“รังสิมันต์” ห่วงข้อตกลง GBC แนะอย่าเร่งยกเลิก MOU43-44
"รังสิมันต์" ห่วงข้อตกลง GBC ไทย-กัมพูชา แนะอย่าเร่งยกเลิก MOU43-44 ชี้ ต้องมีทางออกที่ดีกว่า ปูด "พลเรือน บ." เอี่ยวทุจริตเรือดำน้ำ บอกกองทัพเรืออยากได้ฟริเกตมากกว่า
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ แสดงความกังวลหลังการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซีย โดยชี้ว่าฝ่ายไทยควรรักษาความชอบธรรมในเวทีนานาชาติ พร้อมตั้งคำถามว่ากัมพูชาจะรักษาข้อตกลงได้จริงหรือไม่ พร้อมแนะนำว่า หากจะยกเลิก MOU 2543 และ 2544 ต้องมีกลไกอื่นที่ดีกว่ามาทดแทน และไม่ควรตัดสินใจอย่างเร่งรีบ
เพราะต้นเหตุปัญหาแนวชายแดน ไม่ได้มาจาก MOU แต่เกิดจากความตกต่ำในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ
นายรังสิมนต์ ยังทักท้วงเรื่องรัฐบาลจัดการข้อมูลล่าช้า โดยเฉพาะการสื่อสารกับประชาชนในกรณี "ตาควาย" และ "ช่องอานม้า" ที่อาจสร้างความเข้าใจผิด พร้อมตั้งคำถามถึงบทบาทของกระทรวงต่างประเทศ และนายกรัฐมนตรีรักษาการ
ในด้านความมั่นคง นายรังสิมันต์ เสนอให้ใช้เวที GBC เป็นเครื่องมือเจรจาแก้ปัญหาแทนการเผชิญหน้า และชี้ว่าไทยควรเร่งผลักดันประเด็นทุ่นระเบิดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เป็นวาระระดับนานาชาติ โดยเตือนว่าการโทษกันภายในรัฐบาลเรื่องงบเยียวยา เป็นการแสดงถึง "วุฒิภาวะที่ขาดหายไป"
ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยความน่ากังวลกรณีจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ที่ชี้ชัดว่า ไทยถูกบีบ ต้องยอมใช้เครื่องยนต์จีนแทนเยอรมัน ทั้งที่ฝ่ายจีนผิดเงื่อนไขสัญญาเดิม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีเบื้องหลังการทุจริต โดยเฉพาะการมีส่วนเกี่ยวข้องของบุคคลระดับ "พลเรือน" อักษรย่อ "บ." ที่เป็นตัวละครสำคัญอยู่เบื้องหลัง
นายรังสิมันต์ ระบุว่า จริงๆ แล้วกองทัพเรือมีความจำเป็นต้องใช้ "เรือฟริเกต" มากกว่าเรือดำน้ำ เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การป้องกันน่านน้ำได้ตรงจุดมากกว่า แต่กลับถูกเบี่ยงเบนงบไปจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่ยังมีข้อครหาทางเทคนิค และข้อกังขาเรื่องการจัดหาเครื่องยนต์ที่ไม่เป็นไปตามแผนเดิม
ทั้งนี้ พรรคประชาชนยังยืนยันสนับสนุนให้มีการจัดหาอาวุธอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อป้องกันประเทศในสถานการณ์วิกฤติ แต่ไม่อาจยอมให้การจัดซื้อเต็มไปด้วยการคอร์รัปชันที่บั่นทอนความมั่นคงและประสิทธิภาพของกองทัพ
"เราไม่ได้ต้องการจะรุกรานชาติอื่น แต่การจัดหาอาวุธควรตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ความมั่นคงของคนบางกลุ่ม"
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews