ลุยตรวจ รร.สอนภาษา 3 แห่ง ถูกร้องรีดเงินส่งคนไทยฝึกงานเทคนิคที่ญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการเข้าไปตรวจสอบกรณีแรงงานไทยตามโครงการฝึกงานเทคนิคที่ประเทศญี่ปุ่นร้องเรียนว่าถูกเอกชนไทย เรียกเก็บเงิน โดยไม่มีการออกเอกสารรับรอง บังคับกู้เงิน เปิดบัญชีม้า ยึดบัตร ATM ว่า ตอนนี้ตนได้ให้กองทะเบียนดำเนินการตรวจสอบ ทั้งในส่วนของโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น และองค์กรผู้ส่ง ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานในประเทศไทย โดยต้องรอผลในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็น่าจะมีความคืบหน้าในการตรวจสอบ
นายสมชาย กล่าวว่า กรณีการส่งคนไปทำงานที่ญี่ปุ่น ที่เรียกว่าการฝึกงานนั้นมี 2 รูปแบบ 1. กรณีรัฐจัดส่ง ในโครงการ IM Japan ของกรมการจัดหางาน ซึ่งเราก็ได้จัดส่งเป็นประจำอยู่แล้ว 2. องค์กรผู้รับในประเทศญี่ปุ่นกับองค์กรผู้ส่งในประเทศไทย คือบริษัทจัดหางานเอกชน เป็นคนส่ง โดยในส่วนที่เป็นปัญหาตามที่มีการเสนอข่าวอยู่ขณะนี้น่าจะเป็นกรณีองค์กรผู้รับ-ผู้ส่งเอกชนดำเนินการเอง ซึ่งหากดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายก็จะต้องขออนุญาต ขออนุมัติจากกรมการจัดหางาน เพื่อจัดส่งไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปตามรูปแบบที่ 1 ที่กรมการจัดหางานเป็นคนส่ง หรือรูปแบบที่ 2 คือเอกชนเป็นคนส่ง ก็จะต้องได้รับการดูแลคุ้มครองโดยกระทรวงแรงงานแน่นอน เราสามารถเข้าไปดูแลจัดการกรณีที่เกิดปัญหาได้ เช่น ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้กระทั่งถูกส่งกลับโดยไม่ได้มีการกระทำผิดอะไร ก็จะมีกองทุนช่วยเหลือผู้ทำงานในต่างประเทศดูแลอยู่ แต่ถ้าเป็นกรณีที่องค์กรผู้รับในญี่ปุ่นกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราก็จะมีสำนักงานแรงงานที่ประเทศญี่ปุ่นดูแล โดยแรงงานที่ได้รับความไม่เป็นธรรมหรือเดือดร้อนสามารถแจ้ง สำนักงานแรงงานที่ญี่ปุ่นได้เลย
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการเข้าไปตรวจสอบฝ่ายไหนบ้าง อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับในขณะนี้เราให้มีการตรวจสอบโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น เบื้องต้นตอนนี้ก็ 3 แห่ง และตรวจสอบองค์กรผู้ส่งจากประเทศไทย ซึ่งเป็นเอกชน ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร มีการกระทำอะไรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งคงจะทราบผลการตรวจสอบประมาณวันจันทร์นี้ นอกจากนี้ยังได้ประสานสำนักงานแรงงานที่ประเทศญี่ปุ่นให้เข้าไปตรวจสอบร่วมกับองค์กรผู้รับจากทางญี่ปุ่นให้เข้าไปช่วยตรวจสอบด้วย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาตั้งแต่ต้นทางที่ประเทศไทยมีการแจ้งว่า แรงงานถูกให้จ่ายเงินสดหรือโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคลโดยไม่มีการออกเอกสารรับรอง ขณะเดียวกันก็มีการเก็บโทรศัพท์มือถือไม่ให้มีการบันทึกเอกสารต่างๆ จะทำให้ตรวจสอบยากหรือไม่ และจะต้องมีการใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าไปตรวจสอบอะไรหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ทางเรากำลังตรวจสอบอยู่ รวมถึงมีการประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้เข้าไปตรวจสอบโรงเรียนสอนภาษาเหล่านี้ด้วย ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ มีการเรียกเก็บค่าเล่าเรียนถูกต้องตามกฎ กติกาของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ เป็นการดำเนินการควบคู่กันไป ส่วนจะถึงขั้นต้องตรวจสอบเส้นทางเงินที่เข้าบัญชีตามที่แรงงานระบุถึงหรือไม่นั้น คงต้องดูก่อนว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่ากรณีแรงงานถูกบังคับให้เปิดบัญชีธนาคารถูกยึดบัตร ATM เอาไว้ แรงงานควรทำอย่างไร เพราะบางคนต้องยอมเพราะกังวลว่าจะไม่ได้บินไปที่ญี่ปุ่น นายสมชาย กล่าวว่า ลักษณะเช่นนี้ทำไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ การที่ให้แรงงานเปิดบัญชีแล้วยึดบัตร ATM แม้กระทั่งการยึดพาสปอร์ต ยึดโทรศัพท์ ทำไม่ได้แน่นอน หากน้องๆ หรือคนที่ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น เจอเหตุการณ์อย่างนี้ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่นหน่วยงานที่ใกล้ที่สุดก็คือสำนักงานแรงงานไทยในญี่ปุ่น แจ้งพฤติกรรมที่ประสบมาแจ้งว่าอยู่กับองค์กรไหน ชื่ออะไร มีพฤติกรรมอย่างไร แล้วทางสำนักงานแรงงานของเราก็จะร่วมกับประเทศญี่ปุ่น เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือตรวจสอบอย่างเข้มข้น นี่คือสิ่งสำคัญที่คนไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นจะต้องให้ความสนใจ.