บุรีรัมย์มั่นใจ! สนามช้างยังอยู่ครบ จัดเต็มทุกแมตช์ ไม่มีสะดุด!
ตัวแทนภาคเอกชน นำโดย คุณตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และ คุณประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและสื่อสารบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วยคุณชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ แถลงข่าวชี้แจงกรณีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินกว่า 5,083 ไร่ บริเวณเขากระโดง หลังจากที่ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย และ รมช.มหาดไทย เคยแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568
โดยยืนยันว่า สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, สนามช้างอารีน่า และที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว มีโฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ที่ดิน 5,083 ไร่ ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพราะ รฟท. ไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหรือจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่แนบท้ายและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง รฟท. ใช้เพียงแผนที่จากกรมที่ดินปี 2539 เป็นหลักฐานในชั้นศาลเท่านั้น ดังนั้น รฟท. ไม่มีสิทธิ์หวงห้ามเอกชนครอบครองที่ดินดังกล่าว
คุณประมูลชัย ยืนยันว่า ตั้งแต่มีคำสั่งเพิกถอน ยังไม่มีเอกสารแจ้งถึงสนามช้างหรือสโมสรใด ๆ โดยช้าง อารีน่า จะยังคงเป็นสนามเหย้าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลใหม่ ทั้งในไทยลีก, เอฟคัพ, ลีกคัพ และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ตามแผนที่วางไว้
ขณะที่คุณตนัยศิริ ชี้แจงว่า สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ไม่ได้รุกล้ำที่ของการรถไฟหรือที่หลวงใด ๆ โดยคำพิพากษาที่ออกมาส่งผลกระทบเพียง 35 แปลงที่ดิน ซึ่งสนามช้างฯ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมยืนยันจะจัดการแข่งขันทุกรายการตามปฏิทินที่วางไว้ และมั่นใจว่าข้อพิพาทเรื่องที่ดินจะไม่กระทบต่อการต่อสัญญาโมโตจีพี ซึ่งเป็นการพิจารณาของรัฐบาลต่อไป
แถลงการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 เพื่อสร้างความชัดเจนและความมั่นใจต่อสาธารณะและทุกภาคส่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ดินบริเวณเขากระโดง