Gen Z ให้ "กรุงเทพฯ" เป็นเมืองที่ดีที่สุดเพราะค่าครองชีพถูก แต่คนไทยมองต่างเพราะของยังแพง
สังคม - สิ่งแวดล้อม - ความสะดวกสบาย
หลายคนอาจเลือกที่อยู่อาศัยจากปัจจัยเหล่านี้ เพราะใครๆ ก็อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อใจ แต่ “การเงิน” ถือเป็นหัวใจหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกว่าจะปักหลักที่ไหน เนื่องจากแต่ละเมืองจะมีค่าครองชีพที่ต่างกัน และจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่กระทบเงินในกระเป๋าด้วย
“กรุงเทพฯ” เมืองน่าอยู่ของ Gen Z เพราะค่าครองชีพถูก
จากผลสำรวจปี 2568 จากนิตยสาร Time Out หัวข้อ “Best Cities For Gen Z” พบว่า Gen Z ยกให้กรุงเทพฯ เป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวงที่ดีที่สุดในโลก แซงหน้าคู่แข่งอย่างเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ
โดย Time Out ระบุว่า 66% ของ Gen Z โหวตให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ เพราะมีสีสัน เป็นมิตร และมี Community ที่ดี ซึ่งเหมาะกับการหาเพื่อนใหม่ที่สุดเมื่อเทียบเมืองอื่น ๆ และสิ่งที่ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่ครองใจคนกลุ่มนี้ได้เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก
Gen Z ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ด้านสีสันของชีวิต, Work-life balance หรือประสบการณ์ที่แตกต่าง แต่ยังเน้นค่าครองชีพของเมืองนั้นๆ ด้วย เพราะสิ่งสำคัญที่จะสร้างความสุขอย่างแท้จริงให้พวกเขาอาจเป็นการมีเงินใช้แบบที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
เรื่องนี้ยังสอดคล้องกับผลสำรวจว่า 71% ของ Gen Z ยกให้กรุงเทพฯ ยืนหนึ่งในใจคนหนุ่มสาวเพราะค่าครองชีพเป็นมิตรกับกำลังทรัพย์ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องอาหารราคาถูกเท่านั้น แต่รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ เช่น ค่าเช่าบ้าน การเดินทาง
แม้ว่าผลสำรวจจากต่างประเทศจะมองว่า กรุงเทพฯ มีค่าครองชีพที่เหมาะสมและทำให้เขามีชีวิตที่ดีได้นั้น อาจสวนทางกับความรู้สึกของคนไทยที่มองว่าค่าใช้จ่ายในการจะอยู่ในกทม. สูงลิ่ว และเพิ่มขึ้นทุกปี เช่น ข่าวที่ข้าวกะเพรา 1 จานมีราคาเพิ่มมากขึ้น 106% ภายใน 13 ปี ซึ่งมาจากการเก็บข้อมูลและสำรวจโดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
อ่านเพิ่มเติม : https://www.thairath.co.th/money/personal_finance/financial_planning/2865625
“อยู่ในเมือง” ยังไงให้ “อยู่รอด”
เมื่อค่าครองชีพในกรุงเทพฯ ยังสูงขึ้น ท่ามกลางรายได้ของคนที่โตไม่ทัน อาจต้องเริ่มจากการบริหารเงินให้เป็นก่อน โดย Thairath Money ได้ยกตัวอย่าง 4 วิธีบริหารเงินให้อยู่รอดเมื่อต้องอยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพสูง ได้แก่
1. ก่อนใช้ “ต้องคิด - เปลี่ยนพฤติกรรม”
เมื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ให้เริ่มด้วยการแยกค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อวางแผนให้รอบคอบ เช่น เลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็น และลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยให้น้อยลงเพื่อให้ประหยัดมากขึ้น
2. หารายได้เสริม
หากปรับวิธีการใช้เงินแล้วยังไม่พอ เราอาจต้องปรับตัวเพิ่มด้วยการอัปสกิลตัวเองเพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลง แต่อย่าทำงานจนเหนื่อยจนเกินไปเพราะอาจมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพตามมา
3. มีหนี้ได้ แต่อย่าสร้างหนี้เสีย
สินเชื่อหรือหนี้ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะบางคนอาจใช้เพื่อซื้อของจำเป็นที่ราคาสูง เช่น ผ่อนตู้เย็น มือถือเราอาจใช้บัตรเครดิตที่มีโปร 0% ระยะ 4 เดือน แต่ต้องจ่ายให้ตรงเวลาเพื่อไม่สร้างหนี้เสีย เพราะหากเราผิดนัดชำระจนเกิดเป็นหนี้เสีย อาจลดทอนความน่าเชื่อถือทางการเงินของเราทำให้ขอกู้ยืมครั้งต่อไปได้ยากขึ้น
4. มีเงินสำรองยามฉุกเฉิน
ข้อสุดท้าย จะเริ่มวางแผนการเงินต้องรอบคอบและเตรียมความพร้อมเพื่อรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ผ่านการออมเป็น 'เงินสำรองฉุกเฉิน' ซึ่งจะเป็นเสมือนเบาะรองรับเมื่อเราล้มลง เช่น เตรียมเงินก้อน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
ที่มา: Timeout, KTC
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Gen Z ให้ "กรุงเทพฯ" เป็นเมืองที่ดีที่สุดเพราะค่าครองชีพถูก แต่คนไทยมองต่างเพราะของยังแพง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คนโสดครองเมือง ใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิต “ภาพลักษณ์” ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่คือ “การลงทุนในตัวเอง”
- เปิดดวงชะตา 3 วันเกิด ลูกหนี้ถามหาจะได้เงินคืน โชคลาภมาจากคนใกล้ชิด
- 6 ธนาคารพร้อมใจ! หั่นดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี รับลูกหลัง กนง. ลดดอกเบี้ยเมื่อวานนี้
- บุกรวบยกแก๊ง “เวียดนามเทา” จ้างคนไทยเปิดบัญชีม้ารายวัน ให้ค่าตอบแทนคนละ 3-5 พันบาท
- การเงินปั่นป่วน หมอดูดังเตือน คนวันทั้ง 7 ชีวิตพลิก ไม่เป็นดังใจ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath