี 2569 และน่าจะสามารถบันทึกกำไรกลับเข้ามาราว 400-600 ล้านบาท
โดยจากการขายหุ้นทั้ง 2 บริษัท จะทำให้ PTTGC ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนสุทธิ แต่จะส่งผลบวกต่อกำไรราว 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้การทำ Asset light strategy บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาหาผู้ซื้อในธุรกิจ Non-core assets หรือธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปิโตรเคมี และโรงกลั่นโดยตรง ซึ่งตั้งเป้าหมายเพิ่มกระแสเงินสดจากการดำเนินงานดังกล่าวไว้ที่ 30,000 ล้านบาท และมีแผนนำเงินในส่วนนี้ไปลดหนี้