เดิมพันยูเครน ผู้นำยุโรปหนุนเซเลนสกี ก่อนเจอทรัมป์ หลังปูตินกวาดชัยอลาสกา
ผู้นำยุโรปเตรียมเปิดฉากประชุมออนไลน์เร่งด่วนในวันอาทิตย์นี้ เพื่อค้ำยันจุดยืนของยูเครน ท่ามกลางแรงกดดันทางการทูตครั้งใหญ่ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี เตรียมเดินทางสู่กรุงวอชิงตันเพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้ยูเครนยอมรับข้อตกลงยุติสงคราม แม้ข้อเสนอจากรัสเซียจะหมายถึงการสูญเสียพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศ
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังการประชุมซัมมิตที่อลาสกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์ได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยแหล่งข่าวระบุว่า รัสเซียยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนการสละพื้นที่เล็กน้อยกับการครอบครองดินแดนยูเครนในวงกว้าง ข้อเรียกร้องที่ถูกมองว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่ยูเครนจะยอมรับ ผลลัพธ์จากซัมมิตครั้งนี้ถูกอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหราชอาณาจักรมองว่าเป็น “ชัยชนะที่ชัดเจน” ของปูติน เนื่องจากทรัมป์ถอยจากจุดยืนก่อนหน้าที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที
ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ซึ่งนำโดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ กำหนดประชุมร่วมในนาม “coalition of the willing” หรือพันธมิตรอาสา เพื่อประสานแนวทางก่อนที่เซเลนสกีจะเผชิญหน้าทรัมป์ โดยยุโรปต้องการผลักดันให้มีการจัดการประชุมสามฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน เพื่อให้เคียฟมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตตนเอง พร้อมยืนยันเรียกร้องหลักประกันความมั่นคงที่แข็งแกร่งและมีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า หลังซัมมิตอลาสกา ทรัมป์ได้โทรศัพท์ถึงเซเลนสกี แจ้งว่าปูตินเสนอจะตรึงแนวรบไว้เกือบทั้งหมด หากยูเครนยอมสละภูมิภาคดอแนตสก์ทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญและหนึ่งในเป้าหมายหลักของมอสโก โดยปัจจุบันรัสเซียครอบครองแล้วราวสามในสี่ของพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เริ่มยึดครองในปี 2014 แต่เซเลนสกีได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้ทันที
ทรัมป์ยังเปลี่ยนท่าทีสำคัญ โดยเห็นพ้องกับปูตินว่าควรหาข้อตกลงสันติภาพโดยไม่จำเป็นต้องมีการหยุดยิงล่วงหน้า ซึ่งตรงข้ามกับจุดยืนก่อนการประชุมที่เขายืนยันว่าจะไม่พอใจหากไม่มีการหยุดยิง ด้านเซเลนสกีออกมาโต้ว่า การหยุดสังหารคือกุญแจสำคัญของการยุติสงคราม พร้อมเผยแพร่ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ว่าการที่รัสเซียไม่ยอมชะลอการสู้รบจะทำให้ความพยายามหาสันติภาพยั่งยืนยิ่งซับซ้อน
สถานการณ์บนภาคพื้นดินยังตึงเครียด โดยกองทัพอากาศยูเครนเผยว่า รัสเซียโจมตีด้วยโดรน 60 ลำและขีปนาวุธอีก 1 ลูกในคืนวันเสาร์ แต่ถูกสกัดได้เกือบสองในสาม ยืนยันว่าภัยคุกคามทางทหารยังไม่สิ้นสุด ขณะเดียวกันยุโรปเตรียมส่งสัญญาณสนับสนุนเซเลนสกีอย่างชัดเจน ก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นเวทีใหญ่ในทำเนียบขาว ซึ่งครั้งก่อนในเดือนกุมภาพันธ์เต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อทรัมป์และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อผู้นำยูเครนต่อหน้าสื่อ
แม้ยูโรปจะประกาศยืนหยัดเคียงข้างยูเครน แต่นายกรัฐมนตรีเมิร์ซก็ยอมรับว่า บทบาทชี้ขาดยังอยู่ที่สหรัฐฯ ทั้งในเชิงการทหาร มาตรการคว่ำบาตร และแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่จะทำให้รัสเซียต้องปรับท่าที ด้านปูตินยังคงยืนกรานข้อเรียกร้องเดิม รวมถึงการห้ามยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO
อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอังกฤษมาร์ก ลายอัล แกรนท์ สรุปว่า แม้ซัมมิตอลาสกาจะเป็นชัยชนะเชิงกลยุทธ์ของปูติน แต่สิ่งที่ยังถือเป็นสัญญาณบวกคือ สหรัฐฯ ดูมีความพร้อมที่จะเข้ามามีบทบาทในการให้หลักประกันความมั่นคงต่อยูเครน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้รัสเซียใช้เวลาเพียงเพื่อฟื้นกำลังและกลับมารุกรานอีกครั้งในอนาคต