ราชทัณฑ์เผย ‘ลุงพล’ นอนคุกคืนแรก ปรับตัวได้ คุยจ้อเพื่อนร่วมห้องขัง
จากกรณี ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาในคดี "น้องชมพู่" โดยให้จำคุก นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เป็นเวลา 26 ปี ส่วน น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ให้ยกฟ้อง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายไชย์พล ไปยังเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากศาลฎีกาอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.45 น. ของวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้รับตัว นายไชย์พล ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสิน 26 ปี และอยู่ระหว่างฎีกา โดยทางเรือนจำได้ตรวจร่างกายแรกรับทั่วไป พบว่ามีผลปกติ ไม่พบบาดแผล พร้อมทั้งปฏิเสธโรคประจำตัว และไม่มียาใด ๆ ติดตัวมา ขณะที่การตรวจสุขภาพจิตไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่แสดงอาการเครียดให้เห็นชัดเจนมากนัก แต่ก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขังอื่นเป็นปกติ โดยเจ้าตัวมีการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในเรือนจำเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ทั้งนี้ ยังไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการรับตัวเข้าเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายไชย์พล เข้าห้องแยกกักโรคโควิด-19 รวม 5 วัน โดยให้อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังรับใหม่รายอื่น ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่ได้แสดงอาการเศร้าหมองหรือแยกตัว คาดว่าต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ ซึ่งเป็นไปตามปกติของการเข้าเรือนจำวันแรก จากนั้นหากแยกกักโรคครบ 5 วันแล้ว จึงจะนำไปคุมขังรวมกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ต่อไป ทั้งนี้ ญาติสามารถติดต่อขอเยี่ยมที่เรือนจำได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ส.ค.
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า สำหรับอาหารมื้อเย็นวันที่ 13 ส.ค. ซึ่งทางเรือนจำจัดเตรียมไว้ให้เป็นเมนูข้าวสวย ต้มยำไก่ ผัดคะน้าหมู โดยพบว่านายไชย์พล รับประทานอาหารได้เกือบหมด เนื่องจากแจ้งว่าไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่ช่วงกลางวัน พร้อมกันนี้ เรือนจำได้มอบหมายผู้ช่วยงานคอยสังเกตดูแลอย่างใกล้ชิด.